บทที่ 75 ได้กำไรและไม่ขาดทุน
บรรยากาศในห้องจับตัวแน่นขึ้นมาในชั่วพริบตา
ติงเมิ่งเหยนและซูฉินนั้นยังดี แค่ขมวดคิ้วเท่านั้น คิดเพียงว่าเจียงชื่อพูดจาใหญ่โตไม่เจียมตัวไปหน่อย แต่ว่าติงฉี่ซานไม่ใช่เช่นนั้น ติงฉี่ซานถลึงตาจ้องมองด้วยความโกรธแล้วตะโกนใส่เจียงชื่อว่า “แกหุบปากไปเลยนะ! ยังขายหน้าไม่พอใช่ไหม? สามสิบล้านนะ แกรู้ใช่ไหมว่าสามสิบล้านคืออะไร? ชั่วชีวิตนี้แกก็หาไม่ได้!”
“รีบกลับไปที่ห้องเลยนะ ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก”
ซูฉินรีบขยิบตาให้กับเจียงชื่ออย่างรวดเร็ว “พ่อของคุณกำลังโกรธ คุณกลับไปก่อนเถอะ”
เจียงชื่อไม่ได้พูดอะไร ท่าทางของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนอย่างไม่ใส่ใจ
ภายในห้องนั่งเล่น
เมิ่งเจี้ยนซู่ยิ้มอย่างเหยียดหยาม “ฉี่ซาน ไม่ใช่ว่าผมจะว่าคุณนะ คุณเลือกตัวอะไรมาเป็นลูกเขยกันเนี่ย? หน้าไม่อายไปแล้วสินะ? ตอนนั้นตกลงกันดีแล้วว่าให้ลูกสาวของคุณหย่ากับเขา แล้วกลับเนื้อกลับตัวมาแต่งกับลูกชายผม พวกเราทั้งสองเป็นญาติกันจะดีกว่าแล้วจะได้ไม่ต้องมาคอยโกรธขนาดนี้ด้วย”
ติงฉี่ซานส่ายหัวไม่หยุด “เฮ้อ จนปัญญาน่ะสิครับ ผู้อำนวยการคิดว่าผมไม่อยากจะขับไล่เจ้าตัวมอดที่เกาะผู้หญิงกินนี่ออกจากบ้านเหรอครับ? ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องชั่วร้ายที่ผู้หญิงสองคนนี้ได้ทำนั่นแหละ!”
ใบหน้าของซูฉินและติงเมิ่งเหยนข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่แล้ว
พวกเขาจะต้องสนับสนุนอารมณ์ของเจียงชื่ออย่างแน่นอน แต่ว่าตอนนี้ติงฉี่ซานกำลังโกรธทั้งยังเกิดปัญหาใหญ่ เพื่อไม่เป็นการกวนให้ติงฉี่ซานโกรธต่อไปไม่หยุด พวกเธอจึงไม่พูดอะไร
ติงฉี่ซานลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า: “ผู้อำนวยการครับ คงต้องทำให้คุณต้องเดือดร้อนแล้ว คืนนี้ไม่ว่ายังไงช่วยปกปิดเรื่องนี้ให้ผมก่อนเถอะนะครับ เบื้องบนจะต้องไม่รู้เรื่องนี้เด็ดขาด”
“คุณวางใจได้ มีผมอยู่ คุณสบายใจได้ เพียงแต่ไม่สามารถที่จะปิดบังแบบนี้ได้ตลอด พรุ่งนี้จะทำยังไงล่ะ?”
ติงฉี่ซานพูดว่า: “ตอนนี้ผมจะคิดหาวิธีชดเชยเงินที่หายไป”
เมิ่งเจี้ยนซู่ตบไหล่ติงฉี่ซาน “งั้นคุณก็สู้ๆแล้วกัน ไม่ใช่ว่าผมจะขู่คุณ พรุ่งนี้ถ้าคุณเอาเงินมาคืนไม่ได้ คงจะต้องติดคุกจริงๆ สามสิบล้านไม่ใช่จำนวนน้อยๆ อาจจะโดนติดคุกมากกว่าสิบปี คุณลองคิดด้วยตัวเองดู”
พูดจบเมิ่งเจี้ยนซู่ก็ลุกขึ้นแล้วจากไป
ในบทที่เมิ่งเจี้ยนซู่เพิ่งจะจากไป ติงเมิ่งเหยนพูดทันทีว่า “พ่อคะ หนูรู้สึกว่าเรื่องนี้มีปัญหา”
ติงฉี่ซานเหลือบมองเธอ “ปัญหาอะไร?”
“พ่อ หนูรู้สึกว่าเจียงชื่อพูดถูก ถ้าบทที่แผนกการเงินเอาบัตรนั้นออกไม่มีปัญหาจริงๆ หลังจากที่พ่อรับช่วงต่อก็ไม่มีข้อผิดพลาด ถ้าอย่างนั้นก็มีเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆระหว่างสองช่วงนี้เท่านั้นในช่วงเวลานี้เป็นเมิ่งเจี้ยนซู่ที่ถือบัตร”
“ยิ่งไปกว่านั้นนะคะพ่อ มีเรื่องที่หนูไม่พูดไม่ได้ คราวก่อนพ่อจัดให้หนูนัดบอดกับเมิ่งจื้อติ้งลูกชายของเมิ่งเจี้ยนซู่ ตอนนั้นหนูปฏิเสธเขา มันทำให้เขาโกรธมาก แล้วยังพูดว่าเดี๋ยวได้เห็นดีกัน พ่อคิดว่าเป็นไปได้หรือเปล่าว่าเมิ่งเจี้ยนซู่จงใจหลอกลวงพ่อ?”
ติงฉี่ซานได้ฟังแล้วก็โมโหใหญ่โต เขาทุบโต๊ะแล้วตะโกนว่า “แกกำลังพูดถึงอะไร? นัดบอดคราวก่อนแกด่าเมิ่งจื้อติ้ง เมื่อฉันหันกลับไปไม่เพียงแต่หัวหน้าเมิ่งจะไม่ตำหนิฉัน แต่ยังพูดขอโทษฉันด้วย บอกว่าลูกชายของเขาเลวเอง เป็นผู้อำนวยการที่ดีอะไรอย่างนี้? แกจะมาตัดสินคนอื่นลวกๆแบบนี้ได้ยังไง?”
“ฉันคิดว่าระยะหลังมานี้แกอยู่กับเจียงชื่อนานเกินไปแล้ว สมองเลยทึบตามไปด้วย!”
“อีกอย่างถ้าผู้อำนวยการต้องการแกล้งฉัน ก็สามารถไสหัวฉันออกไปได้เลยโดยตรง ทำไมจะต้องใช้วิธีนี้? นี่มันมีประโยชน์อะไรกับเขางั้นเหรอ?”
“พวกแกนี่น้า เอาความคิดต่ำๆไปว่าคนมีคุณธรรมสูง เมิ่งเหยน พ่อขอแนะนำต่อจากนี้ให้แกอยู่กับเจียงชื่อให้น้อยลง ถ้ามีโอกาสก็หย่าแล้วช่างมันไปเถอะ ไอ้เจ้านั่นเป็นเศษสวะที่นำพาความซวย แค่เห็นเขาก็คลื่นไส้แล้ว”
“ตั้งแต่เขากลับมาจากกองทัพ ครอบครัวของเราไม่เคยสงบสุขเลย!”
ติงเมิ่งเหยนถูกด่าอย่างรุนแรงจึงไม่รู้จะพูดอะไร แล้วนั่งอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
ซูฉินรีบเข้ามาไกล่เกลี่ย “ตาแก่อย่าโกรธไปเลย มีเวลาก็ควรคิดหาวิธี ว่าจะเอาเงินสามสิบล้านมาจ่ายคืนได้ยังไง พรุ่งนี้ไม่มีเงินจ่าย คุณจะต้องเข้าคุก นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ”
ติงฉี่ซานครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ “สามสิบล้าน บ้านของเราไม่มีใครหาได้แน่ๆ ต้องไปหาคนอื่นเท่านั้น”
“หาใครล่ะคะ?”
“ทางคุณปู่ติงมีเงิน แต่ด้วยอารมณ์ของเขาย่อมไม่ให้พวกเรายืมเงินอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าฉันจะบอกเรื่องนี้กับเขา เขาก็จะประณามฉันอยู่ดี”
ติงฉี่ซานคิดๆดูแล้วพูดว่า “ใช่แล้วล่ะ เมิ่งเหยน ถังแหวนโม่พี่เขยใหญ่ของแกเป็นรองหัวหน้าเขตตะวันออก หลายปีมานี้น่าจะมีทรัพย์สินในบ้านอยู่ไม่น้อย สามสิบล้านไม่น่าจะมีปัญหาหรอกใช่ไหม?”
ติงเมิ่งเหยนพยักหน้า “ด้วยสถานะของเขา สามสิบล้านไม่ใช่ปัญหาจริงๆค่ะ”
“โอเค” ติงฉี่ซานหยิบเสื้อคลุม “ฉันจะไปบ้านพี่เขยใหญ่แกตอนนี้เลยและยืมเงินจากถังแหวนโม่
“อ๊ะ พ่อคะ หนูรู้สึกว่ามันไม่ค่อยดีนะคะ”
“มีอะไรไม่ดี?”
ติงเมิ่งเหยนพูดว่า “เรื่องการปรับปรุงโครงการก่อนหน้านี้ ฉันกับพี่สาวและพี่เขยใหญ่ค่อนข้างจะไม่พอใจต่อกัน ถึงแม้พวกเขาจะมีเงินแต่เดาได้ว่าคงไม่ให้ยืม”
“ไม่พอใจก็เป็นเรื่องไม่พอใจสิ ทุกคนเป็นญาติพี่น้อง เห็นว่าจะตายแล้วไม่ช่วยงั้นเหรอ?”
ติงฉี่ซานถอนหายใจ “เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว ไม่ไปหาถังแหวนโม่แล้วจะไปหาใครได้อีก?”
ติงเมิ่งเหยนเหลือบมองไปทางห้องนอนโดยไม่รู้ตัว “บางทีพ่อลองถามเจียงชื่อสักหน่อยไหมล่ะคะ? เขาก็เอ่ยปากไว้แล้ว บางทีอาจจะมีวิธีช่วยพ่อก็ได้นะคะ”
“เขา?”
ติงฉี่ซานยิ้มเยาะ “เศษสวะนั่น ถ้าเขามีเงินจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเราทั้งวันหรือไง? เมิ่งเหยน นี่มันเวลาไหนแล้วยังจะมาเล่นสนุกกับฉันอีกเหรอ?”
“ไม่พูดแล้ว ฉันจะไปที่บ้านของถังแหวนโม่เดี๋ยวนี้แหละ เมิ่งเหยน แกเฝ้าอยู่ที่บ้านนะ ถ้าทางฝั่งของผู้อำนวยการมีสถานการณ์อะไร แกบอกฉันได้ตลอดเวลา”
ติงเมิ่งเหยนพยักหน้า
ติงฉี่ซานสวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกจากประตู ด้านนอกยังมีฝนตกปรอยๆ เขาเอามือปิดหน้าแล้ววิ่งเหยาะๆเข้าไปในรถแล้วขับรถออกไป
ติงเมิ่งเหยนและซูฉินสองแม่ลูกหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ที่บ้าน
ถ้ายืมได้อย่างราบรื่นก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้ายืมไม่ได้แล้วจะทำยังไงล่ะ? จะต้องเข้าคุกจริงๆเหรอ?
เฮ้อ…
ในเวลานี้ บนทางหลวงมืดสนิท หยาดฝนตกกระทบกับรถที่ห้อตะบึงอยู่
ภายในรถ เมิ่งเจี้ยนซู่ใช้มือข้างหนึ่งบังคับพวงมาลัยรถอีกข้างหนึ่งกำโทรศัพท์ไว้กำลังพูดคุยกับเมิ่งจื้อติ้งลูกชายอย่างมีความสุข
“พ่อ เรื่องเป็นอย่างไงบ้าง?”
“วางใจได้เลย เจ้าโง่ติงฉี่ซานนั่นคิดว่าเขาทำเงินหายจริงๆ กำลังคิดหาวิธีรวบรวมเงินมาชดใช้”
เมิ่งจื้อติ้งพูดว่า “ฮ่าๆ เป็นครอบครัวที่โง่เง่าจริงๆ ครั้งก่อนเห็นว่าลูกสาวโง่แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าตาแก่จะโง่กว่า ผมโกรธทันทีที่คิดถึงเรื่องนัดบอดคราวก่อนที่กล้ามาปฏิเสธผม เหอๆ นี่ผมไว้หน้าเธอแล้วนะ”
เมิ่งเจี้ยนซู่ยิ้มและพูดว่า “ลูกวางใจเถอะ พ่อสัญญาว่าครั้งนี้จะทำให้ลูกได้สบายใจและผ่อนคลายความโกรธ ถ้าหากติงฉี่ซานไม่สามารถเอาเงินสามสิบล้านมาจ่ายได้ ก็ไม่ต้องพูดกันเลย ติดคุกแน่นอน ถ้าเอามาได้ ก็ไม่เป็นไร ก็ให้เขาควักสามสิบล้านโดยไม่มีเหตุผล พวกเราสองพ่อลูกก็ได้สามสิบล้านมาเปล่าๆ ได้กำไรและไม่ขาดทุนอะไรเลย”
เมิ่งจื้อติ้งหัวเราะเสียงดัง “ถูกต้อง ไม่ว่าเขาจะเอาเงินออกมาหรือไม่ พวกเราก็กำไร แต่ผมยังหวังว่าเขาหามาไม่ได้ เพราะเทียบกับการได้กำไรแล้ว ผมอยากเห็นเขาตายมากกว่า!