บทที่ 117 ตามหาคู่หู
สภาพอากาศที่แจ่มใส เต็มไปด้วยกลิ่นดอกไม้
เจียงชื่อนั่งรถเมล์มาถึงร้านอาหารยวนยาง เลขที่166 ถนนเจียเวย
ยังไม่ทันถึงประตูหน้าร้าน ก็เห็นคนเบียดเสียดกันในร้าน โต๊ะทุกตัวนั่งจนเต็ม มีคนจำนวนมากต่อแถวอยู่นอกร้าน
“โอ้ ยังไม่ทันเดินถึงร้าน ก็มีคนเยอะขนาดนี้แล้ว?”
“ขายดีมาก เอาจริง ๆ”
เจียงชื่อเดินเข้าไปในร้าน มองเห็น เน่ร์เสี่ยวหวินกำลังช่วยพ่อเสิรฟอาหารให้กับลูกค้า สองท้าวก้าวอย่างว่องไวคล้ายสุนัขคอร์กี้ตัวหนึ่ง ซอยเท้าวิ่งเตาะแตะ ๆ
เจียงชื่อมองดูอย่างมีความสุข
เน่ร์เสี่ยวหวินออกไปส่งอาหาร มองหันไปเห็นเจียงชื่อ
“ท่านลุง!!!”
“เอ๊ะ~~”
เน่ร์เสี่ยวหวินวิ่งเบาๆ ผ่านมา เจียงชื่อโน้มเอวลงโอบเน่ร์เสี่ยวหวินไว้ ยื่นมือไปหยิกที่ใบหน้ารูปไข่ที่ขาวนวลของเธอ
เน่ร์เจิงได้ยินถึงความเคลื่อนไหว เดินออกจากครัวมาดู แย้มยิ้ม
เขารีบเดินออกมาแล้วพูดว่า “ขอโทษลูกค้าทุกท่าน วันนี้วัตถุดิบในครัวด้านหลังไม่เพียงพอ ลูกค้าที่สั่งอาหารไว้แล้วกำลังทำตามรายการ หากลูกค้าที่ยังไม่สั่งอาหารก็ต้องขออภัยด้วย เชิญท่านมาใหม่ในครั้งหน้า”
แขกเหล่านั้นที่ยังไม่ได้สั่งอาหาร ใบหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความผิดหวัง
อาหารของร้านอาหารยวนยางเป็นร้านที่อร่อยสุดในถนนสายนี้ อีกทั้งอาจพูดได้ว่าอร่อยที่สุดในทั่วทั้งเขตเจียงหนานแล้ว คนจำนวนมากต่างได้ยินชื่อเสียงถึงได้มา หากไม่ได้ลองชิมก็น่าเสียดาย
หลังจากได้ส่งแขกกลับไปแล้ว เน่ร์เจิงรีบทำอาหารตามรายการสั่งที่เหลือจนเสร็จ หลังจากนั้นก็ทำความสะอาดโต๊ะเพื่อให้เจียงชื่อนั่ง
จากนั้นประเดี๋ยวเดียว เขาได้ผัดอาหารจานเล็ก ๆ นำเบียร์ออกมาเปิดสองสามขวด ให้เจียงชื่อคนละหนึ่งแก้ว
“พี่ใหญ่ ทำไมมีเวลาว่างมานั่งกับผมที่นี่ได้ล่ะ”
เจียงชื่อกินเมล็ดถั่วลิสง ยิ้มตาหยีแล้วพูดว่า “ที่จริงคือฉันคิดถึงฝีมือการทำอาหารของคุณ อดไม่ไหวอยากกิน”
“ฮ่าฮ่า พี่ใหญ่เกรงใจไปแล้ว”
เจียงชื่อกินอาหารไปพลางดื่มเบียร์ไปพลาง มองร้านอาหารใหญ่โต พยักหน้าพูดว่า “กิจการขายดีมากเลยนะ”
เน่ร์เจิงยิ้ม “ก็พอได้ ทุกคนชอบทาน ฉันก็ดีใจ”
สำหรับพ่อครัวคนหนึ่งแล้ว สามารถมีร้านอาหารเป็นของตัวเองสักร้านหนึ่ง ยังไม่มีความกดดันด้านการเงิน สุดท้ายยังมีลูกค้าจำนวนหนึ่งคอยเอ่ยปากชมไม่ขาดปากอีก เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดแล้ว
เพียงแต่……
เจียงชื่อพูดเสนอความคิดเห็นว่า “คุณควรจะรับสมัครคู่หูเพื่อมาช่วยงาน ไม่ควรให้เสี่ยวหวินวิ่งวุ่นทำให้คุณตลอดเวลา คุณนี่ฉวยโอกาสใช้แรงงานเด็กนะเนี่ย”
เน่ร์เจิงพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “ไม่ใช่ฉันไม่อยากรับ ความจริงคือหาไม่ได้เลยจริง ๆ”
เน่ร์เสี่ยวหวินปีนขึ้นบนม้านั่งพูดว่า “ไม่ใช่ว่าไม่มี ทุกวันมีคนมา แต่คุณพ่อดูแล้วไม่เข้าตา บางครั้งบอกว่าเค้าไม่สะอาด บางครั้งบอกว่าไม่ละเอียดรอบคอบ บ้างก็พูดว่าเค้าไม่ค่อยเอาใจใส่ต่ออาหาร สารพัดเหตุผล”
เน่ร์เจิงกระแอมด้วยความอึดอัด เกาหัวด้วยความรู้สึกอาย
เจียงชื่อฟังแล้วก็หัวเราะ ฮ่าเสียงดัง “คุณนะ จะหาผู้ช่วยก็มีเงื่อนไขมากมาย”
ช่วยไม่ได้ หากมีข้อกำหนดที่ไม่มากนัก เน่ร์เจิงก็ไม่สามารถมีฝีมือการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมเหมือนทุกวันนี้
ขณะที่กำลังสนทนากันอยู่นั้น มีคนหนึ่งสวมแว่นตาดำ หญิงสาวแต่งหน้าสไตล์ตะวันตกเดินเข้ามา มีชายหนุ่มคนหนึ่งตามมาอยู่ข้างกาย และยังมีสองคนคอยช่วยเหลือถือร่ม และกระเป๋าตามมาด้านหลัง
ผู้คนที่รับประทานอาหารมองไปที่หญิงสาว มีเสียงซุบซิบเบาๆ
“พวกคุณดูซิ นี่คงไม่ใช่ดาราคนนั้น……ชื่อออะไรนะ……”
“ฮัวเสี่ยงหรง?”
“ใช่ ๆ คือฮัวเสี่ยงหรง เธอมาจริง ๆหรือนี่”
ทางนั้น เน่ร์เจิงมองเห็นมีคนเดินเข้ามา พูดไปสวนขึ้นในทันทีว่า “ขอโทษด้วยวัตถุดิบในการทำอาหารหมดแล้ว วันนี้ไม่ขายแล้ว เชิญมาใหม่อีกครั้ง ต้องขออภัยด้วย”
ฮัวเสี่ยงหรงกับชายที่อยู่ข้างกาย–ก็คือผู้ช่วยหลิวฉง ที่จริงก็ไม่ได้สนใจคำพูดของเน่ร์เจิง หาโต๊ะว่างที่สะอาดแล้วนั่งลงตามอำเภอใจ