“ แกปล่อยฉันนะ!”
“ ฉันสั่งให้แกปล่อยฉันไง!”
โหลวซินเยว่ตะโกนร้องขึ้น ยามที่อยู่โดยรอบต่างกรูกันเข้ามา และเตรียมพร้อมที่จะจัดการทุกเมื่อ
ในตอนนี้เอง หลิงเหยาที่เหนื่อยล้า และเจ็บระบมไปทั้งตัวดึงแขนเสื้อของเจียงชื่อ แล้วพูดขึ้น “ คุณคะ ปล่อยเธอเถอะค่ะ ”
“ ฮะ? ”
ความโกรธ โมโหของเจียงชื่อกลับกลายเป็นความสงสัย “ เมื่อกี้เธอทำกับคุณอย่างนั้น คุณยังจะให้ผมปล่อยเธออีกเหรอ? ”
หลิงเหยาถอนหายใจ “ ฉันรู้ค่ะว่าคุณหวังดีกับฉัน และอยากจะระบายความโกรธแทนฉัน แต่ว่า ฉันก็เป็นแค่สแตนด์อินธรรมดาๆก็เท่านั้นเอง มันไม่สำคัญมากพอหรอกค่ะ ”
“ โหลวซินเยว่นั้นไม่ใช่ เธอเป็นดาราดัง ”
“ ถ้าเกิดว่าคุณทำให้เธอบาดเจ็บ มันจะทำให้การถ่ายทำของทีมงานช้าทั้งกองเลยนะ ไหนจะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการถ่ายทำ และหนังทั้งเรื่องยังขึ้นอยู่กับตัวของเธอทั้งหมดด้วย ถ้าไม่เธอ ใครจะว่าถ่ายหนังเรื่องนี้ละคะ? ”
“ คุณทำร้ายเธอ มันก็ไม่มีผลดีอะไรกับคุณเลย เมื่อถึงตอนนั้น แฟนคลับมากมายของเธอก็จะมาหาเรื่องคุณ มันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคุณมากเลยนะคะ ”
หลิงเหยากัดริมฝีปากแล้วพูดขึ้น “ ดังนั้นคุณคะ เรื่องนี้……ก็ช่างมันเถอะค่ะ ”
ช่างมัน?
แม้ว่าจะไม่เต็มใจนัก แต่หลิงเหยาก็ไม่มีตัวเลือกอื่นอยู่ดี
คนเรานี่ไม่สามารถเทียบกันได้จริงๆ
ไม่ว่าสแตนด์อินจะเหนื่อยมากขนาดไหนก็ตาม แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากผู้คน ส่วนดาราดังนั้นแค่พาดหัวข่าวก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
คนละระดับกัน
เจียงชื่อยิ้มเย้ย และปล่อยมือของเขาออกจริงๆ
โหลวซินเยว่ถอยห่างออกไปหลายเมตร ลูบไปมาที่ข้อมือของตัวเอง “ มือของคนคนนี้เป็นเครื่องหนีบหรือไงกัน บีบฉันเจ็บจนจะตาย ”
เธอชี้ไปที่เจียงชื่อพร้อมกับพูดขึ้น “ นายนี่ นายนี่มันโง่เง่าเต่าตุ่นจริงๆเลย นายทำให้ฉันเคือง ก็เหมือนกับว่าทำให้อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์เคืองไปด้วย และเป็นการทำให้บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเขตเจียงหนานที่มีอิทธิพลมากเคืองด้วย!คุณน่ะ จบเห่แล้ว!”
เจียงชื่อเผชิญหน้ากับเธอ พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ ตอนแรกผมโกรธมาก ตอนนี้ผมรู้สึกเศร้าขึ้นมาเลย ทำไมการเติบโต และพัฒนาของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ถึงเปลี่ยนไปนะ? ทำไมอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ถึงได้ราศีมีนักแสดงขยะเน่าอย่างคุณได้? ผมคงต้องไตร่ตรองดีๆแล้ว ”
“ โหลวซินเยว่ปลาบปลื้ม ไม่ว่าจะทั้งฝีมือด้านการแสดง หรือจรรยาบรรณ คุณน่ะไม่คู่ควรกับการเป็นนางเองเลยแม้แต่น้อย ”
“ หลิงเหยาเหมาะสมที่จะเป็นตัวเอกมากกว่าคุณซะอีก ”
โหลวซินเยว่สูดลมหายใจเข้าลึก
“ เธอ? ตัวเอก? ”
“ คนที่ไม่มีภูมิหลังอะไรอย่างนี้เนี่ยนะ ผู้หญิงโง่ๆที่ไม่ได้เด่นดังอะไร ยังจะมาเป็นตัวเอง? หนังที่เธอแสดงเป็นตัวเอก ใครเขาจะดูกัน? ถ้าไม่มีคนดูหนัง แพลตฟอร์มไหนจะยังผลักดันต่อ? ”
“ เธอเอาอะไรมาเทียบกับฉัน? ”
“ อีกอย่าง นายนึกว่านายเป็นใคร? ที่นายบอกให้เธอเป็นตัวเองแล้วจะเป็นได้เลยเหรอ? ที่นี่ แม้แต่ผู้กำกับของไม่กล้าพูดอะไร ทุกคนต่างต้องฟังฉันทั้งนั้น!”
นักแสดงคนหนึ่ง ที่มีสถานะเหนือกว่าผู้กำกับ
มันเป็นการแดกดัน
เจียงชื่อหยิบมือถือออกมาแล้วโทรออก “ ฮาโหล เสี้ยงจื้อเฉิง มาที่สวนสาธารณะฮัวไห่หน่อย ”
เมื่อได้ยิน ‘ เสี้ยงจื้อเฉิง ’ สามคำนี้ โหลวซินเยว่ถึงกับอึ้งไปเลย จากนั้นก็ดูมีความสุขต่อไป
“ โอ้ เรื่องของคุณก็น่าสนใจไม่น้อยเลย ยังรู้จักรองประธานแผนกภาพยนตร์และโทรทัศน์ของเราว่าเป็น พี่เสี้ยงอีก ”
“ ทำไม ต้องการใช้ชื่อของพี่เสี้ยงมาขู่ฉันหรือไง? ”
“ ฉันไม่กลัวนะขอบอก เป็นพี่เสี้ยงที่ให้ฉันได้เซ็นสัญญากับอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ และทำให้ฉันได้เป็นตัวเอกในเรื่องนี้ ”
“ ถ้าพี่เสี้ยงมาถึง ก็คงต้องพูดเข้าข้างฉันอยู่ดี!”
ยิ่งพูดยิ่งดูเย่อหยิ่ง ในสายตาของ โหลวซินเยว่นั้นไม่สนใจใครเลยทั้งสิ้น
อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์อยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะฮัวไห่มากนัก หลังจากที่ได้รับสาย เสี้ยงจื้อเฉิงรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้น จึงรีบขับรถออกมาทันที มาถึงที่นี่โดยใช้เวลาไม่ถึงทั้งถึงสิบนาทีเลยด้วยซ้ำ
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เสี้ยงจื้อเฉิงก็วิ่งเข้าไปในสวนสาธารณะฮัวไห่ และเห็นว่าเจียงชื่ออยู่ในนั้น
เขาจึงรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
โหลวซินเยว่คิดว่าเสี้ยงจื้อเฉิงกำลังวิ่งมาหาตัวเอง จึงทักทายเขา และพูดขึ้นอย่างเศร้าโศก “ คุณพี่เสี้ยงมาแล้ว ฉันโดนรังแกอย่างน่าสังเวชเลย พี่ต้องช่วยฉันจัดการนะ~~