ก็เหมือนกับที่เสี่ยวเชี่ยนคิด ต้าอีเข้าไปฝึกงานในโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการวันที่สองก็ได้เจอกับผู้หญิงคนที่เจอตอนไปแจกแบบสอบถาม
หลังจากที่ต้าอีพูดคุยไปได้หนึ่งชั่วโมงก็ได้วางแผนการรักษาให้ผู้หญิงคนนี้อย่างละเอียด นัดเจอสัปดาห์ละครั้ง ใช้เวลารักษาประมาณสี่ครั้ง
เมื่อต้าอีทำทุกอย่างเสร็จสรรพแล้วเรื่องแรกที่ทำก็คือไปหาเสี่ยวเชี่ยน เธอเคยชินกับการเอาแผนงานต่างๆไปให้เสี่ยเวชี่ยนดู คล้ายกับนักเรียนประถมที่เอาการบ้านไปให้คุณครูตรวจหลังทำเสร็จ
ตอนที่ต้าอีมาหา เสี่ยวเชี่ยนกำลังเล่นโยคะอยู่ในบ้าน เสี่ยวเชี่ยนตัวอ่อนมาก เธอเล่นโยคะหลายปีจนติดเป็นนิสัย ทำท่ายากๆได้หลายท่า
“ประธานเชี่ยน ฉันเจอผู้หญิงที่ถูกใช้ความรุนแรงในครอบครัวนั่นแล้วนะ วันนี้ฉันให้เขาทำแบบทดสอบ เขาเป็นโรคซึมเศร้าแบบอ่อนๆ แถมยังมีเรื่องฝังใจในวัยเด็ก พ่อของเขาก็มีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรง เขาโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ฉันไม่ได้ถามเขาว่าทำไมไม่หย่า ฉันอยากช่วยเรียกความมั่นใจของเขาให้กลับคืนมาก่อน”
“อืม” เสี่ยวเชี่ยนพอได้ยินคำว่าเรียกความมั่นใจกลับคืนก็ยกมุมปากเล็กน้อย ปรับเปลี่ยนท่า ทำท่าหกสูงโดยใช้ข้อศอกค้ำไว้ ต้าอีเห็นแล้วก็ตกใจใหญ่
ประธานเชี่ยนทำท่านี้ได้อย่างสวยงาม ใช้แค่กำลังจากแขนในการรับน้ำหนักตัวเอง ดูเหมือนอันตราย ต้าอีตกใจจนพูดไม่ออก
พอเสี่ยวเชี่ยนเสร็จท่ายากนี้แล้วต้าอีถึงโล่งอก
“เธอก็น่าจะลองดูนะ ท่าหกสูงเป็นท่าที่สบายท่าหนึ่งเลยล่ะ ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเลือดลมหมุนเวียน ฉันชอบมาก”
เสี่ยวเฉียงเองก็ชอบ
ทุกครั้งที่เสี่ยวเชี่ยนเล่นโยคะ อวี๋หมิงหลางจะทำตัวเหมือนหมาป่าผู้หิวโหย จ้องเสี่ยวเชี่ยนตาเป็นมัน
เขามักจะพูดชมในความตัวอ่อนของเสี่ยวเชี่ยน พลางดื่มด่ำกับสรีระของเธอ
“ฉันขอบายดีกว่า” ต้าอีเองก็มีนิสัยชอบออกกำลังกาย ครั้งแรกที่มีอะไรกันกับอวี๋หมิงอี้ก็มีสาเหตุมาจากแผนลดน้ำหนัก แต่เธอเล่นโยคะให้ตัวอ่อนแบบประธานเชี่ยนไม่ได้
“บางเรื่องเธอมองว่ามันซับซ้อนแต่พอทำจริงๆง่ายมาก ถ้าเธอคิดว่าตัวเองทำได้เธอก็ทำได้”
ต้าอีเก็บคำพูดของเสี่ยวเชี่ยนมาคิดเงียบๆ เธอยังอยากจะรายงานเรื่องแผนการทำงานให้เสี่ยวเชี่ยนฟัง แต่เสี่ยวเชี่ยนก็เริ่มทำท่าที่ยากกว่าเดิม ต้าอีจึงไม่กล้ารบกวนสมาธิเสี่ยวเชี่ยน
รอจนเสี่ยวเชี่ยนเสร็จเรื่อง ต้าอีกำลังจะพูดเสี่ยวเชี่ยนเข้าไปตบบ่าเธอ
“ทำตามที่เธอวางแผนไว้ก็พอ ไม่ต้องบอกรายละเอียดกับฉันหรอก จำไว้นะ ไม่ว่าเธอทำอะไรลงไปจะมีฉันคอยหนุนหลังให้ ดังนั้นไม่ต้องกลัว ควรรักษายังไงก็รักษาไป รักษาไม่ดีก็ไม่ต้องกลัว”
“…เธอสอนแบบนี้จะดีเหรอ” ต้าอีหรี่ตามองเสี่ยวเชี่ยน ถึงประธานเชี่ยนจะพูดให้เธอมีกำลังใจ แต่คำพูดอย่างรักษาไม่ดีก็ไม่ต้องกลัวมันสมควรออกมาจากปากคนเป็นอาจารย์เหรอ
“ดีสุดๆเลยล่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนพูดต่อในใจ อีกสิบปีข้างหน้าถ้าต้าอีไม่ติดหนึ่งในสิบจิตแพทย์ที่เก่งที่สุดในประเทศก็อย่ามาเรียกเธอว่าเฉินเสี่ยวเชี่ยน
เธอไม่ใช้คนที่ไม่มั่นใจ เสี่ยวเชี่ยนได้ให้สิ่งที่ต้าอีต้องการมากที่สุดในเวลานี้
ความมั่นใจ
“งั้นฉันจะลงมือทำแล้วนะ” แววตาของต้าอีมีความดีใจฉายออกมาเล็กน้อย การยอมรับจากเสี่ยวเชี่ยนเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเธอ
ตอนที่อวี๋หมิงหลางเปิดประตูเข้ามาก็เห็นต้าอีมีท่าทางที่มุ่งมั่นมาก
เขาเลิ่กคิ้ว นี่เมียเขาล้างสมองอะไรอีกเนี่ย
แฟนที่ใสซื่อของพี่รองพอมาเจอกับผู้หญิงฉลาดเป็นกรดของเขาก็ทำตัวเลื่อมใสประหนึ่งมีความศรัทธาต่อเทพเจ้า เสี่ยวเชี่ยนพูดอะไรก็เชื่อหมด
เสี่ยวเชี่ยนพอเห็นผู้ชายที่หายไปหลายวันกลับมาก็มีสีหน้าผ่อนคลาย
“เขากลับมาพอดีต้าอีอยู่กินข้าวด้วยกันสิ”
“ไม่ล่ะ ฉันต้องไปรับพ่านพ่าน รับปากไว้ว่าวันนี้จะพาไปกินพิซซ่า” ต้าอีไม่เพียงแต่จะเป็นภรรยาที่ดี ยังเป็นแม่ที่ดีด้วย ให้ความสำคัญกับการอบรมเลี้ยงดูพ่านพ่านมาก เรื่องไหนที่รับปากไว้ก็ต้องทำให้ได้
“ก็ได้ ฉันไม่รั้งเธอแล้ว” เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางยืนส่งต้าอี พอปิดประตูเขาก็จับเสี่ยวเชี่ยนกดเข้ากำแพง
“ทำอะไร…” เสี่ยวเชี่ยนผลักเขา ตานี่วิ่งมาจากไหนกัน หัวมีแต่เหงื่อ ชุดฝึกก็เปียกชุ่มไปหมด
“เดาดูสิ”
เขาเอียงหน้าประทับจูบบนริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอ จูบเหมือนคนอดอยากมาหลายปี ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิด ออกจะป่าเถื่อนด้วยซ้ำ
ความอ่อนโยนของผู้หญิงเมื่อเจอกับความแข็งแกร่งของผู้ชายเกิดเป็นการผสมผสานที่ลงตัว เขาจูบเธออย่างหนักหน่วง มือก็ลูบไล้ไปตามชุดโยคะรัดรูปที่เธอใส่อยู่ เคลื่อนไหวไปมาไม่หยุด
เสี่ยวเชี่ยนหายใจแรงขึ้นเพราะการรุกหนักของเขา หัวใจเต้นเร็ว ไม่เข้าใจว่าผู้ชายคนนี้ที่หายไปอาทิตย์กว่า ทำไมพอกลับมาถึงได้หื่นกระหายเหมือนไม่เจอผู้หญิงมาหลายร้อยปี
แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิด ออกซิเจนในสมองถูกเขาดูดไปหมดแล้ว ขณะที่ชุดโยคะของเธอถูกเขาเปิดตามใจอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงของเขาพูดจริงจัง
“ลูกเชี่ยน เมื่อกี้คุณเล่นโยคะอยู่ใช่ไหม”
“อืม” เธอตอบอย่างยากลำบาก เพราะตานี่กำลังซุกไซ้อยู่ตรงคอเธอ ความรู้สึกสยิวทำให้เธอรวบรวมสมาธิได้ยาก
“โยคะดีเลย…ฝึกกายและใจ ได้ยินว่าคุณยกขาพาดกำแพงทรงตัวได้นานใช่ไหม”
ทันใดนั้นเสี่ยวเชี่ยนก็สังหรณ์ใจไม่ดี ตานี่คงไม่ได้คิดจะ…
“นายจะทำอะไร”
เขายิ้มอย่างชั่วร้าย แล้วโน้มเข้ามาจูบ
“ช่วยคุณออกกำลังกาย”
เขาขยับมือเล็กน้อย ขาข้างหนึ่งของเธอก็มาพาดบนแขนของเขา ขยับเล็กน้อยยกเธอขึ้นกำแพง เขาเอามือออกให้เธองอขาข้างนั้นไปด้านหลังจากนั้นก็เอามือเธอไปกอดขาข้างนั้นไว้ กลายเป็นท่าที่สวยงาม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“ลูกเชี่ยนค้างไว้ดีๆนะ ทำดีเดี๋ยวพี่มีรางวัลให้~”
“ดี…กับ…ปู่…นาย…สิ”
คำพูดคัดค้านของเธอถูกหยุดด้วยจูบของเขา ความเร่าร้อนแล่นเข้าไปทุกอณูในร่างกายเธอ
โยคะเป็นของดีจริงๆ หลังจากนั้นอีกสักพักอวี๋หมิงหลางก็อุ้มเสี่ยวเชี่ยนที่เหงื่อเปียกชื้นไปทั้งตัวเข้าไปไว้ในอ่างอาบน้ำพลางคิดในใจ
ปล่อยเธอไว้ในอ่าง ส่วนเขาก็อาบน้ำด้วยฝักบัว เดิมเสี่ยวเชี่ยนกำลังเพลียๆอยากนอน แต่คำพูดของเขาทำเธอตื่น
“ผมอาบน้ำเสร็จก็จะไป คุณอาจไม่ได้เจอผมหลายวัน โทรหาก็จะไม่ติดด้วย”
เสี่ยวเชี่ยนลืมตา
“จะมีอันตรายเหรอ”
“เปล่า”
เขาไม่บอกมากเกินความจำเป็น แค่รู้ว่าเขาไม่มีอันตรายเสี่ยวเชี่ยนก็สบายใจแล้ว แต่พอมาคิดๆดูก็อยากขำทั้งน้ำตา
“ดังนั้นที่นายรีบร้อนวิ่งกลับมาคงไม่ได้เพราะเรื่องอย่างว่าใช่มะ”
อวี๋หมิงหลางเอาน้ำล้างเหงื่อออก จากนั้นก็ถูสบู่แล้วอาบอย่างรวดเร็ว เช็ดตัวลวกๆพลางตอบเธอ
“เรื่องนี้ไม่เล็ก”
เขามีเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงจึงวิ่งกลับมาเพื่อยิงปืน แล้วจะได้ไปอย่างสบายใจ
“ผู้ชาย…เป็นสัตว์ที่ใช้อวัยวะส่วนล่างคิดจริงๆด้วยสินะ” เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้จะพูดอะไรต่ออีก
“เห้อ จะไม่ได้กินหลายวันอีกแล้ว ลำบากนายแย่เลย” อวี๋หมิงหลางสะบัดน้องชายพลางพูดหน้าตาเฉย
“พอเสร็จภารกิจครั้งนี้นะกลับมาจะให้นายกินมื้อใหญ่สามวันสามคืนเลย”
เสี่ยวเชี่ยนมุมปากกระตุก สามวันสามคืน นี่จะเอาให้ถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดเลยหรือไง