“อายุยังน้อยก็รู้จากทำเรื่องไร้ยางอายขนาดนี้แล้ว ถ้าโตขึ้นมาจะเป็นอย่างไร? ฉันจะสั่งสอนเธอแทนพ่อเธอเอง!”
หงเจ๋อโกรธมากจนเสียสติ เขายกมือขึ้นกะจะตบหน้าเน่ร์เสี่ยวหวิน
ทันใดนั้น ก็มีร่างหนึ่งเดินเข้ามาขวางหน้าเขาไว้
เจียงชื่อมายืนอยู่ตรงหน้าหงเจ๋อราวกับสายลมกระโชก จ้องมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ลูกชายของคุณทำผิดพลาด แต่คุณกลับเอาลูกของคนอื่นมาระบายความโกรธเขาตัวเองเหรอ?”
ปกติแล้วหงเจ๋อมักจะชอบทำตัวเย่อหยิ่งในบริษัท ดังนั้นคน “ธรรมดา” อย่างเจียงชื่อจึงไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาเลย
“คุณเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาตะคอกใส่ฉัน?”
“ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”
เขาเอื้อมมือออกไปกะจะผลักเจียงชื่อออก แต่ในขณะที่เขายื่นมือออกไปนั้น มือของเจียงชื่อก็วางไว้บนแขนของเขาแล้ว จากนั้นเขาก็กระชากแขนของเขาไปด้านหลังอย่างแรง และมีเสียง ‘คลิก’ ดังขึ้น หงเจ๋อก็แขนหักซะแล้ว
“เอ่อ~~ !!!”
มีเสียงกรีดร้องเหมือนหมูดังลั่นในสนาม
หงเจ๋อถอยหลังหลายก้าวอย่างต่อเนื่องตะโกนว่า “แกกล้าลงไม้มือกับฉันเหรอ? แกรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร?”
เจียงชื่อเดินเข้าไปเตะเขาลงไปนอนกับพื้นอย่างไม่สนใจใคร จากนั้นก็เหยียบร่างของเขาและถามว่า “แล้วแกรู้หรือเปล่าว่ากูเป็นใคร?”
ครูใหญ่รีบไปชักชวนให้เจียงชื่อปล่อยเขาไป
“โอ้ แม่เจ้า คุณอยุดตีเขาเถอะ”
“นี่คือรองประธานของหย่างเวิ่นกรุ๊ป เขาบริจาคอาคารสองหลังให้กับโรงเรียนของเรา เขาเป็นครูใหญ่กิตติมศักดิ์ของโรงเรียนเรา”
“อย่างไรก็ตามคุณก็ไม่ควรไปตีเขานะ”
เจียงชื่อเยาะเย้ยและกล่าวว่า “ทำไมเหรอ เพียงเพราะว่าเขาบริจาคอาคารสองหลัง ก็สามารถบิดเบือนข้อเท็จจริงได้งั้นเหรอ?”
“ลูกชายของเขาหยิ่งทะนงและครอบงำในโรงเรียนมานานขนาดนี้แล้ว ฉันไม่เชื่อว่าครูทุกคนในโรงเรียนนี้จะไม่รู้เรื่องนี้”
“ทั้งๆที่รู้ว่าลูกชายของเขาแย่มาก แต่พวกคุณยังคงปกป้องและให้อภัยเขาอีก”
“พวกคุณล้างความผิดของลูกชายเขาจนหมดจดหลังจะที่เกิดเรื่องในวันนี้ และปล่อยให้กู้หย่งเลี่ยงต้องแบกรับมันไว้คนเดียว!”
“วันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวหวินเราทุกคนคงไม่มีวันได้รู้ความจริง!”
ใบหน้าของครูใหญ่กานเต๋อหยางแดงไปทั้งใบ
เขาจะไม่รู้หรือว่าลูกของหงเจ๋อหยิ่งผยองมากแค่ไหน?
ไม่หรอก เขารู้
เพียงแต่เมื่อคิดถึงตัวตนของหงเจ๋อแล้ว กานเต๋อหยางก็คิดในใจว่า ลืมไปเถอะ แค่เด็กๆที่ซุกซนทะเลาะกันมันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรไปได้?
การปล่อยตัวและที่พักพิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจึงนำไปสู่ความเสื่อมเสียของสิ่งต่างๆ
เด็กๆในโรงเรียนกลัวปีศาจตัวน้อยนี้ นอกจากเน่ร์เสี่ยวหวินแล้ว เด็กคนอื่นๆก็คงได้รับความทุกข์ทรมานมาไม่น้อยเช่นกัน
มีเพียงกู้หย่งเลี่ยงคนเดียวเท่านั้นที่กล้ายืนออกมาต่อต้านเขา แต่เขากลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นตำราเชิงลบ
ฮ่าๆ ไอ้เหี้ย!
ในเวลานี้ ครูสาวพูดอย่างหน้าไม่อายว่า “เฮ้ๆๆ ทำไมคุณต้องตะโกนเสียงดังขราดนั้นด้วย? เด็กๆทะเลาะกันเราก็ไม่สามารถมองเห็นได้ทุกที่ทุกเวลา อีกอย่างหนึ่งคุณหงเจ๋อยังเป็นผู้ที่มอบอาคารเรียนให้กับโรงเรียนของเราด้วย เขาคือคนที่มีพระคุณของโรงเรียน การได้รับการดูแลพิเศษเล็กน้อยก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ? ถ้าแน่จริงคุณก็บริจาคอาคารสองสามหลังให้เราสิ เราก็จะให้การดูแลบุตรหลานของคุณเป็นพิเศษเหมือนกัน”
“ฮิฮิ จนแล้วยังกล้ามาโวยวายที่นี่อีก”
หงเจ๋อยืนขึ้นจากพื้นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ใช่แล้ว และถ้าลูกของเขาเอาแต่ใจแล้วไง?
หากคุณมีความสามารถจริงๆ คุณก็บริจาคอาคารให้กับโรงเรียนด้วยสิ!
เจียงชื่อถอนหายใจยาวๆ “ก็เพราะมีขยะเหมือนนายไง ชื่อเสียงของอาชีพที่รุ่งโรจน์อย่างครูถึงได้เสื่อมเสียไปหมด อยากได้อาคารนักใช่ไหม? ได้ เดี๋ยวฉันจัดให้!”