เฉิงดันถิงพูดอย่างรีบร้อนว่า “ต้องเป็นพวกต้นฉบับร่างที่ไม่ใช้แล้วแน่ๆที่โดนคนของบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องขโมยไป ถึงทำให้ความลับทางธรุะกิจรั่วไหลได้”
หลัวเซิ่งพยักหน้า
“มิน่าล่ะผมถึงได้รู้สึกว่าเพลงใหม่นี้ค่อนข้างเหมือนกับเพลงนั่นของผมเลย แต่ในเรื่องของรายละเอียด ก็ยังคงมีความแตกต่างกันไม่น้อยเลย ที่แท้ก็ดัดแปลงมาจากฉบับร่างที่ลักลอบขโมยมานี่เอง มีความคล้ายคลึงประมาณ80%”
แม้ว่าจะมีเพียง80% แต่ก็เป็นเพลงที่ดีมากแล้ว
เงินที่สูญเสียไปก้อนนี้ของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์คงกู้คืนกลับมาไม่ได้แล้ว
เฉิงดันถิงพูดกล่าวว่า “ฉันจะไปดึงข้อมูลจากกล้องวงจรปิดเดี๋ยวนี้เลย ดูว่าใครกันที่เป็นคนขโมยฉบับต้นฉบับร่างที่ไม่ใช้แล้วไป จะต้องหาตัวคนคนนั้นมา แล้วจับหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ !!!”
เธอเพิ่งจะก้าวออกไป เจียงชื่อก็เรียกเธอไว้
“รอเดี๋ยว”
เฉิงดันถิงหันหลังกลับมา “ทำไมเหรอ?”
เจียงชื่อหัวเราะออกมาเบาๆ นั่งลงอย่างใจเย็นมาก พูดอย่างราบเรียบว่า “ในเมื่อคนเขากล้าขโมย โดยไม่กลัวว่าคุณจะจับได้เลย คุณหาตัวเจอแล้วมันจะยังไง?ดำเนินคดีก็ต้องสมเหตุสมผล?ความเสียหายก็เกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถกู้คืนกลับมาได้ อีกอย่างคอนเสิร์ตเคาท์ดาวน์ก็ใกล้จะมาถึงแล้ว ในเวลาแบบนี้จะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ค่อยสมเหตุสมผลจริงๆ”
จริงๆด้วย
อีกเดี๋ยวก็ใกล้จะถึงคอนเสิร์ตเคาท์ดาวน์ นี่เป็นโปรเจคที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ก่อตั้งมาเลยนะ
ถ้าหากทำพังแล้ว ความเสียหายก็คงสูงมาก
ในเวลาที่สำคัญแบบนี้ อย่าให้เรื่องอื่นมาทำให้ว่อกแว่ก ยิ่งไปกว่านั้นจะให้พนักงานภายในรู้เรื่องต้นฉบับโดนขโมยไปไม่ได้นะ งั้นก็จะไขว้เขวกันแล้ว
แต่เฉิงดันถิงก็ยังคงโกรธมากเช่นเดิม “จะปล่อยมันไปแบบนี้จริงๆเหรอ?”
เจียงชื่อส่ายๆหน้า “ดันถิง คุณเคยดู《สามก๊ก》ไหม? ”
เฉิงดันถิงยักไหล่ๆอย่างเก้ๆกังๆ
“เคยดูละครทีวี”
เจียงชื่อพูดกล่าว “ในสามก๊กมีการเทศน์อยู่บทหนึ่ง โจโฉส่งเจี่ยงก้านไปเกลี้ยกล่อมให้จิวยี่ยอมจำนน สุดท้ายกลับถูกจิวยี่ หลอกใช้กลยุทธ์ไส้ศึกกำจัดชัวมอและจางอวิ่น แม่ทัพทั้งสองที่ชำนาญในการทำสงครามทางน้ำแล้ว ”
นัยน์ตาของเขาสาดส่องแสงแวววับออกมา “ตอนนี้ภายในอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์มีหนอนบ่อนไส้แล้ว แทนที่จะลากตัวออกมาทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ สู้เล่นแผนซ้อนแผนจะดีกว่านะ ให้เขาช่วยพวกเรากำจัดความโอหังของบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง!”
เฉิงดันถิงสับสนหมดแล้ว “คนของบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง จะช่วยเหลือเราได้ยังไงกัน?”
เจียงชื่อยิ้มแล้ว
เขากวักมือเรียกทั้งสองคนเข้ามา พูดรายละเอียดแผนการของตัวเองที่ข้างหูของพวกเขาแล้ว
หลังจากที่ได้ฟังเสร็จแล้ว เฉิงดันถิงและหลัวเซิ่งต่างก็ยิ้มแล้ว
“ประธานเจียง แผนการนี้ของคุณช่างร้ายกาจมากจริงๆ” หลัวเซิ่งทำปากบิดเบี้ยวแล้ว “แต่ว่า ผมชอบมากจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาเอื้อมมือไปหยิบปากกาขึ้นมา หยิบกระดาษ A4 สักสามสี่แผ่นออกมาถูๆหน่อยๆ หลังจากที่เขียนเสร็จแล้ว ก็นำกระดาษในนั้นหนึ่งแผ่นวางไว้ในตู้เซฟ ส่วนกระดาษที่เหลือทั้งหมดก็โยนทิ้งลงในถังขยะแล้ว
หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว หลัวเซิ่งและเฉิงดันถิงก็เดินออกไปจากห้องทำงานแล้ว
เดินออกไปพลางพร้อมพูดคุยไปพลาง
เฉิงดันถิงแสร้งทำเป็นเอ่ยถามอย่างเป็นกังวลว่า “อาจารย์หลัว เนื้อเพลงใหม่นี้ที่คุณแต่งขึ้นมาจะช่วยให้เราทวงคืนความพ่ายแพ้ได้จริงๆเหรอ?”
หลัวเซิ่งตบหน้าอกแล้วพูดว่า “ทำไม ไม่เชื่อคนแซ่หลัวอย่างผมเหรอ?จะบอกคุณนะ เนื้อเพลงนี้เป็นมาตรฐานที่ดีที่สุดที่ผมประพันธ์เพลงขึ้นมาแล้ว ขอเพียงแค่ประพันธ์เพลงออกมา จะต้องได้รับการยอมรับจากผู้ชมแน่นอน ถึงตอนนั้นก็กดทับ《ฉงหรง》ลงไปก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก ”
เฉิงดันถิงแสดงสีหน้าสีตาที่มีความสุข “งั้นก็ขอขอบคุณอาจารย์หลัวมากๆค่ะ”
“โธ่เอ๋ย ไม่ต้องมาเกรงอกเกรงใจกับผม”
ทั้งสองคนพูดไปหัวเราะไป เดินผ่านทางเดินไป ไม่มีใครได้สังเกตเลยว่า มีเงาร่างที่ด้อมๆ มองๆกำลังแอบฟังสิ่งที่พวกเขาทั้งสองคนพูดกันเลย
หลังจากที่ฟังสิ่งที่พวกเขาทั้งสองคนพูดกันเข้าใจแล้ว มุมปากก็เผยรอยยิ้มที่เยือกเย็นออกมา
ผ่านไปไม่นาน ฟ้าก็มืดลงแล้ว
เจียงชื่อเก็บของเสร็จออกไปจากห้องทำงานไปแล้ว กลับบ้านเหมือนปกติ
เพิ่งจะก้าวเดินไป หลังจากนั้นก็มีพนักงานทำความสะอาดเข้ามานำขยะที่อยู่ในถังขยะไปเททิ้งแล้ว แล้วก็ออกจากห้องทำงานไปแล้ว