เขาหันมามองไปที่ติงเมิ่งเหยน
มองดูรอยยิ้มของเธอ
“คุณมองอะไร?” ติงเมิ่งเหยนถาม
เจียงชื่ออยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่รู้สึกว่าถึงพูดอะไรออกไปมันก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเขาจึง……
เขาโน้มตัวไปข้างหน้าแล้ววางจูบลงบนแก้มอันขาวเนียนของติงเมิ่งเหยนด้วยริมฝีปากของเขา และทันใดนั้น แก้มอันขาวเนียนก็กลายเป็นสีแดงทันที
แก้มของติงเมิ่งเหยนทั้งแดงและร้อนมาก
เพราะเธอถูกจูบต่อหน้าผู้คนมากมายอย่างนี้ ซึ่งทำให้หัวใจอันบอบบางของเธอรู้สึกเขินอายจนทนไม่ไหวและใจเต้นแรงอย่าไม่หยุด
“คนบ้า!”
กำปั้นอันบอบบางของติงเมิ่งเหยนชกไปที่กลางอกของเจียงชื่อ จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเดินจากไปทันที
พฤษภที่ยืนอยู่ข้างๆ ตะโกนขึ้นว่า “ลูกพี่ รีบตามไปสิครับ!”
เจียงชื่อจ้องไปที่พฤษภด้วยสายตาที่ดุเดือด และทำให้พฤษภรีบปิดปากเงียบทันที
แต่คิดๆ แล้ว สิ่งที่พฤษภพูดก็มีเหตุผลเหมือนกัน ดังนั้นเจียงชื่อจึงลุกขึ้นและรีบตามเธอไป
ท่ามกลางแสงจันทร์
เงาของทั้งสองกำลังไล่ตามกันอยู่ใกล้ชิด
ทั้งสองวิ่งไปตามถนนริมแม่น้ำที่ส่องประกายอย่างระยิบระยับ
หลังจากที่ฝ่ายชายเดินตามฝ่ายหญิงทัน เขาได้ดึงเธอมาอยู่ที่กลางอก และภายใต้แสงจันทร์ผู้เป็นพยานนี้ ทั้งสองก็ได้โอบกอดกันด้วยความรัก
“เมิ่งเหยน”
“คุณจะพูดอะไรอีก?”
“ผมยังไม่ได้สวัสดีปีใหม่กับคุณเลยนะครับ”
มุมปากของติงเมิ่งเหยนยกขึ้น รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขและความสดใสได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ จากนั้นเธอก็โน้มตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเจียงชื่อ “สวัสดีปีใหม่เช่นกันนะ”
……
ปีที่เริ่มใหม่กับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามานี้
ช่วงเวลาต่อจากนี้ อุตสาหกรรมบันเทิงของเขตเจียงหนานเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
หุ้นของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์เติบโตอย่างก้าวกระโดด และมันเพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบ 80 เท่าแล้ว! อีกอย่างในตอนนี้มันยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าจะหยุดลง ซึ่งก็เหมือนการได้นั่งอยู่บนจรวดอย่างไรอย่างนั้น
แน่นอนว่ามีคนสุขก็ย่อมมีคนทุกข์อยู่แล้ว
และผู้ที่ต้องทุกข์ในครั้งนี้ก็คือบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง
เพราะพวกเขาได้วางแผนและทุ่มเงินเป็นจำนวนมากเพื่อทำให้คอนเสิร์ตพังลง แต่ในที่สุดพวกเขากลับสร้างผลกระทบไม่ได้เลย ไม่เพียงแค่นั้น สุดท้ายแล้วพวกเขายังต้องกลายเป็นเรื่องน่าตลกของผู้คนอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการปั๊มยอดโหวต คอนเสิร์ตที่ใช้การลิปซิงค์ การละเมิดลิขสิทธิ์ หรือการลอกเลียนแบบผลงาน ซึ่งข่าวเชิงลบต่างๆ ก็เริ่มปรากฏขึ้นทีล่ะอย่างจนเกือบทำให้บริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องไม่มีจุดยืนในสังคมอีก
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะออกมาขอโทษภายหลัง และทำการลงโทษศิลปินหญิงฮัวเสี่ยงหรงเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เพราะพวกเขาได้ทำลายความประทับใจที่ผู้ชมมีให้กับพวกเขาไปหมดแล้ว และมันก็ยากที่จะเอาความเชื่อใจนั้นกลับคืนมาได้
ส่วนผลที่ตามมาคือหุ้นของบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องได้ตกลงมาอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ จนในตอนนี้ราคาหุ้นของพวกเขาเหลือเพียงสองในสามของแต่เดิมเท่านั้น
เงินหลายหมื่นล้านหายไปในเวลาเพียงไม่กี่วัน
ซึ่งผลกระทบครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้ประธานของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์อย่างโป๋สิ้นหงถึงกับเงยหน้าไม่ขึ้นเลยทีเดียว
แต่เดิมที่วางแผนต่างๆ ไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนพิธีกร หรือว่าถอนการสนับสนุน แต่สุดท้ายแล้วมันก็เปล่าประโยชน์ และยังต้องแพ้ให้กับแผนของเจียงชื่ออย่างราบคาบ
ไม่เพียงแต่จะทำอะไรอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ไม่ได้ แต่เพราะการเปลี่ยนพิธีกรจึงทำให้ฉู่เล่อถงกลายเป็นคนดังอย่างสมบูรณ์แบบ
ซึ่งในตอนนี้ ฉู่เล่อถงก็กลายเป็นพิธีกรแถวหน้าที่โด่งดังอย่างเต็มตัวแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงหรือกระแส ทั้งหมดก็ถูกครอบครองโดยเขา
หลังจากการปั้นเชฟเซียนกับหลิงเหยาให้เป็นคนดังแล้ว ฉู่เล่อถงก็กลายเป็นแบนเนอร์คนที่สามของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งก็ทำให้บริษัทบันเทิงอื่นๆ รู้สึกอิจฉามาก
ในเวลาเดียวกัน นักแสดงและพิธีกรมือใหม่ที่มีคุณภาพก็แห่กันมาที่อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์
ด้วยชื่อเสียงที่โด่งดัง ผลตอบแทนที่สูง และยังมีการปั้นคนให้กลายเป็นคนดังอีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นที่ดึงดูดนักแสดงต่างๆ ที่มีคุณภาพมาร่วมงานด้วย จากนักแสดงหรือพิธีกรที่มีคุณภาพเหล่านี้ พวกเขาสามารถปั้นคนกลุ่มหนึ่งให้กลายเป็นคนดัง และยังสามารถขยายอิทธิพลของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ออกไปอย่างกว้างขวางได้
ซึ่งสามารถบอกได้ว่า อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ในตอนนี้กำลังเดินอยู่บนวัฏจักรที่ดีงามแล้ว
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ มูลค่าในตลาดหุ้นของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์นั้นพุ่งสูงกว่าบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง และในการเผชิญหน้าในครั้งนี้ อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์สามารถทำให้บริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง ตกลงจากหลังม้าได้และกลายเป็นบริษัทบันเทิงอันดับหนึ่งของเขตเจียงหนาน!
ดังนั้น ‘อี้โม่’ สองคำนี้จึงกลายเป็นที่รู้จักของทุกคน