“เก่งนักก็ยิงเด้ เข้ามารุมสิวะ! คิดว่าใส่ชุดทหารแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ ไม่หลบโว้ย เก่งนักก็มาฆ่าให้ตายดิ!”
อวี๋หมิงหลางที่ใช้กล่องส่องทางไกลดูเหตุการณ์อยู่แทบอยากตะโกนออกไปว่า ส่งสไนเปอร์มา!
แต่ยิงไม่ได้จริงๆ ถ้ายิงจะผิดกฎ
“ลองเจรจาอีกครั้ง ถ้ายังไม่ได้ผลอีก ก็ส่งคนฝีมือดีสองคนกระโดดขึ้นรถคันนั้นแล้วลากคอไอ้หมอนั่นลงมา!” อวี๋หมิงหลางออกคำสั่ง
ลำพังแค่ทำเรื่องแบบนี้ก็ต้องถูกจับขังคุกหลายวันแล้ว กล้ามาก่อเรื่องในที่สาธารณะ!
ขณะที่อวี๋หมิงหลางกำลังวางแผนอยู่นั้น เสี่ยวเชี่ยนกับฟู่กุ้ยก็กำลังวางแผนเหมือนกัน
“เดี๋ยวพี่จะไปขอยืมโทรโข่งจากทหารคนนั้น ลองดูว่าจะทำให้คนขับสงบสติอารมณ์ได้หรือเปล่า” ฟู่กุ้ยเห็นถนนเดินลำบาก แถมเสี่ยวเชี่ยนยังใส่รองเท้าแตะรัดส้น เขาจึงจะไปเอง
ฟู่กุ้ยหันเดินไปได้สองก้าว ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนจากทางด้านหลัง
“เหม่ยเหวย! เมียผม!”
เวลานี้เสี่ยวเชี่ยนกำลังหันไปทางฟู่กุ้ยอยู่ ไม่ได้สนใจข้างหลัง เธอกำลังคิดเรื่องจะเจรจากับคนขับหัวร้อนคนนี้ยังไงดี ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงแรงบางอย่างจากทางด้านหลัง เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกกอดเข้าอย่างจัง!
อย่าเรียกว่ากอดเลย เรียกว่ารัดแน่นดีกว่า!
เนื่องจากคนๆนี้แรงเยอะมาก มากเสียจนเสี่ยวเชี่ยนไม่มีแรงจะดิ้น
ฟู่กุ้ยรีบหันไปหลังจากได้ยินเสียง แล้วก็เห็นเสี่ยวเชี่ยนถูกผู้ชายที่ท่าทางประหลาดกอดแน่นจากทางด้านหลัง ถ้าหลิวเหมยอยู่ตรงนี้คงเตะแขนผู้ชายคนนั้นจนกระเด็นไปแล้ว จากนั้นก็ดึงเสี่ยวเชี่ยนออกมา แต่ฟู่กุ้ยเป็นคนสายวิชาการ เขาไม่ได้เก่งเรื่องใช้กำลังแบบหลิวเหมย ความคิดแรกของฟู่กุ้ยคือไปดึงตัวเสี่ยวเชี่ยนออกมา แต่กลับยิ่งเป็นการยั่วโมโหผู้ชายคนนี้!
“แกจะทำอะไร! เขาเป็นเมียฉัน!” ผู้ชายที่กอดเสี่ยวเชี่ยนออกแรงมากกว่าเดิม รัดแน่นจนเสี่ยวเชี่ยนหน้าแดง
ฟู่กุ้ยไม่กล้าเดินเข้าไปอีก เขาหยุดอยู่ตรงนั้น ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เดิมทีอวี๋หมิงหลางอยากวางกล้องส่องทางไกลแล้วไปจัดการคนขับหัวร้อนคนนั้นด้วยตัวเอง แต่ทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นเสี่ยวเชี่ยน ยังไม่ทันจะมองให้ดีก็เห็นผู้ชายที่สีหน้าท่าทางประหลาดวิ่งเข้าไปกอดรัดเสี่ยวเชี่ยนต่อหน้าต่อตาเขา!
สถานการณ์อันตรายขึ้นมาทันที จากเหตุการณ์ที่แค่รถติดธรรมดา กลายเป็นการจับคนเป็นตัวประกัน อีกทั้งตัวประกันคนนั้นเป็นผู้หญิงที่อวี๋หมิงหลางรักที่สุดด้วย!
“ปล่อยเธอนะ คุณจับคนผิดหรือเปล่า?” ฟู่กุ้ยลองเจรจากับผู้ชายคนนั้นดู
“ลูก ปล่อยเขาสิ!” มีคู่สามีภรรยาลงมาจากรถบัส ฟู่กุ้ยนึกออกแล้ว นี่มันคู่สามีภรรยาที่เมื่อวานเขาเจอหน้าโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ?
งั้นก็หมายความว่า…ตอนนี้ผู้ชายที่จับเสี่ยวเชี่ยนเป็นตัวประกันคือผู้ป่วยโรคหลงผิดเรื่องความรักที่มีแนวโน้มประทุษร้าย!
โรคชนิดนี้เป็นแขนงหนึ่งของโรคจิตเภท น่ากลัวมาก และคนไข้ค่อนข้างดื้อรั้น ถ้าพวกเขาคิดว่าโลกนี้เป็นแบบไหนก็ต้องเป็นแบบนั้น!
“เขาเป็นผู้หญิงของฉัน! ฮ่าๆ เหม่ยเหวย ในที่สุดผมก็เจอคุณ!” ผู้ชายคนนั้นทำหน้าภูมิใจมาก
เสี่ยวเชี่ยนถูกรัดแน่นจนแทบไม่ไหวแล้ว อวี๋หมิงหลางที่ใช้กล้องส่องทางไกลมองอยู่เห็นแล้วปวดใจมาก เสียวเหม่ยของเขาต้องตกระกำลำบาก!
“เอาสไนเปอร์มาให้ผม ตอนนี้เกิดเหตุการณ์จับคนเป็นตัวประกันแล้ว!”
“หัวหน้าใหญ่ รายงานเบื้องบนก่อนดีไหมครับ…” ถึงจะเอาปืนมาด้วย แต่จะใช้กระสุนจริงส่งเดชไม่ได้ มีขั้นตอนการขอใช้อย่างเข้มงวด
“ไม่ทันแล้ว เอาปืนมา เกิดอะไรขึ้นผมรับผิดชอบเอง!” อวี๋หมิงหลางกลัวว่าถ้าไม่รีบลงมือเมียเขาได้ถูกรัดจนตายแน่!
ทางด้านฟู่กุ้ยยังคงงงไปหมด
คนไข้รายนี้เมื่อวานถูกจับขังไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงมาปรากฏตัวที่นี่ล่ะ?
หรือทางโรงพยาบาลไม่ดูแลคนไข้ที่อาการกำเริบอยู่ในระยะอันตรายแบบนี้อย่างเข้มงวดเหรอ?
ผู้ป่วยโรคหลงผิดเรื่องความรักไม่ได้หนีออกมา แต่เขาถูกพ่อแม่รับออกมา
เรื่องมันเริ่มจากที่เมื่อวานผู้อำนวยการโรงเรียนบังเอิญเจอพ่อแม่ผู้ป่วย จากนั้นก็ร่วมกันรุมว่าเสี่ยวเชี่ยน
ผู้อำนวยการกลัวว่าเสี่ยวเชี่ยนจะเอาเรื่องที่เธอถูกข่มขืนป่าวประกาศออกไป ประจวบเหมาะกับที่เจอพ่อแม่ของผู้ป่วยรายนี้พอดี พอได้ยินว่าลูกชายบ้านนี้คลั่งไคล้เสี่ยวเชี่ยน ผู้อำนวยการจึงเกิดความคิดไม่ดีขึ้น
เธอคิดว่าหากเสี่ยวเชี่ยนถูกคนไข้โรคประสาทคนนี้ข่มขืนสักครั้ง แบบนั้นเสี่ยวเชี่ยนก็จะไม่มีเวลามายุ่งเรื่องของเธอแล้ว ผู้อำนวยการที่ความคิดบิดเบี้ยวไม่ได้นึกเลยว่าการทำแบบนี้เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย
เธอพูดจายุพ่อแม่ของผู้ป่วย บอกว่าเธอรู้จักหมอที่อยู่ในเมือง ให้สองสามีภรรยารีบไปรับลูกชายแต่เช้าตรู่แล้วพาเข้าเมือง จากนั้นผู้อำนวยการก็จะหาโอกาสพาผู้ป่วยไปหาเสี่ยวเชี่ยน แต่มันช่างบังเอิญเสียนี่กระไร รถบัสที่คนไข้รายนี้และพ่อแม่นั่งมาเจอกับรถติดเข้าพอดี อีกทั้งยังได้เจอเสี่ยวเชี่ยน!
หากผู้ป่วยโรคประสาทไม่ได้กระทำความผิดร้ายแรง โรงพยาบาลประสาททั่วไปก็ไม่มีสิทธิ์กักขังเอาไว้ ถ้าพ่อแม่จะรับกลับทางโรงพยาบาลก็ต้องปล่อย สาเหตุที่เข้าโรงพยาบาลเป็นเพราะพ่อแม่หลอกว่าจะพาเข้าเมืองไปหาเมีย—ทั้งที่จริงๆแล้วหลอกพาไปโรงพยาบาล ปรากฏว่าดันไปเจอเสี่ยวเชี่ยนพอดี อาการเลยเป็นหนัก
“พ่อแม่ดูนี่สิ เมียผม นี่เมียผม!” ผู้ป่วยที่จับเสี่ยวเชี่ยนเป็นตัวประกันยิ้มเหมือนคนบ้าให้พ่อแม่
พ่อแม่เขาพอเห็นแบบนั้นก็ตกใจ “ทำไมผู้หญิงคนนี้มาอยู่ที่นี่!”
เกิดเรื่องแทนที่จะเข้าไปห้ามลูกชายตัวเอง กลับตะโกนถามเสี่ยวเชี่ยน แต่เสี่ยวเชี่ยนถูกรัดคอไว้พูดไม่ออก สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น
พ่อผู้ป่วยยังพอมีสติคิดได้ว่าอะไรเป็นอะไร พอเห็นเหตุการณ์เป็นแบบนี้ก็ตกใจมาก
“ลูก รีบปล่อยเขาเถอะ เขาถูกรัดจะตายอยู่แล้วนะ!”
“ไม่ปล่อย! เขาเป็นเมียผม เขาคือเหม่ยเหวย!”
“คนที่อยู่ข้างหน้าฟังทางนี้ พวกคุณถูกมือสไนเปอร์ของทหารล้อมไว้หมดแล้ว รีบปล่อยตัวประกันเสียดีๆ ไม่อย่างนั้นอย่าโทษที่เราต้องยิง!” เสียงดังมาจากโทรโข่ง เสี่ยวเชี่ยนที่ใกล้หมดแรงเต็มทนฟังออก นี่มันอวี๋หมิงหลาง!
พ่อแม่ของผู้ป่วยพอได้ยินว่าทหารตั้งปืนกันแล้วก็ช็อคหนัก คนเป็นแม่ถึงกับทรุดลงกับพื้น
“อย่ายิงนะ เขาเป็นโรคประสาท เขาฆ่าคนไม่ผิด!”
ตอนนี้อวี๋หมิงหลางอยากยิงผู้หญิงคนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด นี่พูดจาภาษาคนอยู่เหรอ?
คนบ้าฆ่าคนไม่ผิดกฎหมาย งั้นสมน้ำหน้าที่เมียเขาถูกจับเป็นตัวประกันงั้นสิ?
“ปล่อยตัวประกันเป็นทางเลือกเดียวของพวกคุณ ไม่อย่างนั้นเขาฆ่าคนไม่ผิดกฎหมายก็จริง แต่ในขณะที่ตัวประกันตกอยู่ในอันตราย พวกเรายิงปืนก็ไม่ผิดกฎหมายเหมือนกัน!”
หลังจากที่อวี๋หมิงหลางพูดจบ คนเป็นแม่ก็รีบหันไปคำนับให้ลูกชายตัวเองที่เป็นบ้า
“ลูกจ๋า แม่ขอร้องล่ะนะ ปล่อยคนเถอะ!”
“เขาเป็นเมียผม ผมกอดเขาไม่ผิดกฎหมาย~เมียจ๋า~เมียจ๋า~ฮี่ๆๆ!”
ใช้เหตุผลพูดกับคนบ้าไปก็ไร้ประโยชน์ คนบ้าเดี๋ยวรัดแน่นเดี๋ยวคลายออก เสี่ยวเชี่ยนถูกรัดจนตาใกล้เหลือกแล้ว เธอใกล้จะไม่ไหวแล้ว!