ชายวัยกลางคนเองก็ไม่เข้าใจในคำแนะนำของเจียงชื่อเช่นกัน “คุณครับ ผมคิดว่าโสมที่อยู่ในมือของคุณนั้นไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่เลย”
เจียงชื่อหยิบ พร้อมกับเดินถือโสมไปคุยกับเถ้าแก่เจ้าของร้าน “เถ้าแก่ งั้นคุณก็เมตตากรุณายกให้เขาไปทั้งสองต้นเลยสิครับ?”
เถ้าแก่เจ้าของร้านอึ้ง จากนั้นพยักหน้า
“นายนี่ได้คืบจะเอาศอกจริงเชียว แต่ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนใหญ่โตใจกว้างขวาง”
“สิ่งที่พวกนายทั้งสองคนได้เลือกไปก็เอาไปให้หมดเลยนั่นแหละ!”
อันที่อยู่ข้างหน้าร้านราคาห้าหมื่นหยวน ส่วนต้นที่เจียงชื่อเลือกนั้น ราคาไม่น่าจะถึงห้าสิบหยวนด้วยซ้ำ เถ้าแก่เจ้าของร้านจึงไม่ได้รู้สึกเจ็บแสบแต่อย่างใด ให้ความรู้สึกเหมือนแจกขยะให้
ขอเพียงแค่ขับไสให้พวกเขาไปซะ อย่าพูดว่าแค่’ขยะ’ชิ้นเดียวเลย ต่อให้เอาไปทั้งหมดก็ยังได้
การเลือกเสร็จสิ้นแล้ว
เถ้าแก่เจ้าของร้านสั่งให้คนงานไปห่อโสมทั้งสองนี้
ในเวลานี้เอง มีชายชราคนหนึ่งเดินผ่านเข้ามา เขาสวมชุดกี่เพ้าสีฟ้า สวมแว่นทรงกลม มีท่าทางที่ดูอ่อนโยน
คนที่รู้จักเขาจะทราบดีว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในด้านยาสมุนไพร–หูเจิ้งชิง
เขาจะเดินไปรอบๆ ร้านสมุนไพรเหล่านี้เพื่อดูว่าร้านไหนที่รับซื้อสินค้าที่ดีมา จากนั้นก็จะแลกเปลี่ยนสินค้าในราคาที่ต่ำลง
เมื่อสักครู่ เขาเฝ้าดูเรื่องครึกครื้นนี้อยู่และไม่ได้เอาจริงเอาจังอะไรนัก
แต่เมื่อเห็นเจียงชื่อเลือกหยิบโสมออกมา ดวงตาทั้งสองก็สว่างไสว รู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติเล็กน้อย
เมื่อเขายิ่งมองไปที่ต้นโสม’ขยะ’นั่น มันก็ยิ่งดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่าง เขาทนไม่ได้อีกต่อไปจึงเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “ทุกท่าน ช่วยแสดงโสมต้นนี้ให้ฉันดูหน่อยจะได้ไหม?”
เถ้าแก่เจ้าของร้านคุ้นเคยกับหูเจิ้งชิงเป็นอย่างดีและรู้ว่าเขาเป็นปรมาจารย์ในด้านนี้
“โอ้ ปรมาจารย์หูอยากดูงั้นเหรอ?งั้นเชิญดูได้เลย”
ในตอนแรก เถ้าแก่เจ้าของร้านนั้นคิดว่าหูเจิ้งชิงนั้นต้องการจะมายลโฉมโสมที่มีราคา’9999999′ แต่สิ่งที่น่าอึดอัดก็คือ หูเจิ้งชิงนั้นกลับหยิบ’ขยะ’อีกชิ้นขึ้นมาดู
เขาใช้มือปัดฝุ่นดิน หลังจากมองดูด้านใน’สินค้า’แล้วก็ต่างตกตะลึง
“นี่คือ?”
สีหน้าของหูเจิ้งชิงนั้นดูตกใจ เขาหยิบแว่นขยายขึ้นมา จากนั้นส่องมองไปที่โสมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ยิ่งดูก็ยิ่งประหลาดใจ
ยิ่งดูก็ยิ่งดีอกดีใจ
ในตอนท้าย ใบหน้าของหูเจิ้งชิงนั้นแดงขึ้นมา
เขาวางแว่นขยายและพูดอย่างตื่นเต้นกับชายวัยกลางคน “พี่ชาย คุณช่วยขายโสมนี่ให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันยินดีที่จะซื้อมันในราคาสามหมื่นหยวน”
ทุกคนประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้
ทุกคนรู้ดีว่าสิ่งที่หูเจิ้งชิงรักที่สุดคือการซื้อมาในราคาถูกและขายออกไปในราคาที่สูง สายตาของเขานั้นเฉียบแหลมเป็นอย่างมากและเขาไม่เคยพลาดมันเลยสักครั้ง
เขายินดีที่จะซื้อในราคาสามหมื่น นั่นหมายความว่ามูลค่าที่แท้จริงจะต้องมากกว่าสามหมื่นอย่างแน่นอน
ชายวัยกลางคนเหลือบมองโสม ทั้งสกปรกและดูน่าเกลียด ของคุณภาพไม่ดีแบบนี้ ขายออกสามหมื่นก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
“เอ่อ จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้ตัดสินใจจะเอามันอยู่แล้วครับ”
“ถ้าคุณยินดีจ่ายสามหมื่น งั้นผมก็จะ…”
ชายวัยกลางคนต้องการขาย แต่ถูกเจียงชื่อขัดขวางเสียก่อน
เจียงชื่อยิ้มให้หูเจิ้งชิง “สามหมื่น น้อยไปหน่อยหรือเปล่าครับ?”
หูเจิ้งชิงกล่าวอย่างสมเหตุสมผล “สามหมื่นนี่ก็ไม่น้อยนะ ถ้าเป็นคนอื่นซื้อล่ะก็ ราคาสามร้อยก็อาจจะไม่เต็มใจที่จะจ่ายมันด้วยซ้ำ”
“งั้นเหรอครับ?”
เจียงชื่อคว้ามันกลับคืนมา “พวกเราก็ไม่ใช่พวกนักต้มตุ๋น ในเมื่อราคามันไม่ถึงสามหมื่นแล้วจะขายมันทำไมกันล่ะครับ”
“อย่า อย่า” หูเจิ้งชิงถามอย่างรีบร้อน “นายต้องการเท่าไหร่ล่ะ?ตั้งราคามาเลย”
เจียงชื่อยิ้มเล็กน้อย “เท่าไหร่ก็ไม่ขายครับ”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เถ้าแก่เจ้าของร้านก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย นี่มันก็แค่’ขยะ’ชิ้นหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่เหรอ?ทำไมหูเจิ้งชิงถึงให้ความสนใจขนาดนี้กัน?แถมยังให้อีกฝ่ายตั้งราคาอีกเนี่ยนะ?
ที่ตลกกว่านั้นคืออีกฝ่ายบอกว่าจะไม่ขายมันด้วยเงินด้วยซ้ำ
แบบนี้ก็ได้เหรอ?