เจียงชื่อรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย เพราะชุดเข็มเทพนี้เขาตั้งใจจะซื้อให้ซินจื่อหมินอยู่แล้ว แต่เขากลับไม่รับไว้
ซินจื่อหมินตบไหล่เจียงชื่อแล้วพูดอย่างร่าเริงว่า “ผมแก่แล้ว เกษียณไปแล้วด้วย เอาเข็มเทพชุดนี้ไปก็ทำอะไรไม่ได้มาก แต่คุณต่างหาก เจียงชื่อ คุณเป็นดาวรุ่งคนใหม่ ถ้าเก็บเข็มเทพชุดนี้ไว้ใช้เอง ทักษะทางการแพทย์ของคุณต้องเพิ่มขึ้นมากมายอย่างแน่นอน!”
“ผม?”
“ใช่”
ซินจื่อหมินพูดอย่างจริงจัง “คุณไม่ต้องห่วงนะ ผมจะพยายามช่วยให้คุณเรียนรู้ทักษะการใช้เข็มวิเศษชุดนี้ให้ดีที่สุด ใช้ ‘เข็มชี่แปดทิศ’ รวมกับเข็มเทพเปี่ยนเชวี่ย เจียงชื่อแล้วทักษะทางการแพทย์ของคุณจะไปถึงขั้นไหน แม้แต่ตาแก่อย่างผมยังไม่กล้าคิดเลย”
สือเหวินปิ่งทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ
“ไปถึงขั้นไหน?”
“เด็กน้อยที่เพิ่งเข้าวงการ พื้นฐานยังไม่แน่นด้วยซ้ำ ชีวิตนี้อย่าหวังจะได้เกิด”
เป็นคำพูดที่เหมือนนิทานหมาป่ากินองุ่นไม่ถึง แล้วเที่ยวพูดว่าองุ่นนั้นเปรี้ยวจริงๆ
ซินยุ่นตอบอย่างเย็นชาว่า “เหอะๆ คนที่ดูเหมือนเป็นเด็กใหม่คนนี้ แต่ชนะลูกศิษย์ของผู้มีทักษะทางการแพทย์มาหลายครั้งแล้วนะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณยังมีหน้ามาว่าคนอื่นได้ยังไง”
ซินยุ่นที่อดทนมาตั้งนานก็ไม่รีรออีก
เพราะว่าสือเหวินปิ่งคนนี้น่าเกลียดจริงๆ
สือเหวินปิ่งได้แต่กัดฟันและไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเขาล้มเหลวมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ถ้าหากคุยเรื่องนี้ต่อคงไม่เป็นผลดีสำหรับเขา
การประมูลดำเนินต่อไป
สินค้าถัดมาหลายๆ ชิ้นเจียงชื่อไม่ได้สนใจมากนัก
จนกระทั่งมาถึงรายการสินค้าที่ 17
ซึ่งก็คือตับมนุษย์ที่ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดีหลังจากนำออกมาจากร่างกายมนุษย์ได้ไม่นาน!
และหลังจากที่ตับมนุษย์ชิ้นนี้ถูกนำมาแสดงให้เห็นอยู่ตรงหน้า มันก็ได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนในงานประมูล ทุกคนจับจ้องไปที่สินค้าชิ้นนี้อย่างไม่อาจละสายตา แน่นอนว่าพวกเขาต่างก็อยากได้มันไปครอบครอง
ซึ่งมันต่างจากเข็มเทพก่อนหน้านี้ เพราะมนุษย์ทุกคนต้องการใช้ตับอยู่แล้ว!
ไม่มีใครมั่นใจได้ว่าในอนาคตตับของตนจะไม่มีปัญหาอะไร ต่อให้ตับของตนจะไม่มีปัญหา แล้วญาติมิตรและเพื่อนฝูงจะไม่มีปัญหากันหมดหรือ?
ในสังคมปัจจุบัน อวัยวะของมนุษย์เป็นสิ่งที่ขาดแคลนอยู่แล้ว
ราคาดีแต่ไม่มีตลาดซื้อขาย
ต่อให้มีเงินแค่ไหนก็หาซื้อตับมนุษย์ได้ยากอย่างแน่นอน
ดังนั้น ตับทุกชิ้นล้วนมีราคาที่แพงมาก เพราะมันอาจช่วยชีวิตคุณได้ในช่วงเวลาวิกฤติ
แล้วใครไม่อยากครอบครองของดีแบบนี้ล่ะ?
ทุกคนต่างจับจ้องไปที่ตับชิ้นนี้อย่างใจจดใจจ่อ รวมไปถึงสือเหวินปิ่งด้วย
จากนั้นพิธีกรไม่ได้รอช้าและประกาศราคาเริ่มต้นการประมูลทันที ‘100 ล้าน!’
และทุกครั้งที่บวกราคาเพิ่มจะต้องไม่ต่ำกว่าสิบล้าน
เห็นได้ชัดว่าราคานี้มันเกินราคาของตับชิ้นนี้ไปมากแล้ว แต่ช่วยไม่ได้ เพราะมันเป็นของที่หายากจริงๆ ถ้าคุณต้องการมัน ทุกคนก็ต้องการมันเช่นกัน และแน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนต้องการนั้น ราคาของมันก็ต้องแพงอยู่แล้ว
“เอาล่ะ เริ่มการประมูลได้!”
เมื่อพิธีกรประกาศเริ่มการประมูล เหล่าเศรษฐีก็เริ่มเสนอราคาไปที่ ‘130 ล้าน’ โดยที่ไม่มีการลังเลใดๆ
แต่แล้ว ราคาที่มากกว่านี้ก็ถูกเสนอขึ้นอีก
นักมูลต่างก็เสนอราคาแข่งกันอย่างไม่หยุด เพราะตับชิ้นนี้เป็นสมบัติที่ใครๆ ก็อยากได้ทั้งนั้น ดังนั้นการประมูลจึงดุเดือดขึ้น และผ่านไปสักพักราคาก็พุ่งถึง 300 ล้านแล้ว
300 ล้าน! เป็นจำนวนราคาที่มหาศาลมาก
และเวลานี้ ในที่สุดสือเหวินปิ่งที่นั่งเงียบมาตลอดทั้งการประมูลรายงานนี้ก็พูดขึ้นมา
“ผมให้ 500 ล้าน!”
จุดประสงค์ของการมาในครั้งนี้ก็เพื่อจะเอาตับชิ้นนี้กลับไปรักษาผู้ป่วยผู้มีเกียรติของเขา ขอเพียงแค่สามารถรักษาผู้ป่วยคนสำคัญคนนี้ได้ เรื่องเงิน 500 ล้านก็เป็นเรื่องเล็กไปเลย
ดังนั้นสือเหวินปิ่งจะต้องชนะการประมูลตับชิ้นนี้ให้ได้
ตามข้อสังเกตของเขาแล้ว คนที่รวยจริงๆ ในการประมูลครั้งนี้มีไม่มาก และคนส่วนใหญ่จะมีทรัพย์สินมูลค่า 400 ล้านเท่านั้น ฉะนั้นสือเหวินปิ่งจึงเปิดราคาไปที่ 500 ล้านโดยที่ไม่รอช้า และเขาเชื่อว่าจะสามารถเอาชนะนักประมูล 99% ในนี้ได้อย่างแน่นอน