สุ่ยชิงเหยามองเจียงชื่อผ่านทางหางตา คิดว่าคำพูดของตนจะทำให้เจียงชื่อโกรธและหวาดกลัว
ยิ่งอีกฝ่ายโกรธเขาก็ยิ่งมีความสุข
แต่สิ่งที่ทำให้สุ่ยชิงเหยาสับสนก็คือเจียงชื่อนิ่งไม่ไหวติง ราวกับว่าไม่ได้ยินอะไรเลย เอาแต่นั่งจิบเหล้าบนเก้าอี้ ทำหูทวนลมกับคำพูดของสุ่ยชิงเหยา!
เช่นนี้จึงยากที่จะคาดเดา
หลังจากที่คนคนหนึ่งพูดออกมา ปฏิกิริยาแบบไหนที่ทำให้คนที่พูดยอมรับไม่ได้มากที่สุด?
เห็นด้วยกับคุณ? ไม่ใช่
คัดค้านคุณ? ก็ไม่ใช่
มันคือการเงียบ ได้ยินก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ดั่งคำพูดของคุณเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ฟิ้ว เหมือนลมพัดผ่านไป
ปฏิกิริยาของเจียงชื่อทำให้สุ่ยชิงเหยาโกรธจนแทบจะระเบิด
เขาตวาดใส่เจียงชื่อ “เฮ้ คุณได้ยินที่ผมพูดไหม? ผมส่งคนไปจัดการกับแฟนสาวของคุณแล้ว! ต่อให้คุณพาคนไปเดี๋ยวนี้ก็สายเกินไปแล้ว คุณไม่มีท่าทีโต้ตอบหน่อยหรือ?”
เจียงชื่อแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เอาแต่กินกับแกล้มดื่มเหล้าต่อไป
“เจียงชื่อ! คุณพูดอะไรหน่อยสิ!”
“อุดปากเขาซะ”
ทันใดนั้นก็มีคนเอาผ้าขนหนูมาอุดปากสุ่ยชิงเหยา เขาไม่สามารถพูดอะไรได้เลย
เสี่ยวเตี๋ยที่อยู่ข้างกายถามอย่างเป็นกังวลว่า “เจียงชื่อ คุณจะไม่ทำอะไรจริงหรือ?”
เจียงชื่อพูดอย่างเรียบเฉย “ทุกอย่างอยู่ในกำมือแล้ว คุณต้องพักผ่อนสงบสติอารมณ์ ที่เหลือผมจะจัดการเอง”
เสี่ยวเตี๋ยไม่เคยรู้สึกปลอดภัยเท่าในเวลานี้มาก่อน
เจียงชื่อให้ความรู้สึกแข็งแกร่งอย่างที่นางไม่เคยมีมาก่อน นางเป็นเหมือนลูกแกะที่น่าสงสาร วิ่งเพ่นพ่านในทุ่งรกร้างที่เต็มไปด้วยหมาป่า ในที่สุดก็ได้รับการปกป้องจากราชาสิงห์ผู้ยิ่งใหญ่
ความรู้สึกเช่นนี้วิเศษมาก แต่ก็จริงแท้เช่นกัน
…
ห้องโถงใหญ่ของโรงแรม
ทันใดนั้นประตูก็ถูกผลักเปิดออก ตามมาด้วยคนกลุ่มใหญ่ที่ดูเฉื่อยชา แต่ละคนเปลือยท่อนบน มีรอยสักตามร่างกาย ทุกคนถือขวานอยู่ในมือ
เมื่อพนักงานบริการเห็นคนกลุ่มนี้ ก็ตกใจจนรีบเข้าไปหลบใต้เคาน์เตอร์ทันที
หนึ่งในนั้นเดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์ เอาขวานกระแทกลงไปอย่างแรง แล้วตะโกนว่า “ซินยุ่นพักอยู่ห้องไหน?”
พนักงานบริการไม่กล้าขัดขืน รีบตรวจสอบทันที
“ซินยุ่น พักห้อง 608 ค่ะ”
“อืม เอาคีย์การ์ดสำรองมา!”
“นี่ค่ะ”
พนักงานบริการยื่นคีย์การ์ดออกไปอย่างหวาดกลัว หลังจากที่ชายคนนั้นรับไป ก็พูดเสริมว่า “องค์กรฟ้าน้ำกำลังทำงาน พวกคุณเป็นคนนอกไม่ควรเข้าไปยุ่งจะดีกว่า หากกล้าโทรแจ้งตำรวจ ผมจะฆ่าคุณเมื่อไหร่ก็ได้!”
พนักงานบริการหวาดกลัวจนน้ำตาแทบไหล
เคยได้ยินมานานแล้วว่าคนขององค์กรฟ้าน้ำใช้อำนาจเที่ยวระรานอย่างหาที่เปรียบมิได้ ในที่สุดวันนี้ก็ได้สัมผัสประสบการณ์
กลุ่มผู้ชายเดินไปที่ประตูลิฟต์และเข้าไปทีละคน หลังจากรูดคีย์การ์ดห้องพักก็ขึ้นไปบนชั้นหกอย่างราบรื่น
ติ๊งต่อง ประตูลิฟต์เปิดออก
คนกลุ่มใหญ่ก้าวออกมา มองไปยังปลายทางเดินที่อยู่ลึกเข้าไป
เห็นชายรูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของทางเดิน อีกด้านหนึ่งมีชายคนหนึ่งแบกธนูกับลูกศรเอาไว้บนหลัง
ทางเดินแคบยาว ถูกชายสองคนขวางไว้
คือสิงห์และธนูแห่งกองทองสิบสองปีนักษัตร!
อันที่จริง พวกเขาสองคนยังมีความสัมพันธ์พิเศษอีกชั้นหนึ่งที่คนนอกไม่รู้ นั่นคือ พวกเขาเป็นพี่น้องกันแท้ๆ
ธนูเป็นพี่ชาย สิงห์เป็นน้องชาย
กลุ่มชายเปลือยท่อนบนเหล่านี้ไม่รู้จักพวกเขา คิดว่าเป็นพนักงานบริการในโรงแรม พวกเขาแยกกันเดินทางซ้ายและขวาเพื่อค้นหาห้องหมายเลข 608
ห่างจากพวกเขาออกไปเพียงสามเมตร
ฟิ้ว ลูกศรพุ่งทะลุอากาศ แทงทะลุต้นขาของหนึ่งในนั้น! ชายคนนั้นร้องโหยหวน นอนร้องครวญครางเอามือกุมต้นขาอยู่กับพื้น
ธนูเข้าโจมตีแล้ว