ผู้จัดการเฉาและหลิวเต๋อหวางมองหน้ากัน แล้วเผยรอยยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม ต่างฝ่ายต่างรู้ซึ่งกันและกัน
ในเวลานี้ ติงเมิ่งเหยนได้เดินเข้ามาแล้วพูดว่า “ขอดูใบแจ้งหนี้และใบเสร็จหน่อยได้ไหมคะ?”
“ได้สิครับ”
หลิวเต๋อหวางมอบของให้ติงเมิ่งเหยน
ติงเมิ่งเหยนในฐานะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทติงหรง เธอมีความสามารถเชี่ยวชาญในด้านนี้มาก จะจริงหรือปลอม แค่มองก็รู้แล้ว
หลังจากวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน ติงเมิ่งเหยนก็ถอนหายใจออกมา
“เป็นของปลอมจริงๆ ด้วย”
ในเวลานี้ คุณลุงคุณป้ายิ่งทนไม่ไหวแล้ว ชี้หน้าด่าหลิวเต๋อหวาง จนถึงขนาดอยากจะกระโจนเข้าไปตบหลิวเต๋อหวางสักสองที
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงรีบวิ่งเข้าไปจับมือของคุณป้าคนนั้นทันที หลายคนช่วยกันลากตัวคุณป้าออกไป
“ฮ่าฮ่า ไม่ดูเลยว่าที่นี่ที่ไหน กล้ามาก่อเรื่องงั้นหรือ? ช่างกล้ามาก!”
หลิวเต๋อหวางตำหนิผู้คน “ตอนนี้ความจริงก็ชัดเจนแล้ว พวกคุณเอาใบแจ้งหนี้กับใบเสร็จปลอมเหมือนมาต้มตุ๋นพวกเรา? เห็นคนของเครื่องประดับดาวฤกษ์ทำอะไรไม่เป็น หลอกง่ายเหรอ?”
“ถึงแม้ว่าใบแจ้งหนี้ที่พวกคุณเอามาจะเป็นของจริง แต่โจรอย่างพวกคุณ ผมจะเชื่อได้ยังไงว่าพวกคุณไม่ได้เอาไปสับเปลี่ยนหลังจากซื้อของไปแล้ว?”
“ผมมีทัศนคติที่ยุติธรรมและไม่เห็นแก่ตัว เรื่องนี้ ผมขอสนับสนุนผู้จัดการเฉาอย่างเต็มที่!”
“ไม่ว่าพวกคุณจะโวยวายหรือร้องเรียนก็ตาม พวกเราเครื่องประดับดาวฤกษ์จะไม่เกรงกลัว ขอบอกพวกคุณไว้เลยว่า วันนี้ ใครก็อย่าคิดว่าจะขอคืนได้แม้แต่เฟินเดียวเลย!”
สิ่งที่เขาพูดนั้นมีคุณธรรมเหตุผลถูกต้อง
บรรดาคุณลุงคุณป้าได้แต่กล้ำกลืนพูดไม่ออก ถูกอีกฝ่ายปั่นหัวอย่างแท้จริง
พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าใบแจ้งหนี้ที่ออกโดยเครื่องประดับดาวฤกษ์แท้ๆ จะเป็นของปลอม? มันกลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายได้ทำทางหนีทีไล่เอาไว้ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว
คุณลุงคุณป้าเหล่านี้อายุมากแล้ว คิดหากำไรเล็กน้อย จะไปสนใจอะไรมาก?
นี่คือการคิดหากำไรเล็กน้อย เลยเสียผลประโยชน์ใหญ่ที่เป็นอุทาหรณ์!
เจียงชื่อแอบชื่นชมว่าทำได้ถึงขั้นนี้นั้นไม่ธรรมดาเลย ผู้จัดการเฉากับหลิวเต๋อหวางสองคนนี้กำลังสมรู้ร่วมคิดกัน ไม่เพียงแต่ใช้ชื่อเสียงของเครื่องประดับดาวฤกษ์เพื่อหลอกเงินเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่เลวทรามต่ำช้าทุกรูปแบบอีกด้วย
มันไม่มีประโยชน์แล้วที่จะคุยด้วยเหตุผลหรือทำตามขั้นตอน
ข้อได้เปรียบทั้งหมดถูกครอบครองโดยฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว บรรดาคุณลุงคุณป้าทำได้เพียงยอมรับความโชคร้ายของตัวเอง
ซูฉินถอนหายใจ “เจียงชื่อ เรากลับกันเถอะ”
เมื่อเห็นว่าโวยวายต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ เรื่องนี้จะทำอะไรได้อีกนอกจากยอมรับความพ่ายแพ้?
แต่ทว่า เจียงชื่อกลับพูดอย่างเรียบเฉยว่า “แม่ครับ ไม่ต้องกังวล เรื่องที่ผมรับปากไว้ผมจะทำให้ได้ วันนี้ผมบอกว่าจะมาเอาเงินคืน ก็ต้องได้เงินคืน ไม่ใช่แค่คุณเท่านั้น แต่เงินที่มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของคุณลุงคุณป้าในที่นี้ทั้งหมด ก็ต้องได้คืนกลับมาไม่ให้ขาดแม้แต่เฟินเดียว!”
ทุกคนมองไปทางเจียงชื่ออย่างไม่เชื่อสายตา เรื่องแบบนี้เขาจะทำได้อย่างไร?
หลิวเต๋อหวางยิ่งพูดอย่างดูถูก “หนุ่มน้อย พูดจาอย่าให้มันจองหองนัก ผมกินเกลือมามากกว่าที่คุณกินข้าวเสียอีก สำหรับผมคุณเหมือนอากาศ”
“คืนเงิน? เอาอะไรมาคิด?”
“คุณไม่มีหลักฐานว่าสิ่งนี้ถูกซื้อจากเครื่องประดับดาวฤกษ์ของเรา อย่าบอกนะว่าจะบังคับขอคืนสินค้า?”
“ผมจะบอกคุณให้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของผมไม่ได้กินแกลบนะ ถ้าคุณเอะอะโวยวาย ผมโทรศัพท์ออกไปครั้งเดียว ตำรวจจะมาพาตัวคุณไป ขังไว้สักสี่ห้าปี”
“สู้กับผม คุณคู่ควรเหรอ?”
พูดจบ เขาก็รับบุหรี่จากผู้จัดการเฉาไปสูบอย่างลำพองใจมาก
คางคกขึ้นวอ!
คนรอบข้างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เจียงชื่อไม่ได้สนใจ เขาพูดอย่างใจเย็น “ผมบอกแล้วว่าจะคืนก็ต้องคืน ไม่มีหลักฐานแล้วทำไม? ผมต้องการให้คุณคืน คุณก็ต้องคืน!”