ในกลางดึก คืนที่พระจันทร์สองแสง
เจียงชื่อเดินเข้าไปในห้องนอนและสบตากับติงเมิ่งเหยนแล้วพูดด้วยความไม่มั่นใจว่า “ผมไปอาบน้ำก่อนนะ”
อาบน้ำเหรอ?
ติงเมิ่งเหยนมองเจียงชื่อที่กำลังเดินไปห้องน้ำและรู้สึกถึงความผิดปกติของเขา
ในตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นกับเธอแล้ว
หรือว่า คืนนี้เขาอยากจะ?
เธอทั้งคาดหวังและกลัวมาก พูดตามจริง ตอนนี้เธอไม่ได้มีอคติต่อเจียงชื่อในเรื่องนี้แล้ว ถึงเวลาที่เธอต้องยอมมอบร่างกายให้กับเขา แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์อยู่ แค่คิดว่าต้องมีอะไรกับเจียงชื่อ เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น
“คุณจะเอาจริงๆ เหรอ?”
“ไม่ดีกว่ามั้ง”
“ว่าแต่ ทำไมเราถึงรู้สึกคาดหวังกับมันล่ะ?”
ติงเมิ่งเหยนเองก็ลังเล หลังจากนั้นไม่นาน เจียงชื่อก็อาบน้ำเสร็จและเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอมองเจียงชื่อที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น จากนั้นถอยกลับไปที่เตียงด้วยสัญชาตญาณของเธอ
“เมิ่งเหยน”
“หืม?”
“ผม ผมอยาก……”
เทพแห่งสงครามชูร่าที่สามารถจัดการกับศัตรูหนึ่งต่อร้อยได้ในสนามรบ แต่ในตอนนี้เขากลับตื่นเต้นจนพูดไม่เป็นประโยค
ไม่พูดดีกว่า
เขากลืนน้ำลาย แล้วปีนขึ้นไปบนเตียง
คืนนี้จำเป็นต้อง……
“เฮ๊ย!!!”
ติงเมิ่งเหยนตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหัน เจียงชื่อเองก็รู้สึกสับสนเหมือนกัน เพราะทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยเธอก็ตะโกนออกมาแล้ว?
ติงเมิ่งเหยนเปิดผ้าห่มอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นผ้าปูที่นอนที่กลายเป็นสีแดง เธอก็รู้ว่ามีเลือดไหลออกมาจากกระโปรงของเธอ จากนั้นเธอก็พูดด้วยความเขินอายว่า “อัน……อันนั้นของฉันมา”
บู้ม!
ราวกับฟ้าผ่าลงกลางใจ
มันไม่ง่ายเลยที่เจียงชื่อจะรวบรวมความกล้า ทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างเตรียมการเสร็จแล้ว แต่กลับเจอเรื่องนี้?
ดูเหมือนว่าฟ้าไม่เป็นใจเลยจริงๆ
เรื่องมันก็มาถึงจุดนี้แล้ว เขาจะทำอะไรได้อีก? จากใบหน้าของเจียงชื่อสามารถเห็นได้ถึงความผิดหวังที่รุนแรง ซึ่งเป็นความผิดหวังที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย
ติงเมิ่งเหยนพูดด้วยความรู้สึกผิดมาก “ที่รัก ฉันขอโทษนะ”
ทำไมเธอถึงต้องขอโทษด้วยล่ะ?
คนที่ผิดไม่ใช่เธอสักหน่อย
ถ้าจะโทษ คงต้องโทษโชคชะตา!
ในคืนนี้ เจียงชื่อหลับไปพร้อมกับความผิดหวังที่ไร้จุดสิ้นสุด ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยรู้สึกผิดหวังเหมือนตอนนี้มาก่อนเลย
เช้าวันต่อมา
เจียงชื่อตื่นขึ้นเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอย่างไม่หยุด
เมื่อเปิดดูโทรศัพท์ ก็เห็นว่าเป็นสายโทรเข้าจากหยางเมิ่นหยุนผู้จัดการทีมรถเฟอร์รารี่
“ครับ เมิ่นหยุน มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
“พี่เจียงชื่อ พี่ยังจำเรื่องที่ตกลงกับพ่อหนูไว้ไหมคะ?”
“จำได้สิ ต้องการให้ผมช่วยทีมรถเอาชนะในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ไง”
“อื้ม การแข่งขันทัวร์นาเมนต์จะเริ่มในคืนนี้แล้วนะ แล้ววันนี้พี่มาช่วยทีมรถได้ไหม?”
เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?
เมื่อคำนวณจากเวลาแล้ว ดูเหมือนว่าเวลาเตรียมการหนึ่งเดือนมาถึงแล้วจริงๆ
เจียงชื่อพยักหน้าตอบ “โอเค ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ รอผมก่อนนะ”
“ขอบคุณค่ะ!”
หลังจากวางสายแล้ว ติงเมิ่งเหยนที่นอนอย่างงัวเงียอยู่ก็ถามด้วยความสงสัยว่า “เกิดอะไรขึ้นอีกแล้วเหรอ?”
“เป็นเรื่องของทีมรถแข่งน่ะ ผมรับเงินจากพวกเขามามากมายแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาต้อง ‘ใช้หนี้’ แล้วล่ะ”
“คุณจะไปแข่งเหรอ?”
“อื้ม คืนนี้ผมไม่กลับมานะ”
“ที่รัก มานี่สิ”
“หืม?”
“ขยับมานี่สิ”
เจียงชื่อขยับเข้าใกล้ติงเมิ่งเหยน จากนั้น ติงเมิ่งเหยนเปิดคอของเจียงชื่อออกและทำเครื่องหมายรอยดูดด้วยปากของเธอไว้ที่คอของเขา “คุณทำอะไร?” ติงเมิ่งเหยนยิ้มตอบ “ผู้หญิงที่โทรหาคุณเมื่อกี้นี้เสียงหวานมาก แค่ฟังเสียงฉันก็รู้ว่าหล่อนต้องเป็นสาวที่น่ารักแน่ ฉันไม่ไว้ใจที่จะปล่อยให้คุณค้างคืนกับผู้หญิงแบบนั้นหรอก รอยที่คอของคุณ คือคำเตือนที่ฉันจะให้หล่อน อย่าคิดแตะต้องผู้ชายของฉัน!”
เจียงชื่อถึงกับพูดไม่ออก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าติงเมิ่งเหยนจะมี ‘กลอุบาย’ แบบนี้ด้วย
เมื่อก่อนติงเมิ่งเหยนไม่เคยพูดคำพูดเหล่านี้ด้วยซ้ำ
ผลกระทบนั้นมันต้องเกิดจากสองฝ่าย
ติงเมิ่งเหยนมีอิทธิพลต่อเจียงชื่อ และเจียงชื่อก็ได้รับผลกระทบจากติงเมิ่งเหยนเช่นกัน ด้วยความรัก ทำให้ทั้งสองที่เป็นคนขี้อายได้กลายเป็นคนกล้าแสดงออกในความรัก
“ผมไปก่อนนะ”
หลังจากเจียงชื่อรับประทานอาหารเช้าอย่างเร่งรีบแล้ว เขาก็ขับรถเฟอร์รารี่ 458 ออกไปที่ค่ายฝึกของทีมรถ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เขาก็มาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
ทันทีที่รถหยุด หลินเมิ่นหยุนกับเถียนจีก็วิ่งเหยาะๆ เข้ามา เพราะพวกเขาไม่ได้เจอเจียงชื่อเป็นมานานแล้ว จึงคิดถึงเจียงชื่อมาก
“พี่ใหญ่ พี่มาสักทีนะ! ผมคิดถึงพี่จะแย่อยู่แล้ว”
นับตั้งแต่เจียงชื่อช่วยชีวิตเขาไว้ เถียนจีก็นับเจียงชื่อเป็นพี่ใหญ่ของเขา และยังแยกแยะความสัมพันธ์ของเขากับกัปตันทีมหยางจุนเทียนได้อย่างชัดเจน
หลินเมิ่นหยุนก็เดินเข้ามา และเธอก็เห็นรอยจูบบนคอของเจียงชื่อทันที
หัวใจของผู้หญิงนั้นอ่อนไหวมาก
แม้ว่าหลินเมิ่นหยุนไม่ถึงขั้นรักเจียงชื่อขนาดนั้น แต่เธอก็รู้สึกดีกับผู้ชายคนนี้เพราะความสามารถที่ยอดเยี่ยมของเขา และหลังจากเห็นรอยจูบบนคอ ความโกรธในใจของเธอก็ก่อตัวขึ้นทันที
“พี่ใหญ่เจียง เมื่อคืนพี่น่าจะโรแมนติกมากเลยสินะ”
เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงของหลินเมิ่นหยุนนั้นแย่มาก
เจียงชื่อยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพลางเอามือปิดรอยที่คอของเขา “ภรรยาผมตั้งใจกวนผม ไม่มีอะไรหรอก”
ภรรยาเหรอ?
เจียงชื่อแต่งงานแล้วเหรอ?
หลินเมิ่นหยุนตัวแข็งทื่อทันที ยังไม่ทันได้เริ่มต้นก็จบลงแล้ว
เมื่อคิดดูแล้วมันก็จริงเหมือนกัน ผู้ชายที่มากความสามารถอย่างเจียงชื่อ ไม่รู้ว่าจะเป็นที่หมายปองของสาวๆ สักกี่คน เมื่อถึงมือเธอดอกเดย์ลิลลี่คงเหี่ยวเฉาไปก่อนแล้วล่ะ
ในขณะที่ทั้งสามกำลังคุยกันอยู่ หยางจุนเทียนก็พาสมาชิกในทีมเดินเข้ามา
เมื่อเห็นท่าทางที่แข็งกร้าวของพวกเขา ก็รู้ว่าต้องพวกเขาต้องมาด้วยเจตนาที่ไม่ดีอย่างแน่นอน
เถียนจีเตือนว่า “พี่ใหญ่ ระวังตัวด้วยนะ ไอ้สัตว์ร้ายหยางจุนเทียนมันร้ายกาจมาก มันไม่พอใจพี่ใหญ่มานานแล้วด้วย ผมก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้มันจะวางแผนทำร้ายพี่ใหญ่ยังไงอีก”
ซึ่งหยางจุนเทียนได้ยินคำพูดทั้งหมดนี้แล้ว
เขาจึงทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ “เถียนจี พูดแบบนี้หมายความว่าไง? ฉันเป็นกัปตันนะไม่รู้เหรอ?!”