ติงจ้งกัดฟันแน่น ภายในใจเต็มไปด้วยคำหยาบคาย แต่ไม่กล้าพูดออกมา
เขาเป็นถึงข้าราชการ ตนต้องอาศัยเขาทำมาหากิน พูดไม่รื่นหูแม้แต่คำเดียวไม่ได้
จนปัญญา
ติงจ้งสั่งให้คนเอาเอกสารในการใช้ออกมา แล้วยื่นให้รองผู้อำนวยการเว่ย จากนั้นทนมองดูรองผู้อำนวยการเว่ยเอาสิทธิ์ในการใช้กลับไป พร้อมกับพาลูกน้องทั้งสองคนออกไป
ก่อนออกไป ไม่มีใครสังเกตเห็นรองผู้อำนวยการเว่ยส่งสายตาให้เจียงชื่อ ด้วยความโล่งอก เหมือนเขากลัวเจียงชื่อมากอย่างไรอย่างนั้น
ความเป็นจริงเมื่อกี้ตอนอยู่ในห้อง ตั้งแต่ต้นจนจบรองผู้อำนวยการเว่ยไม่มองเจียงชื่อแม้แต่ครั้งเดียว
รอจนกระทั่งรองผู้อำนวยการเว่ยออกไป เจียงชื่อค่อยเอ่ยปากพูด: “ตอนนี้สิทธิ์ในการแบ่งไม่ใช่ของพวกคุณแล้ว พวกเราก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อ ลาก่อน”
เจียงชื่อคว้าควงแขนเติงเมิ่งเหยน หมุนตัวหันหลังจะเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน!” ติงจ้งร้องบอกให้พวกเขาหยุด
“มีธุระอะไร?”
“เจียงชื่อ ฉันไม่เข้าใจและมากไปกว่านั้นคือไม่พอใจ ทำไมคนของกรมโยธาธิการและผังเมืองถึงเชื่อฟังคำพูดของแกมากขนาดนี้?”
เจียงชื่อหัวเราะ “คุณเข้าใจผิดแล้ว กรมโยธาธิการและผังเมืองไม่ได้เชื่อฟังผม แต่เขาแค่เหม็นขี้หน้าใครบางคนที่เอาความแค้นส่วนตัวมาใช้ในส่วนรวม เอาของส่วนรวมมาใช้กับเรื่องของตนเอง”
พูดจบ เจียงชื่อก็พาติงเมิ่งเหยนออกไป
“เจียงชื่อ!!!”
ติงจ้งนั่งกระแทกตัวลงบนเก้าอี้อย่างไร โมโหจนหายใจฮึดฮัด แพ้ให้เจียงชื่ออีกครั้งจนได้ จำไม่ได้แล้วว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ แต่ก็คือทุกครั้งที่มีเรื่องกันเขาจะเป็นคนแพ้ตลอด
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
ไอ้ลูกเขยไร้น้ำยาคนหนึ่ง ทำไมถึงแพ้ให้มันอยู่เรื่อยไป?
ติงจ้งไม่พอใจ
เขานั่งปรับลมหายใจบนเก้าอี้ คิดไม่ออกว่าทำไมถึงแพ้ไอ้ขยะนี้ทุกครั้ง
ติงเฟิงเฉิงกลับไม่เป็นอะไร เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ได้แพ้ครั้งแรก ชินไปนานแล้ว
คนที่แตกต่างที่สุดคือติงจื่อยวี่ เธอมองติงเฟิงเฉิงแล้วมองติงจ้ง ลังเลอยู่นาน แล้วพูด: “คุณปู่คะ เจียงชื่อคนนี้น่ารังเกียจมาก หนูคิดว่าเราต้องหาวิธีกำจัดมันทิ้งซะ!”
ติงเฟิงเฉิงหัวเราะโง่ๆ “หยุดเหลวไหลได้แล้ว ใช่ว่าไม่เคยคิดหาวิธีมาก่อน เธอไม่ลองคิดดูล่ะ พวกเราคิดหาวิธีมากี่วิธีแล้ว มีวิธีไหนบ้างที่ได้ผล?”
“สุดท้ายไม่สามารถฆ่าเจียงชื่อได้ แต่กลับทำให้ตนเองแทบตาย”
“ฉันถือว่ามองออกแล้ว เจียงชื่อคือตัวซวยของเรา!ดังนั้น น้อยๆ หน่อย อย่ารนหาเรื่อง มีชีวิตอยู่ไม่ดีหรือไง? ทำไมต้องหาเรื่องลำบากใส่ตน”
คำพูดนี้พูดได้น่าตกตะลึงมาก แต่ก็มีเหตุผลจริงๆ
ติงจื่อยวี่กัดฟันแน่น: “ดูท่าอาศัยพวกเราคงไม่สามารถจัดการเจียงชื่อได้ ถ้าอย่างนั้นเราหาตัวช่วยดีไหมคะ”
“ตัวช่วย? ใคร? สามีของเธอพี่เขยของฉัน——ถังแหวนโม่ ดูท่าคงไม่รอดรึเปล่า?”
“ไม่ใช่ อีกคนหนึ่ง คนที่สามารถจัดการเจียงชื่อได้แน่นอน!”
ติงจ้งและติงเฟิงเฉิงรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที บนโลกใบนี้มีคนที่เก่งขนาดนี้ด้วยเหรอ?
คือใคร?
ติงจื่อยวี่พูดด้วยความระมัดระวังสองคำ: “พี่ใหญ่!”
ครืด
ติงจ้ง ติงเฟิงเฉิงชักสีหน้าพร้อมกัน คล้ายกับว่าแค่ได้ยินสองคำนี้ก็ตกใจแทบแย่แล้ว
ความเป็นจริง คนคนนี้สุดยอดมาก ไปหาเขา ต้องกำจัดเจียงชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่คนคนนี้ก็น่ากลัวมากเหมือนกัน
ไปหาเขา มีความเป็นไปได้ที่แม้แต่ตนก็ถูกกำจัดไปด้วย
“ไม่ได้” ติงจ้งปฏิเสธทันควัน
“คุณปู่ ไม่มีวิธีอะไรแล้ว ทำได้แค่ไปหาพี่ใหญ่เท่านั้นแล้ว” ติงจื่อยวี่ยืนหยัดอีกครั้ง
“หุบปาก!ถ้าแกยังกล้าพูดอีกคำเดียว ก็ไสหัวออกไปซะ!”
คำพูดนี้เหี้ยมโหดพอแล้ว ติงจื่อยวี่ไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่ในใจของเธอยังคงคิดเรื่องที่จะเชิญ ‘พี่ใหญ่’