เจียงชื่อไม่แสดงท่าทีใดๆ เหมือนไม่มีความคิดเห็นอะไร ได้แต่นั่นเงียบๆ อยู่ตรงนั้น
ต่อมา ทุกคนก็ได้ดื่มเหล้า พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
ผ่านไปประมาณสิบนาที โทรศัพท์ของหยวนหยาเหว่ยก็ดังขึ้น
เขาพูดอย่างอารมณ์ดีว่า “ลูกน้องโทรศัพท์มาหา คงเชิญผู้ชนะการประมูลมาได้แล้ว ผมขอรับสายก่อนนะครับ”
หยวนหยาเหว่ยรับสาย หลังจากพูดคุยอย่างละเอียด สีหน้าก็ดูดีใจมาก
เมื่อวางสายไป
เขาได้เอ่ยพูดด้วยสีหน้ายินดีปรีดา “ประธานฉีครับ สำเร็จแล้วครับ หัวหน้าของฝ่ายที่ชนะการประมูลคนนั้นชื่อว่าติงเฟิงเฉิง เป็นผู้รับผิดชอบของบริษัทติงเหอ และเป็นผู้รับผิดชอบโครงการพื้นที่รกร้างของเมือง ผมเชิญเขามาได้แล้วครับ!”
ฉีเจิ้นดีใจเป็นอย่างมาก “อ้อ? งั้นวันนี้ต้องต้อนรับแขกให้เป็นอย่างดี”
หยวนหยาเหว่ยจงใจมองไปทางเจียงชื่อ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยการยั่วยุ “หมอเทวดาเจียง ในเมื่อคุณก็คิดเรื่องนี้ได้ ทำไมไม่เชิญเถ้าแก่ติงมาหน่อยล่ะ?”
ก้างที่อยู่ในบทสนทนานี้แฝงอยู่ลึกมาก สามารถแทงคนตายได้เลย
ใครก็ฟังออกกันทั้งนั้น ว่ากำลังเย้ยหยันที่เจียงชื่อไม่มีเส้นสาย อยากทำแต่ก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่คนที่สามารถทำการใหญ่ได้
ฉีเจิ้นก็ฟังออกเช่นกัน
แม้ปากเขาไม่พูด แต่สีหน้ากลับแสดงออกว่าไม่พอใจ
ถึงแม้ฉีเจิ้นก็อยากด่าหยวนหยาเหว่ยสักชุด แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา เดี๋ยวติงเฟิงเฉิงก็จะมาแล้ว เวลานี้หากมาต่อว่าคนที่ทำประโยชน์ให้ เขาที่เป็นเจ้าบ้านก็จะหมดความน่าเชื่อถือยำเกรง
ดังนั้น จำเป็นต้องอดทน
เพียงแต่ทำให้เจียงชื่อต้องลำบากใจ
สำหรับเรื่องนี้ ฉีเจิ้นรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก รู้สึกผิดต่อเขา
แต่เจียงชื่อ กลับทานอาหารดื่มเหล้าด้วยท่าทีสงบนิ่งมาก ไม่เก็บคำพูดของหยวนหยาเหว่ยมาใส่ใจเลยสักนิด
ยิ่งไปกว่านั้น เจียงชื่อยังเอ่ยพูดอย่างไม่ยี่หระว่า “ที่จริงผมก็คิดถึงเรื่องนี้ เพียงแต่ไม่ได้คิดจะให้ติงเฟิงเฉิงมาร่วมรับประทานอาหาร แต่อยากให้เขาไปที่บ้านผม เพื่อพูดคุยเป็นการส่วนตัวในบ้าน”
พรืด~~
ทุกคนที่ได้ยินประโยคนี้ก็ขำพรืดออกมา
โดยเฉพาะหยวนหยาเหว่ย ที่หัวเราะจนตัวโยก
“ไม่ไหวแล้ว ขำชะมัดเลย หมอเทวดาเจียง ถึงแม้ผมไม่เคยเห็นว่าทักษะการแพทย์ของคุณเก่งกาจมากแค่ไหน แต่คุณมีทักษะด้านการพูดตลกสูงมากจริงๆ เลยนะเนี่ย”
“ให้ผู้รับผิดชอบโครงการอย่างเขาไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวที่บ้านของคุณ?”
“เหอะเหอะ คุณคิดว่าคุณเป็นใครกันน่ะ? คุณเป็นผู้บริหารระดับสูงของเขตเจียงหนานเหรอ? มีอำนาจบาตรใหญ่เสียจริงนะ!”
เดิมทีนี่เป็นคำพูดเยาะเย้ย
แต่ใครจะไปรู้ว่า เจียงชื่อได้วางตะเกียบลง แล้วมองหยวนหยาเหว่ยด้วยท่าทางเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “ผมก็คือผู้บริหารระดับสูงของเขตเจียงหนาน”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า หมอเทวดาเจียง คุณนี่อารมณ์ขันดีนะ!”
“อารมณ์ขันเหรอ?”
เจียงชื่อส่ายหน้า แล้วทานอาหารต่อ
บางครั้งเขาพูดความจริง แต่กลับไม่มีคนเชื่อ
ไม่มีใครเชื่ออยู่แล้ว ถ้าหากเจียงชื่อเป็นผู้บริหารระดับสูงของเขตเจียงหนานจริงๆ ทำไมถึงได้แต่งตัวเรียบง่ายขนาดนี้? อีกอย่างทำไมถึงไม่มีเส้นสายเลยแม้แต่น้อยล่ะ?
ยิ่งไม่มีทางที่มานั่งทานข้าวกับพวกเขาโดยไม่มีบอดี้การ์ดสักคนเหมือนอย่างตอนนี้
ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ลูกน้องได้มาแจ้งข่าว ติงเฟิงเฉิงมาถึงแล้ว!
ฉีเจิ้นลุกขึ้นยืน “พวกเราทุกคนลงไปต้อนรับด้วยกัน”
หยวนหยาเหว่ยพยักหน้าเห็นด้วย ยังไงซะเขาก็รบกวนคนอื่นให้ช่วยเชิญติงเฟิงเฉิงมา ต้องต้อนรับเป็นอย่างดี เพื่อแสดงถึงความเคารพติงเฟิงเฉิง และแสดงให้เห็นว่าความสามารถของหยวนหยาเหว่ยก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
แต่ทว่า เจียงชื่อกลับเอ่ยพูดอย่างเรียบๆ “ไปต้อนรับติงเฟิงเฉิง? ไม่มีความจำเป็นเลย ให้เขาขึ้นมาด้วยตัวเองก็พอ”
ประโยคนี้ทำให้ทุกคนขมวดคิ้วทันที
รวมถึงฉีเจิ้นด้วย
ฉีเจิ้นคิดว่าอาจเป็นเพราะเมื่อครู่นี้หยวนหยาเหว่ยพูดแรงเกินไป ทำให้เจียงชื่อเสียศักดิ์ศรี ดังนั้นจึงทำให้เจียงชื่อพูดจาทะแม่งๆ ออกมา
นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย
เขากระแอมขึ้นมา แล้วเอ่ยพูด “หมอเทวดาเจียง คุณเป็นแขก ไม่ต้องไปต้อนรับกับพวกเราก็ได้ครับ รออยู่ที่นี่แล้วกัน พวกเราลงไปกันเถอะ”
นี่เป็นเรื่องที่ฉีเจิ้นยอมถอยให้มากที่สุดแล้ว
แต่หยวนหยาเหว่ยพูดด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก “พวกเราไปต้อนรับ ส่วนเจียงชื่อนั่งอยู่ที่นี่คนเดียว? เหอะเหอะ อีกเดี๋ยวถ้าแก่ติงมา แล้วเห็นเจียงชื่อนั่งอยู่ที่นี่ จะว่ายังไง? จะอธิบายยังไง?”
เจียงชื่อเอ่ยพูด “ไม่ต้องอธิบาย เพิ่มเก้าอี้ข้างผมอีกตัวหนึ่ง ให้ติงเฟิงเฉิงนั่งติดกับผมก็พอแล้ว”
คราวนี้ แม้แต่สีหน้าของฉีเจิ้นก็เริ่มถมึงทึงขึ้นมาแล้ว
ติงเฟิงเฉิง ผู้รับผิดชอบโครงการ ผู้ชนะการประมูลโครงการศูนย์การค้า
สำหรับนักธุรกิจอย่างพวกเขาแล้ว นั่นเป็นคนที่ต้องประจบเอาใจมากที่สุด วันนี้จำเป็นต้องให้เขานั่งที่ตำแหน่งประธาน จะให้เขาไปนั่งที่ลูกน้องของเจียงชื่อได้ยังไงกัน?
คำพูดที่พูดด้วยอารมณ์ของเจียงชื่อชักจะมากเกินไปแล้ว
ฉีเจิ้นเอ่ยพูด “หมอเทวดาเจียง ผมรู้ว่าคุณอารมณ์เสีย แต่วันนี้พวกเราจะสามารถตั้งหลักที่เขตเจียงหนานได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด คุณต้องพยายามควบคุมอารมณ์หน่อย ถือว่าช่วยพี่น้องสักครั้งนะ”
นี่เห็นเป็นเจียงชื่อหรอกนะ
ถ้าหากเป็นคนอื่น ฉีเจิ้นไล่เขาไปนานแล้ว
เจียงชื่อฝืนหัวเราะออกมา “ได้ พวกคุณลงไปต้อนรับเถอะ ผมจะรออยู่ที่นี่”
“อืม”
ฉีเจิ้นรีบพาคนอื่นลงไปด้านล่าง เพื่อไปต้อนรับติงเฟิงเฉิง
ระหว่างที่ลงไปด้านล่าง หยวนหยาเหว่ยได้พูดจาไร้สาระอยู่ข้างฉีเจิ้น “ประธานฉี เจียงชื่อคนนั้นจองหองพองขนมากเกินไปแล้ว ถึงขนาดไม่เห็นเถ้าแก่ติงอยู่ในสายตา ผมว่าให้เขาไปทานข้าวที่ห้องอื่นก่อนดีกว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำพวกเราเสียเรื่อง!”
ฉีเจิ้นกังวลใจขึ้นมาทันที
ไม่ได้ ทำอย่างนั้นไม่ได้