เช้าตรู่ในวันนี้ เจียงชื่อมาถึงโรงแรมที่หรูหราที่สุดในเขตเจียงหนานเพียงลำพัง และได้จองห้องอาหารวีไอพีขนาดใหญ่ที่พอจะรองรับได้ยี่สิบคน
ในเวลาเดียวกัน เขาก็สั่งให้พ่อครัวเริ่มเตรียมอาหาร
วันนี้เขาตัดสินใจทำบางอย่าง
จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหามู่หยางอี
ฮัลโหลครับลูกพี่ มีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอครับ?
เจียงชื่อเงียบไปสักพักแล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ ช่วยเรียกหัวหน้าแผนกทั้งหมดมาหาผมที เดี๋ยวผมจะส่งตำแหน่งให้คุณ
มู่หยางอีถึงกับตกใจ ลูกพี่ครับ ลูกพี่คิดจะทำอะไรครับ?
เจียงชื่อถอนหายใจยาวๆ
มาเขตเจียงหนานนานขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยแสดงตัวตนต่อสาธารณะมาก่อนเลย ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องแสดงตัวตนแล้วมอบหมายงานบางอย่างแล้วล่ะ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่หยางอีก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เขาอยู่กับเจียงชื่อมานานหลายปีแล้ว ซึ่งเข้าใจนิสัยใจคอของเจียงชื่อเป็นอย่างดี
ลูกพี่ครับ หรือว่าลูกพี่……จะไม่ทำต่อแล้ว?
เจียงชื่อถึงกับหัวเราะออกมา คุณเข้าใจผมดีที่สุด
ไม่นะครับลูกพี่ ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเป็นที่จับตามองของผู้คนตั้งมากมาย ลูกพี่จะวางมือง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไงครับ? เบื้องบนต้องไม่ยอมแน่?
เจียงชื่อตอบ ในตอนแรก ผมเคยบอกแล้วว่าผมจะรับช่วงต่อแค่ชั่วคราวเท่านั้น หลังจากทำให้สถานการณ์ในเขตเจียงหนานสงบลง ผมจะทำการเปลี่ยนมือ และตอนนี้สถานการณ์ของเขตเจียงหนานก็แทบจะดีหมดแล้ว ผมก็อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ เรียบง่าย ๆ บ้าง แค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ?
มู่หยางอีตอบ ผมไม่สนใจอะไรมากมายหรอกครับ แต่ไม่ว่าลูกพี่ของผมอยู่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั่นครับ!
เจียงชื่อยิ้มเบาๆ พอแล้ว รีบไปนัดคนมาให้ผม วันนี้ผมจะแบ่งงานให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเกษียณอายุของผม
รับทราบ ผมจะจัดการทันทีครับ
ขณะที่เขากำลังจะวางสาย เจียงชื่อก็เสริมอีกประโยคหนึ่ง ครั้งนี้ต้องแจ้งให้ชัดเจนว่านี่คือคำสั่งจากเจียงชื่อ ผู้บริหารระดับสูงของเขตเจียงหนาน ให้พวกเขาทุกคนมาร่วมงานเลี้ยงด้วย!
รับทราบครับ ผมจะทำตามที่ท่านมอบหมายครับ
หลังจากสั่งงานเสร็จ เจียงชื่อก็กดวางสาย
จากนั้นเขาเอนหลังพิงไปที่เก้าอี้และคิดถึงชีวิตหลังกลับมาที่เขตเจียงหนาน เพราะเขาได้ทำสิ่งต่างๆ ไว้มากมายแล้ว และตอนนี้ก็ควรแก่เวลาที่เขาจะสืบทอดตำแหน่งให้กับผู้นำคนใหม่แล้ว
หลังจากจัดการธุระสุดท้ายนี้เสร็จ เขาก็จะใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาที่บ้านอย่างสงบสุข
ช่วงห้าปีในอาชีพทหาร เขาติดค้างติงเมิ่งเหยนไว้มากมาย และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปแล้ว
ในขณะที่เขาครุ่นคิดอยู่ ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกผลักออก
เจียงชื่อตกใจมาก ทำไมถึงมาเร็วขนาดนี้?
เป็นไปไม่ได้ เพราะเขาเพิ่งกดวางสายไปหมาดๆ ต่อให้มู่หยางอีจะทำงานมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเรียกคนมาได้เร็วขนาดนี้
เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นชายร่างกำยำเดินตรงเข้ามา
ซึ่งเขาคนนี้ไม่ใช่หัวหน้าแผนกของเขา และไม่ใช่พนักงานที่นี่ด้วย
เจียงชื่อขมวดคิ้ว คุณหาใคร?
ชายร่างกำยำเพ่งมองไปที่เจียงชื่อแล้วถามอย่างเย็นชาว่า แกน่ะเหรอ เจียงชื่อ?
น้ำเสียงนี้ ท่าทางนี้
คือศัตรูแน่นอน!
เจียงชื่อก็ตอบอย่างเย็นชา วันนี้ผมไม่ได้จัดงานเลี้ยงทุกคน ส่วนคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ไสหัวออกไป
ชายกำยำถึงกับหัวเราะออกมาดังๆ
ไอ้หนู ปากดีจริงนะ
งานเลี้ยงของแกในวันนี้ถูกยกเลิกแล้ว มากับข้าซะโดยดี
ในขณะที่พูด เขาก็ยื่นมือออกมาเพื่อจะคว้าแขนของเจียงชื่อ ซึ่งดูจะท่าทางแล้ว เขาเคยชินกับการรังแกคนอื่นมาก เขาไม่มองคนอื่นเป็นมนุษย์เลย และพร้อมจะลากคอเจียงชื่อไปทันที
แต่เห็นได้ชัดว่าเขาเมินเฉยต่อพลังการต่อสู้ของเจียงชื่อไปแล้ว
แม้เจียงชื่อจะไม่ได้ต่อสู้นานแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะสู้ไม่เป็น
ก่อนที่มือของชายร่างกำยำจะมาถึง เจียงชื่อก็ยกเท้าขึ้นสูงๆ ในขณะที่นั่งอยู่ และเตะเข้าไปใต้คางของชายร่างกำยำทันที