บทที่187
แต่เวลานี้ หลี่เฉียงตงส่งเสียงพูดออกมาว่า “ทานข้าวก่อนเถอะ! ทานเสร็จพวกเราค่อยคุยกัน”
ทานข้าวเสร็จ ค่อยบอกหลิวจื่อหยุนไปตามตรง ดีกว่ายังไม่ได้กินข้าวก็เริ่มโมโหโกรธ
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า “เสว่เอ๋อ ทานข้าว”
“อื้ม”หลี่เสว่พยักหน้าและกินข้าวอย่างเชื่อฟัง
หลิวจื่อหยุนรู้สึกแปลกๆ หลี่เสว่เชื่อฟังขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ไม่ หลี่เสว่เชื่อฟังมาตลอดและก็รู้ความมากเหมือนกัน แต่เธอรู้สึกหลี่เสว่ในวันนี้ เชื่อฟังเหมือนเด็ก แต่เธอไม่ได้คิดมากแถมยังกินข้าวเงียบๆ
ในที่สุด ก็ทานข้าวเสร็จ
หลี่เฉียงตงมองไปยังไป๋ยี่เฟย บอกใบ้ให้เขาพูดเอง
ไป๋ยี่เฟยสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “แม่ เสว่เอ๋อ…..”
หลิวจื่อหยุนเห็นบรรยากาศจริงจังขนาดนี้พูดถึงหลี่เสว่อีกหน้าก็เคร่งขรึมทันที “เสว่เอ๋อเป็นอะไร?”
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเย็นชาว่า “เสว่เอ๋อความจำเสื่อม ตอนนี้มีเพียงแค่สติปัญญาของเด็กห้าหกขวบ เธอ…..”
“ห้ะ?”หลิวจื่อหยุนเพิ่มระดับเสียงขึ้นมาว่า “ลูกพูดอะไร?”
ไป๋ยี่เฟยกัดฟันเอาเรื่องราวมาพูดอธิบายง่ายๆแต่ไม่ได้พูดเรื่องโดนยาพิษ
หลิวจื่อหยุนได้ฟังจบก็สูดลมหายใจเข้าจนเกือบจะเป็นลม โชคดีที่หลี่เฉียงตงมาจับไว้ทันถึงได้ตั้งหลักได้
หลิวจื่อหยุนพรวดพราดลุกขึ้นทันทีฝ่ามือข้างหนึ่งยกขึ้นมาฟาด
ไป๋ยี่เฟยหลับตา เขาไม่ได้หลบ
แต่ทว่า ไม่ได้รู้สึกเจ็บตามที่คาดการณ์ไว้เลย
ไป๋ยี่เฟยลืมตาขึ้นมาพบว่าหลี่เฉียงตงจับข้อมือของหลิวจื่อหยุนเอาไว้แล้วพูดขึ้นมาว่า “ที่รัก ใจเย็นหน่อย”
“ใจเย็น!”หลิวจื่อหยุนด่าว่า “ใจเย็นบ้าไร!”
“คุณดูเขาทำให้ลูกสาวเรากลายเป็นแบบนี้หรอ?”
“เสว่เอ๋ออยู่กับเขา ก็ไม่เคยเจอเรื่องดีๆ ตอนนี้ยิ่งกลายเป็นเด็กอีก!”
“แกเจ้าสารเลวคนนี้ เสว่เอ๋อก่อกรรมทำเข็ญอะไรไว้กันแน่ถึงได้ทุกข์ยากแบบนี้!”
“ไม่ได้! พวกลูกต้องหย่ากัน!”
“……”
หลิวจื่อหยุนกำลังด่าอย่างโมโห หลี่เสว่ก็ร้องไห้ขึ้นมา
ทันใดนั้น ในห้องรับแขกเหลือเพียงแค่เสียงร้องไห้ของหลี่เสว่
ไป๋ยี่เฟยรีบเข้ามาโอบกอดหลี่เสว่ไว้ “เสว่เอ๋อไม่ร้องนะ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร…..”
“คุณอา…..อย่าตีคุณอา…..”หลี่เสว่ร้องไห้
หลิวจื่อหยุนเห็นหลี่เสว่เป็นแบบนี้ ในใจรู้สึกไม่สบายใจตาค่อยๆแดงขึ้น “นี่ก่อกรรมทำเข็ญอะไรไว้กันแน่…..”
หลี่เฉียงตงถอนหายใจอย่างจนปัญญา ตบหลังปลอบใจหลิวจื่อหยุนโดยไม่ได้พูดอะไร
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดหลี่เสว่ที่ถูกไป๋ยี่เฟยปลอบก็ดีขึ้นแล้ว
หลี่เฉียงตงพูด “พวกลูกกลับไปก่อนเถอะ!”
“ได้ครับ”ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า เขามองไปที่หลิวจื่อหยุนแล้วดึงหลี่เสว่กลับไป
หลังจากที่รอทั้งสองคนกลับไป หลี่เฉียงตงถึงปริปากพูดขึ้นมาว่า “ตอนนี้เสว่เอ๋อสามารถมีชีวิตอยู่ได้ เพราะไป๋ยี่เฟย….”
หลิวจื่อหยุนเงยหน้า “หมายความว่าไง?”
“จริงๆแล้วเสว่เอ๋อไม่ใช่เป็นน้ำตาลในเลือดต่ำ ลูกโดนยาพิษ”หลี่เฉียงตงพูดอย่างเย็นชา
“ไป๋ยี่เฟยก็โดนยาพิษเหมือนกัน แต่ยาแก้มีเพียงแค่หนึ่งเม็ดเขาไม่ลังเลให้เสว่เอ๋อเลยสักนิด ดังนั้นเสว่เอ๋อถึงได้กลายเป็นแบบนี้”
“ตอนที่เสว่เอ๋อถูกลักพาตัวไป เขาจ่ายเงินพันล้านให้คนในเมืองเทียนเป่ยตามหาหลี่เสว่”
หลิวจื่อหยุนตกตะลึงจนตาค้าง
เพื่อหลี่เสว่ ลูกเขยที่แม้แต่ชีวิตตัวเองก็ไม่สนใจ
หลิวจื่อหยุนในใจรู้สึกสะเทือนใจมากผู้ชายคนหนึ่งเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง แม้แต่ชีวิตตัวเองก็ไม่สนใจความรักแบบนี้ คงจะมีไม่กี่คนทำได้?
หลิวจื่อหยุนไม่รู้ว่าควรจะคิดเกี่ยวกับไป๋ยี่เฟยยังไง เขาไม่มีประโยชน์หรอ?
ไม่ใช่ เขาเป็นประธานโหวจวี๋กรุ๊ป จะไม่มีประโยชน์ได้ไง?
เขาไม่ดีกับเสว่เอ๋อหรอ?
นี่ก็ไม่ใช่เหมือนกัน เขาใช้ชีวิตเพื่อเสว่เอ๋อ
หลิวจื่อหยุนมองไปยังหลี่เฉียงตงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร…..
……
ไป๋ยี่เฟยนอนหงายอยู่บนเตียง คิดว่าพรุ่งนี้ให้หลิวเสี่ยวอิงมาดูหลี่เสว่ว่าสถานการณ์ตอนนี้สามารถรักษาได้ไหมค่อยดูพิษของตัวเองว่าสามารถแก้ได้ไหม แต่ว่าส่วนมากจะแก้ไม่ได้ เขาก็ไม่ได้หวังมาก
ผ่านไปอีกหนึ่งวันคืองานประมูล ครั้งนี้โหวจวี๋กรุ๊ปหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาก็จะไม่ให้หลิ่วอู๋ฉงทำแผนชั่วสำเร็จ
พอคิดถึงหลิ่วอู๋ฉงไป๋ยี่เฟยก็ขมวดคิ้ว คนคนนี้เคยชินกับการใช้ยาควบคุมคนอื่น ข้อนี้ไป๋ยี่เฟยรู้สึกไม่ชอบมากแต่ก็ไม่มีวิธีอีก ทุกทุกคนข้างกายที่เขาจำใจต้องระวัง ใครจะรู้ว่าวันไหนจะถูกหลิ่วอู๋ฉงควบคุมได้รึเปล่า?
เพียงแค่….
“เสว่เอ๋อ?”
ไป๋ยี่เฟยคิดเพลิน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองถูกร่างกายที่อ่อนโยนของหลี่เสว่กอดเอาไว้ ความรู้สึกนึกคิดก็ถูกดึงกลับมาทันที
รู้สึกถึงกลิ่นบนตัวหลี่เสว่ลอยมา จุกตรงคอร่างกายนิ่งไม่ไหวติง
หลี่เสว่กอดไป๋ยี่เฟย ก็เหมือนกับเด็กที่กอดพ่อแม่ของตัวเอง นอนหลับสบาย
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตอบรับหลี่เสว่ เขาฝืนยิ้มอย่างจนปัญญา
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน หลี่เสว่กล้าเริ่มขนาดนี้ ไป๋ยี่เฟยกล้ารับประกัน เขาเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งแน่นอน
แต่ว่าตอนนี้หลี่เสว่เป็นเด็ก เขาจะทำเรื่องแบบนั้นกับเด็กได้ยังไงกัน? รู้สึกชั่วร้ายเกินไปแล้ว!
และเขาก็ไม่มีวิธีเหมือนกัน เขาตื่นเต้นก็เป็นลมแล้วยังทำได้กะผีสิ!
……
เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อป้องกันหลี่เสว่ถูกลักพาตัวไปอีกครั้ง ดังนั้นก่อนหน้าที่ไป๋ยี่เฟยจะไปก็พาหลี่เสว่มาบ้านหลิวจื่อหยุนและก็บอกโจวฉวี่เอ๋อเหมือนกันว่าถ้าหากต้องการมาหาหลี่เสว่ให้ไปหาหลิวจื่อหยุน
หลังจากที่จัดการเสร็จไป๋ยี่เฟยถึงจะไปบริษัท
พอถึงบริษัทไป๋ยี่เฟยถามหลงหลิงหลิงว่า “หลิวเสี่ยวอิงตอนนี้ยังไม่มีงาน?คุณถามเธอ ต้องการพิจารณาอีกหรือเปล่า? ก่อนหน้านี้ผมเคยพูดเรื่องหมอส่วนตัวกับเธอ”
“เอาแบบนี้ ตอนนี้คุณก็ให้เธอมาสิ! ถามต่อหน้า ถือโอกาสตรวจดูพิษในร่างกายผม ใช่แล้ว คุณถือโอกาสเรียกคุณหมอหนิวมาด้วยหน่อย”
“ได้ค่ะ ประธาน”หลงหลิงหลิงหันหลังกลับแล้วเดินจากไป
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หนิววั่งและหลิวเสี่ยวอิงมาถึงแล้ว
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้พูดเรื่องหมอส่วนตัวแต่พูดกับทั้งสองคนว่า “พวกคุณตรวจร่างกายของผมตรวจดูว่าสามารถค้นคว้าวิจัยยาแก้ออกมาได้ไหม?”
หนิววั่งและหลิวเสี่ยวอิงสบตากันหลิวเสี่ยวอิงก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวจับชีพจรให้ไป๋ยี่เฟย
ผ่านไปสักพักหลิวเสี่ยวอิงพูดขึ้นมาว่า “พิษนี้ของคุณต่อต้านมาก มันละลายในเลือด ฉันทำได้เพียงแค่ควบคุมมัน ไม่สามารถกำจัดมันได้”
หนิววั่งส่งเสียงประหลาดใจ “พิษนี้ร้ายกาจมากจริงๆ”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็ไม่ได้ผิดหวังมาก
เวลานี้หลิวเสี่ยวอิงพูดอีกว่า “แต่ว่า อารองฉันอาจจะรักษาได้”
“จริงหรอ?”ไป๋ยี่เฟยตื่นเต้นเล็กน้อย “ยังมีทางรอด?”
หลิวเสี่ยวอิงพยักหน้า “แพทย์แผนจีนของฉันก็คืออารองฉันสอนมา เธอเก่งกว่าฉันมาก เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ ไปหนานเจียง แล้ว ต้องรอเธอกลับมาถึงจะสามารถรักษาได้”
“ในช่วงเวลานี้ ฉันจะพยายามควบคุมไว้ให้คุณอย่างเต็มที่ แน่นอน ตัวคุณเองก็ต้องระวังมากๆ ห้ามมีอารมณ์ขึ้นๆลงๆมากเกินไป”
“ฉันจะจัดยาให้คุณหนึ่งชุด ค่อยฝังเข็มให้คุณ น่าจะดีขึ้นสักหน่อย”