บทที่267
“นี่…นี่แกคิดจะทำอะไร?” ซุนฮุยพูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ผมต่างหากล่ะที่ต้องเป็นฝ่ายถามท่านประธานซุน ว่าท่านประธานซุนต้องการจะทำอะไรกันแน่?”
ซุนฮุยสีหน้าเริ่มซีด “ฉันไม่เข้าใจว่าแกกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่? ที่ฉันมาที่นี่ในวันนี้ก็แค่จะมาซื้อกิจการของโหวจวี๋เท่านั้น”
ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอย่างไม่พอใจ “ท่านประธานซุนครับ คนอย่างคุณเนี่ยนะที่จะมาซื้อกิจการของโหวจวี๋?”
“แล้วมันไม่ได้รึไง? แกคงยังไม่รู้สินะ? ว่าตอนนี้โหวจวี๋ขาดทุนวันหนึ่งเป็นร้อยล้าน ไม่นานล้มละลายแล้ว!” จู่ๆ ซุนฮุยก็ดูมั่นใจขึ้นมา “การโหวจวี๋จะถูกเทคโอเวอร์คือทางรอดเพียงทางเดียวเท่านั้น”
ไป๋ยี่เฟยเมินเฉยกับสิ่งที่เขาพูด “ท่านประธานซุนไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้หรอกครับ ผมว่าสิ่งที่ท่านประธานซุนควรกังวลน่าจะเป็นเรื่องของตัวคุณเองมากกว่า”
“ฉันเหรอ? ฉันมีเรื่องอะไรต้องให้กังวล?”
ซุนฮุยเหลือบไปมองชายสองคนที่นอนอยู่ตรงพื้น ตอนนี้พวกเขายังไม่ได้สติกลับมา เมื่อกี้เขาเผลอร้อนรนไปแปบหนึ่งแต่ตอนนี้เขาตั้งสติได้แล้ว
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่ไป๋หู่ ไป๋หู่จึงเดินไปข้างหน้าแล้วเตะชายสองคนนั้นคนละที
“โอ้ย!”
ทั้งสองได้สติมาพร้อมกับเสียงโอดครวญ
พอสองคนนั้นตื่นขึ้นมา ไป๋ยี่เฟยก็ได้ถามขึ้นว่า “มองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้าพวกคุณ แล้วบอกมาว่ารู้จักเขาไหม?”
พอสองคนนั่งเงยหน้าขึ้นมา ก็มองเห็นซุนฮุยในทันที
ก่อนหน้านี้ซุนฮุยเคยเตือนพวกเขาสองคนแล้วว่าห้ามเปิดเผยตัวตนเด็ดขาดนั้นทั้งคู่จึงได้ส่ายหน้าในทันที “ไม่รู้จักครับไม่รู้จัก”
ซุนฮุยรู้สึกสบายใจไประดับหนึ่ง “ไป๋ยี่เฟย แกถามแบบนี้ต้องการอะไร? อีกอย่างคนพวกนี้เป็นใครกัน ทำไมต้องถามพวกเขาด้วยว่ารู้จักฉันรึเปล่า?”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คำพูดที่ซุนฮุยพูดออกมามันเป็นการขุดหลุมให้ตัวเองอยู่
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วเบาๆ และพูดกับสองคนนั้นต่อว่า “ได้ยินรึยัง? เขากำลังผลักไสพวกคุณแล้วเอาตัวรอดคนเดียว”
สองคนนั้นชะงักไป เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขายังไม่รู้ตัว
ในตอนนี้ ฉินหัวก็ได้เขามาพร้อมกับตำรวจ
ทุกคนต่างก็รู้สึกแปลกใจ ซุนฮุยเพิ่งโทรแจ้งตำรวจเองไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมตำรวจถึงมาเร็วขนาดนี้?”
พอซุนฮุยเห็นว่าตำรวจมาถึงแล้ว หางตาของเขาก็กระตุก เขาไม่ได้สนใจเลยว่าทำไมตำรวจถึงมาเร็วขนาดนี้ เขาแค่อยากจะจัดการไป๋ยี่เฟยให้เร็วที่สุดเท่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไป๋ยี่เฟยสร้างความเดือดร้อนให้กับเขา
“ตำรวจมาแล้ว เร็วครับ คุณตำรวจ รีบจับตัวไป๋ยี่เฟยไปเลยครับ!” ซุนฮุยตะโกนไปทางฉินหัว ฉินหัวหันไปมองไป๋ยี่เฟยจากนั้นก็หันไปทางซุนฮุย แต่เขาก็ไม่มีท่าทีรีบร้อนที่จะเข้าจับกุมแต่อย่างใด
ซุนฮุยเริ่มร้อนรนแล้ว “นี่คุณตำรวจ จะนิ่งอยู่ทำไมครับ? ไป๋ยี่เฟยมันฆ่าคนตาย เป็นนักโทษหลบหนี รีบจับมันสิครับ!”
ฉินหัวตอบกลับมาอย่างเรียบๆ “ไม่ต้องรีบร้อนครับ ก่อนอื่น ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้?”
ซุนฮุยอึ้งและเงียบปากไป
ไป๋ยี่เฟยพูดขึ้น “พวกเขาคือนักฆ่าที่จะมาฆ่าผมครับ”
“อะไรนะ?”
บรรดาผู้บริหารอึ้งไปตามๆ กัน
นักฆ่าเหรอ?
พวกเขาคือนักฆ่าเหรอ?
แต่สภาพที่ดูไม่ได้แบบนี้ จะเป็นนักฆ่าจริงๆ เหรอ?
ฉินหัวมองไปยังคนทั้งสอง แล้วก็พูดกับไป๋ยี่เฟยว่า “ผมต้องการหลักฐานครับ”
พอนักฆ่าได้ยินคำพูดนี้ พวกเขาก็เริ่มตั้งสติได้แล้ว จริงด้วย ถ้าไม่มีหลักฐาน แล้วพูดลอยๆ ใครจะไปเชื่อล่ะว่าพวกเขาเป็นนักฆ่าจริงๆ?
“คุณตำรวจ พวกเราไม่ใช่นักฆ่านะครับ”
“ถูกต้อง พวกเราไม่ใช่นักฆ่า เราเป็นแค่ประชาชนทั่วไปเท่านั้นครับ”
เมื่อซุนฮุยได้ยินอย่างนั้น เขาก็เริ่มตั้งสติได้อีกครั้ง และพูดขึ้นว่า “สองคนนี้เป็นใครก็ไม่รู้ พวกเขาถูกบอดี้การ์ดของไป๋ยี่เฟยพาเข้ามา ไม่แน่อาจจะเป็นคนที่มันหามาเล่นละครตบตาก็ได้นะครับ”
“เล่นละครจนต้องเสียมือเนี่ยนะ? คุณช่วยเล่นให้ดูหน่อยได้ไหมครับ?” เสียงของไป๋ยี่เฟยดังขึ้นเรื่อยๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเขากำลังกักเก็บความโกรธเอาไว้
ไม่ใช่ว่าซุนฮุยจะไม่สังเกตเห็นว่ามือของหนึ่งในนั้นได้ขาดไปแล้ว เพียงแต่เขามองไปแวบหนึ่งแล้วไม่กล้ามองอีก เพราะมันน่ากลัวเกินไป
ฉินหัวเองก็สังเกตเห็นเหมือนกัน ไม่ต้องถามเขาก็รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่ว่า อะไรที่ควรถามก็ยังต้องถามอยู่ดี “แล้วนี่ล่ะจะอธิบายว่ายังไงครับ?”
นักฆ่าทั้งสองอึ้งไปเลย
ร่างกายของไป๋ยี่เฟยแทบจะทนไม่ไหวแล้ว และเขาก็ได้พูดขึ้นว่า “หัวหน้าฉินครับ พวกเขาเป็นนักฆ่าที่ประธานซุนฮุยจ้างมาครับ”
“ไป๋ยี่เฟย!” ซุนฮุยตะโกนออกมาเสียงดัง “แกอย่าพูดมั่วๆ นะ!”
ไป๋ยี่เฟยมอง ซุนฮุยด้วยแววตาที่ไม่พอใจ ทำให้ซุนฮุยต้องหุบปากไปโดยอัตโนมัติ “สองคนนี้เป็นนักฆ่าที่คุณจ้างมาเองแท้ๆ แล้วตอนนี้คุณจะมาหาว่าผมพูดมั่วๆ ได้ยังไง?”
พูดจบไป๋ยี่เฟยก็มองไปทางนักฆ่าสองคนนั้นอีกครั้ง “พวกคุณยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อเขา แต่ดูเขาสิ เขาไม่เหลียวแลพวกคุณเลยด้วยซ้ำ พวกคุณรับได้เหรอ? พวกคุณรู้สึกว่ามันคุ้มค่าเหรอ?”
“ไป๋ยี่เฟย!” ซุนฮุยร้อนรนแล้ว “ฉันไม่เคยรู้จักนักฆ่าสองคนนี้มาก่อนเลย แกอย่ามาใส่ร้ายฉันนะ!”
ไป๋ยี่เฟยพูดกับสองคนนั้นด้วยเสียงที่เรียบเฉย “เห็นรึยัง?”
พอนักฆ่าสองคนนั้นเห็นซุนฮุยที่ต้องการจะตัดสัมพันธ์กับพวกเขาจริงๆ ในใจก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา ถึงจะเคยสัญญาแล้วก็เถอะว่าจะไม่ปริปากพูด แต่ยังไงเขาก็เป็นนายจ้างของตัวเอง กลับไม่ช่วยพวกเขาพูดอะไรเลย ขอแค่คำพูดดีๆ สักคำก็ยังดี!
คนที่เสียมือไปยิ่งรู้สึกหนักเข้าไปอีก เพราะเขาต้องเสียมือไปอย่างโหดร้ายเลยนะ!
“ท่านประธานซุน ทำไมคุณถึงไม่สนใจเราเลยครับ?”
พอนักฆ่าอีกคนเห็นอย่างนั้น เขาก็พูดขึ้นว่า “ท่านประธานซุน ช่วยพวกเราด้วย ช่วยพวกเราด้วยครับ!”
ซุนฮุยที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที “อะไรของพวกแก ฉันไม่รู้จักพวกแก! พวกแกอย่ามาพูดจามั่วๆ นะ!”
“ประธานซุน!” นักฆ่าทั้งสองได้ประจักษ์ในความใจดำของ ซุนฮุยอีกครั้ง
“ประธานซุน ทั้งๆ ที่คุณเป็นคนจ้างให้เราไปฆ่าประธานบริษัทของโหวจวี๋แท้ๆ! แล้วทำไมตอนนี้คุณถึงบอกว่าไม่รู้จักเราล่ะครับ!”
ฉินหัวในตอนนี้ก็ได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมาก “เรื่องทุกอย่างได้กระจ่างแล้ว ซุนฮุย คุณมีส่วนเกี่ยวข้องในการจ้างวานฆ่า ผมของเชิญตัวคุณไปที่โรงพักด้วยครับ!”
ซุนฮุยรีบส่ายหัวอย่างแรง “ไม่ ผมไม่ได้ทำ! ผมไม่ได้ทำ! คุณตำรวจ ไป๋ยี่เฟยมันใส่ร้ายผม! ผมไม่ได้ทำนะครับ!”
“ผมไม่รู้จักพวกเขาด้วยซ้ำ! ไป๋ยี่เฟยมันต้องวางแผนเพื่อเล่นงานผมแน่ๆ! คุณตำรวจต้องจับมันสิครับ มันเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตายนะครับ!”
ฉินหัวขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “ต้องขออภัยด้วยนะครับ ไป๋ยี่เฟยเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยครับ”
“อะไรนะครับ?”
ซุนฮุยอึ้งไปเลย
บรรดาผู้บริหารต่างพากันทำหน้าสงสัย
ฉินหัวเริ่มอธิบาย “หลังจากที่มีการตรวจสอบ ซุนเหว่ยเขาเข้าไปหลับอยู่ในห้องซาวน่าแล้วขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิตไปเองครับ ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าไป๋ยี่เฟยจะเป็นคนสุดท้ายที่เจอซุนเหว่ยก็จริง แต่ตอนที่เขาไปซุนเหว่ยก็ยังมีชีวิตอยู่ครับ”
“หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเขาไปในห้องนั้นอีก เป็นระยะเวลากว่าหกชั่วโมงครับ”
ซุนฮุยได้แต่รับฟังคำอธิบายของฉินหัวด้วยความอึ้ง จากนั้นก็รีบสวนขึ้นว่า “แล้วเรื่องที่มันแหกคุก? เรื่องการทำร้ายร่างกายที่โรงพยาบาลและเรื่องที่มันไปพังร้านเขาอีกล่ะครับ!”
ฉินหัวจ้องมองไปที่ซุนฮุยที่กำลังทำตัวโง่ๆ
“เมื่อไม่ได้ฆ่าใครก็ย่อมไม่มีความผิด เขาได้เดินออกจากโรงพักอย่างโจ่งแจ้งเลยครับ แล้วอะไรคือแหกคุกครับ? ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกายกับร้านค้า พวกเขาได้ตกลงกันเป็นการส่วนตัวไปแล้ว ทางตำรวจก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งครับ”