บทที่ 387
ณ ห้องพิเศษบนชั้นสองที่ไนต์คลับซิงคง
“ป้าง!”
ไป๋ยี่เฟยถูกหลี่ป้าเตะไปโดนกำแพงที่อยู่ไม่ไกลจากที่นั้น จากนั้นก็ร่วงลงสู่พื้น
การเตะของหลี่ป้ามีอานุภาพไม่เบาเลยทีเดียว ทำให้หน้าอกของเขาได้รับความบาดเจ็บอย่างรุนแรง แผลที่หลังของเขาก็เปิดออกเช่นกัน ร่างกายส่วนบนเจ็บจนชา และเหลือเพียงร่างกายส่วนล่างเท่านั้นที่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
“แกฉลาดมากเหมือนกันนะ การวางแผนก็รอบคอบมาก แต่สิ่งที่น่าเสียดาย คือแกประเมินตัวเองสูงเกินไป” หลี่ป้ายืนอยู่ที่เดิม และจ้องไปที่ไป๋ยี่เฟย
มุมปากของไป๋ยี่เฟยมีเลือดไหลออกมา แต่เขากลับเช็ดมันออกอย่างไม่สนใจอะไร และค่อยค่อยลุกขึ้นยืน พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา และไม่พูดอะไรสักคำ
ถึงเห็นดังนั้นหลี่ป้าก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเขายังไม่ได้รีบฆ่าไป๋ยี่เฟย แม้ในตอนนี้ที่เขายังอยู่ที่นี่ แต่ไป๋ยี่เฟยก็เหมือนคนที่ตายทั้งเป็นแล้ว ถ้างั้นก็มาเล่นสนุกกันดีกว่า
อีกฝั่งหนึ่ง ฉุงโยวเวยกำลังนั่งหัวเราะอยู่บนโซฟา “ไป๋ยี่เฟยเอ๊ย ไม่ใช่แกต้องการฆ่าฉันหรอกเหรอ? มาสิ? ทำไมยังไม่เข้ามาล่ะ?”
“จุ๊จุ๊ คิดว่าจะแก้แค้น แต่ผลลัพธ์คือแกน่ะเอาชีวิตมาทิ้งเสียเปล่า ที่ฉันสงสัยคือ แกคิดยังไงกัน? เกิดอารมณ์ฮึกเหิมเหรอ? แล้วเป็นไงล่ะ แกน่ะยังเด็กเกินไป ”
หลี่ป้าก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เพราะยังอยากสู้กับไป๋ยี่เฟยต่อ
สายตาของไป๋ยี่เฟยหวาดกลัว และทันใดนั้นก็พุ่งตัวออกไป
หลี่ป้าอยากใช้มือต้านทาน แต่น่าเสียดาย ที่ไป๋ยี่เฟยพุ่งตัวออกไปอย่างพรวดพราดและไร้แบบแผน โดยที่เขาไม่ได้เคลื่อนไหวใดใดเลย เขาใช้ร่างกายของตัวเองกระแทกไป และในที่สุดขาทั้งสองข้างก็ถูกขนาบไว้ และถูกห้อยไว้บนตัวหลี่ป้าอย่างแน่นหนา
“ปล่อยฉันลง!”
หลี่ป้าเพิ่งถูกไป๋ยี่เฟยชนจนอึ้งไป และสุดท้ายก็ถูกไป๋ยี่เฟยห้อยไว้บนตัว เขารู้สึกหดหู่ และโกรธมากเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาก็พยายามโค่นไป๋ยี่เฟยลงพื้น
ไป๋ยี่เฟยขนาบหลี่ป้าไว้แน่นจากด้านหลัง มือข้างหนึ่งจับผมที่สะเพร่าเลอะเทอะของหลี่ป้าไว้และมืออีกข้างก็ลูบเข้าไปในกระเป๋าของตัวเอง
ฉุงโยวเวยที่กำลังมองมาจากอีกฝั่งหนึ่ง รู้สึกตลก ไป๋ยี่เฟยต่อสู้เหมือนกับที่นักเรียนประถมเขาต่อสู้กันเลย เพราะเขาต่อสู้แบบพรวดพราดและทำไปอย่างไร้แบบแผน โอ้!ช่างเหมือนเด็กผู้หญิง ที่ดึงผมไปไปมามาอยู่อย่างนั้น
แต่ในสายตาของเขานอกจากเป็นแค่ที่น่าขบขันแล้วก็ไม่มีอะไรอีกอย่างไรก็ตามหลี่ป้าก็ยังแข็งแกร่งอยู่ดี
เมื่อฉุงโยวเวยเห็นไป๋ยี่เฟยกำลังหยิบของอะไรบางอย่างในกระเป๋า เขาก็ตกใจไปครู่หนึ่ง “ท่านลุงหลี่ ระวังข้างหลังด้วย!”
เมื่อหลี่ป้าได้ยินเสียงดังนั้น เขาก็กระแทกหลังของเขาเข้ากับกําแพงอย่างไม่สนใจไยดีอะไร
ไป๋ยี่เฟยถูกกระแทกจนร้องครวญคราง และเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากของเขามากขึ้น แต่การเคลื่อนไหวของเขายังคงดำเนินต่อไป
หลี่ป้าก็รู้สึกเช่นกัน เพราะไป๋ยี่เฟยใช้เพียงมือข้างเดียวจับตัวเขาไว้ ดังนั้นมืออีกข้างของเขาก็ต้องหยิบจับของบางอย่างอยู่แน่นอน ไม่ต้องคาดเดาอะไรเลย ถ้าไม่ใช่มีดก็ต้องเป็นปืนอย่างแน่นอน
แน่นอนว่า ความน่าจะเป็นที่ไป๋ยี่เฟยจะมีปืนนั้นไม่มาก ดังนั้น สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือมีด
หลี่ป้าใช้หลังของเขากระแทกกำแพงอย่างดุเดือดอีกครั้ง และไป๋ยี่เฟยก็ส่งเสียงร้องครวญครางอีกครั้งเช่นกัน ในเวลาเดียวกันเขาก็จับสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าของไป๋ยี่เฟยออกมาได้
หลังจากที่ฉุงโยวเวยเห็นของสิ่งนั้น เขาก็ตะลึงขึ้นมาทันที
จากนั้น ก็มีเสียงหัวเราะดังออกมา “ฮาฮา…ไป๋ยี่เฟย แกบ้าไปแล้วงั้นเหรอ? คิดไม่ถึงเลยว่าแกจะเอาไฟแช็กและประทัดมาที่นี่?
ตอนนี้ยังไม่ถึงปีใหม่เลยนะ!”
“จุดประทัดเพื่อแกก่อนตายงั้นเหรอ? ฮาฮา … ”
เมื่อหลี่ป้าได้ยินเสียงของฉุงโยวเวยเขาถึงกับต้องผงะ เขากำลังสงสัยว่าเขาได้ยินผิดอยู่หรือเปล่า
แต่ไม่คาดถึงเลยว่าสิ่งที่ไป๋ยี่เฟยหยิบออกมานั้นจะเป็นไฟแช็กกับประทัด?
คิดจะทำอะไร?
ในเวลาแบบนี้ ไม่พกมีดไว้ติดตัว แต่กลับพกไฟแช็กและประทัดมาแทนเพื่ออะไร?
หลี่ป้ารู้สึกว่าไป๋ยี่เฟยกำลังดูถูกตัวเอง และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงแสร้งทำแบบนั้น ดังนั้นเมื่อเขากระแทกกำแพงเป็นครั้งที่สามพละกำลังของเขากลับแข็งแกร่งกว่าสองครั้งก่อนหน้านี้
เลือดที่มุมปากของไป๋ยี่เฟยไม่เพียงแต่จะไหลออกมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังไหลออกอย่างเร็วอีกด้วย
แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้เขาวางมือที่ใช้จับผมของหลี่ป้าลง และบีบคอของหลี่ป้าแทน ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น เขาก็หยิบประทัดไว้ และมืออีกข้างก็จุดไฟแช็กทันที
“ไป๋ยี่เฟย! นี่แกกำลังจะทำอะไร?”
ฉุงโยวเวยเห็นว่าเขากำลังจุดไฟ เพื่อจุดชนวนประทัด และเขาก็รู้สึกว่านี่มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตอบเขาแต่อย่างใดแต่เขากลับจดจ่อไปที่การจุดประทัด
เมื่อหลี่ป้าได้ยินเสียงจุดไฟแช็คเช่นนั้น ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ใจของเขาจมดิ่งลงในทันที และก็เริ่มตื่นตระหนก เขาใช้หลังของเขากระแทกไป๋ยี่เฟยไปอีกครั้ง พยายามกระแทกไป๋ยี่เฟยให้ตาย ก่อนที่ไป๋ยี่เฟยจะจุดไฟได้
แต่น่าเสียดาย ที่การจุดประทัดใช้เพียงช่วงเวลาสั้นสั้นเท่านั้น
เมื่อไป๋ยี่เฟยจุดไฟติดแล้ว ก็รีบปล่อยคอปกเสื้อของหลี่ป้าออกทันที และโยนประทัดที่ติดไฟนั้นเข้าไป
หลี่ป้าตกใจและเมื่อคิดจะขัดขวาง ไป๋ยี่เฟยก็ลงมือได้สําเร็จแล้ว ในขณะเดียวกันเขาก็จับมือทั้งสองข้างของหลี่ป้าไว้ เพื่อไม่ให้เขาหยิบมันออกไป
ภายในเวลาไม่กี่วินาที ก็มีเสียงประทัดและเสียงกรีดร้องของหลี่ป้าดังขึ้นในห้องพิเศษ
“โอ๊ย….”
ฉุงโยวเวยที่มองมาจากอีกฝั่งหนึ่งก็ตกใจ
ประทัดไม่สามารถทำให้คนตายได้ แต่สามารถทำให้บาดเจ็บได้ ยิ่งไปกว่านั้นไป๋ยี่เฟยยังโยนประทัดเข้าไปในเสื้อผ้าของเขา แนบไว้กับผิวหนังของเขา และมันก็ไม่สามารถเอาออกมาได้ เมื่อคิดคิดแล้วมันก็เป็นอะไรที่น่ากลัวมากเหมือนกัน
หลี่ป้ามองไม่เห็นสภาพร่างกายของตัวเอง แต่สามารถรู้สึกได้ว่า หน้าอกของเขาถูกระเบิดและไหม้ซึ่งนอกจากนี้ยังมีเลือดไหลออกมาด้วย
เมื่อเสียงระเบิดของประทัดดังขึ้น หลี่ป้าก็ไม่มีกำลังที่จะไปสนใจไป๋ยี่เฟยที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งเขาแค่อยากรีบเอาประทัดออกไปเท่านั้น
ไป๋ยี่เฟยก็ปล่อยมือลง และให้โอกาสเขาหยิบมันออกไป
ในขณะเดียวกัน เขาก็ให้โอกาสให้ตัวเขาเองได้ฆ่าคนเช่นกัน
ในขณะที่วางมือลง ไป๋ยี่เฟยก็หยิบมีดปอกผลไม้ที่แหลมคมออกมาจากกระเป๋าอีกข้าง แม้มีดจะเล็ก แต่ขอแค่ฆ่าคนได้ก็แล้วกัน
ดังนั้นในขณะที่หลี่ป้าเพิ่งยื่นมือเข้าไปในเสื้อผ้าของตัวเอง มือของไป๋ยี่เฟยที่ถือมีดปอกผลไม้ก็จับไปที่คอของหลี่ป้าแล้ว
“ระวัง!”
นี่คือการเตือนของฉุงโยวเวย แต่ มันก็ช้าไปแล้ว
เมื่อหลี่ป้าได้ยินเสียงดังนั้นก็อยากจะเอามือออกมาต้านทานเขา แต่ไป๋ยี่เฟยก็เร็วมาก เขาออกแรงแค่จังหวะเดียว เลือดที่คอก็ไหลทะลักออกมา
มือของหลี่ป้าก็หยุดอยู่กลางอากาศ และอยู่ห่างจากไป๋ยี่เฟยไม่ถึงห้าเซนติเมตร
ไป๋ยี่เฟยลงมาจากร่างของหลี่ป้าและใช้เท้าถีบ ออกไปทีหนึ่ง จากนั้นหลี่ป้าก็ล้มลงกับพื้นอย่างงุนงง และตายอย่างตาไม่หลับ
ในขณะนั้น ฉุงโยวเวยก็มองไปที่ไป๋ยี่เฟยราวกับปีนขึ้นมาจากนรก ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ความภาคภูมิใจและความเย่อหยิ่งเมื่อครู่ก็หายไป
ไม่ว่าใครก็ตามต่างก็คิดไม่ถึงเลย ว่าไป๋ยี่เฟยจะใช้ประทัดเบี่ยงเบนความสนใจของหลี่ป้าอย่างไม่คาดคิด และในที่สุดเขาก็โดนเชือกคอด้วยมีดเพียงเล่มเดียว!
เมื่อเรื่องนี้ถูกพูดออกไปคนอื่นอื่นต่างก็คิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องตลกขบขันเรื่องหนึ่ง
ประทัด? มันจะเป็นไปได้ยังไง?
แต่ในความจริงแล้วมันเป็นอย่างนั้นจริงจริง
สิ่งที่ไป๋ยี่เฟยทําก็คือการแก้แค้นนั่นเอง
สาวสวยสุดแห่งหลิงหนานและอู๋ปิ้งถูกระเบิดจนตาย ฉินหัวได้รับบาดเจ็บจากวัตถุระเบิดเช่นเดียวกัน ดังนั้นเขาต้องการให้คนพวกนี้ ได้สัมผัสถึงความรู้สึกของการถูกระเบิดว่าเป็นเช่นไร
แต่ช่างน่าเศร้า ที่เขาไม่สามารถหาวัตถุระเบิด และไม่สามารถใช้วัตถุระเบิดได้ เพราะว่า เขายังไม่อยากตายกับพวกเขา และเพราะว่าภรรยาของเขาเองก็ยังรอเขาอยู่ที่บ้าน
เมื่อฉุงโยวเวยเห็นไป๋ยี่เฟยมองมา ก็รีบหดตัวลงตรงมุมห้องทันที “นี่แก… อย่าเข้ามานะ…”
“มีเรื่องอะไรก็พูดกันดีดี… แกต้องการอะไรฉันจะให้แก…”
“ฉันสามารถมอบตําแหน่งรองประธานให้แกได้นะ และฉันก็สามารถดึงแกขึ้นมาอยู่ในตําแหน่งประธานได้ด้วย…”
ไป๋ยี่เฟยเดินเข้าไปทีละก้าว
ฉุงโยวเวยหวาดกลัวจนแทบจะทนไม่ไหว และสีหน้าของเขาก็ซีดลงเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าไป๋ยี่เฟยไม่เอ่ยปากพูดอะไร เขาก็รีบวิ่งพุ่งเข้าไปยังประตูห้องพิเศษทันที
เพราะไป๋ยี่เฟยได้เตรียมการรับมือกับการหนีของเขาไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบหยุดฉุงโยวเวยไว้อย่างรวดเร็ว แล้วเตะเขาเข้าไปยังด้านในสุดของห้องพิเศษ และในขณะเดียวกันเขาก็อยู่ข้างศพของหลี่ป้าด้วย
ฉุงโยวเวยมองไปยังด้านข้าง สีหน้าของเขายิ่งซีดลงไปอีกและเลือดที่ไหลจากคอของหลี่ป้ายังคงอุ่นอยู่ด้วย เขาเบิกตาโพลงขึ้นมาในทันที เพราะมันดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
“อย่า ไป๋ยี่เฟย ไว้ชีวิตฉันด้วย…ไว้ชีวิตฉัน…” ฉุงโยวเวยกลัวตาย ซึ่งในเวลาที่เราต้องเผชิญความตายไม่ว่าจะอะไรก็ตามก็จะไม่สนใจทั้งนั้น
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยเดินเข้ามา ฉุงโยวเวยก็คุกเข่าลงทันที
“อย่าฆ่าฉัน… อย่าฆ่าฉันเลย… ฉันจะคุกเข่าคำนับแกล่ะ ฉันจะยอมเป็นทาสรับของแก…” พูดอยู่อย่างนั้น ฉุงโยวเวยก็เริ่มคุกเข่าคำนับจริงจริง
ไป๋ยี่เฟยยืนนิ่งอยู่หน้าฉุงโยวเวย และนั่งยองยองลง พร้อมกับใช้มือบีบคอฉุงโยวเวย แล้วหัวเราเยาะ “ฉันไว้ชีวิตแก แกจะไว้ชีวิตฉันงั้นเหรอ” ”
ฉุงโยวเวยตะลึงงัน จากนั้นจึงตอบกลับว่า “ทำสิ ฉันจะทำ ฉันจะให้ทุกอย่างที่แกต้องการ จะให้ฉันทําอะไรก็ได้หมดเลย…”
“ฮึ่ม!” ไป๋ยี่เฟยใช้แรงในมือกดลงไป ฉุงโยวเวยหายใจลําบาก ความรู้สึกหายใจไม่ออกนั้นยิ่งทําให้เขารู้สึกหวาดกลัวในความตายเป็นอย่างมาก