แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
“ทางนี้!”
“พวกเราอยู่ตรงนี้!”
“ช่วยพวกเราด้วย!”
คนเราเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง เมื่อพบกับความหวัง ความรู้สึกเช่นนี้ คงต้องประสบพบเจอด้วยตนเองถึงจะสามารถรู้ว่าเป็นเช่นไร
ครั้งเมื่อคนบนเรือพบพวกเขา ค่อย ๆแล่นเรือมาหาพวกเขา
พวกเขาปืนเชือกขึ้นบนเรือได้อย่างปลอดภัย
แต่หลังขึ้นบนเรือแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็สัมผัสได้ถึงว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เพราะว่าคนบนเรือทุกคนล้วนมีอาวุธครบมือ มีด ปืนล่าสัตว์
ความดีใจลิงโลดของแต่ละคน พลันดับวูบในทันที
ล่ายเคอสอบถามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจว่า: “พวกคุณเป็นโจรสลัดหรือเปล่า?”
ไป๋ยี่เฟยกลับพูดว่า: “หากเป็นโจรสลัดจริง นายกลัวพวกเขาเหรอ?”
ล่ายเคอได้ยินคำพูดก็พยักหน้า ก็ใช่ เขาเป็นถึงยอดฝีมือระดับที่สอง โจรสลัดเหล่านี้ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ในขณะนั้น มีชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามา มีลูกเรือถือดาบโค้งสิบกว่าคนยืนอยู่ข้างหลัง
ชายวัยกลางคนนั้นมีท่าทีเป็นมิตร ถามพวกเขาว่า “พวกท่านหลบหนีมาจากการลอบโจมตีบนเรือของเต้าจ่างใช่ไหม?”
ด้วยคำถามเช่นนี้ ไป๋ยี่เฟย ก็รู้สึกแปลกใจ แต่ไป๋ยี่เฟยตอบพวกเขากลับไปว่า “ใช่ พวกเราถูกสัตว์ประหลาดโจมตี”
ชายวัยกลางคนพยักหน้า พูดว่า “บนเรือมีเสื้อผ้าสะอาด ๆ พวกคุณสามารถไปเปลี่ยนได้ ฉันได้เตรียมซุปปลาไว้เรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็มาทานอาหารสักหน่อย”
ไป๋ยี่เฟย กับพวกรีบพูดขอบคุณ
ชายวัยกลางคน มีท่าทางเป็นมิตร ยิ้มและพูดว่า: “ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราคนกันเอง ท่านจ้าวของพวกเรา เป็นศิษย์ผู้น้องของเต้าจ่าง”
“ท่านจ้าว?” ไป๋ยี่เฟย ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตระกูลจ้าวของเขตที่สามใช่ไหม?”
ชายวัยกลางคนรีบพยักหน้า “ใช้แล้ว เต้าจ่างเคยพูด ท่านจ้าวให้พวกคุณฟังใช่ไหม?”
ไป๋ยี่เฟยตกตะลึงมาก
ท่านจ้าวที่พวกเขากล่าวถึง คงจะเป็นพ่อของจ้าวเทียน ผู้มีอำนาจของเขตที่สาม
ในตอนนั้น เขาเป็นคนฆ่าจ้าวเทียน ต่อหน้าต่อตาคนหลายคน
ครั้งนี้ ชายวัยกลางคนยิ้มและถามขึ้นว่า: “ขอถามพวกท่านว่า เต้าจ่างกับพวก ตอนนี้อยู่ที่ไหน? หรือว่าจะพลัดหลงกับพวกท่าน?”
ได้ยินคำถามนี้ ไป๋ยี่เฟย อ้ำอึ้งไม่รู้จะเอ่ยอย่างไร ล่ายเคอกลับแย่งพูดขึ้นก่อน ถอนหายใจแสดงท่าทีเศร้าโศก : “ท่านผู้นำเขา……”
พูดไม่ทันจบประโยค ดวงตาของล่ายเคอแดงขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงดูเหมือนจะสะอึกสะอื้น
ไป๋ยี่เฟย ที่อยู่ในเหตุการณ์ตาค้าง มองดูการแสดงละครของล่ายเคอ แสดงได้เหมือนจริงสมบทบาทอย่างที่สุด
ไป๋ยี่เฟยพิศวงงงงวย ทักษะการแสดงเช่นนี้ ยังต้องฝึกวิชาไปทำไม? ไปเป็นนักแสดงไม่ดีกว่าเหรอ? รางวัลออสกาส์กำลังรอนายอยู่!
ชายวัยกลางคนได้ยินคำพูดดังกล่าว พร้อมกับมองสีหน้าของล่ายเคอ สีหน้าเปลี่ยนทันที “หรือว่านายท่านเต้าจ่างจะ……จะ……”
“เฮ้อ……” ล่ายเคอถอนหายใจคำโต สะบัดหน้าไม่พูดจาอะไรอีก
ชายวัยกลางคนเห็นแล้วยิ่งมั่นใจ กลับแสดงความประหลาดใจมากกว่าจึงพูดว่า “เป็นไปได้ยังไง? เมื่อคืนวาน นายท่านเต้าจ่างยังส่งข้อความหาท่านจ้าว เพื่อขอความช่วยเหลือ!”
ไป๋ยี่เฟย เห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีรีบพูดขึ้นว่า: “ตายหลังจากส่งข้อความ”
“ตายยังไงล่ะ” ชายวัยกลางคนรีบถามขึ้นทันที
ล่ายเคอเห็นท่าแล้วกลัวว่าไป๋ยี่เฟยจะพลั้งปากพูดไป จึงรีบฉวยจังหวะพูดแทรกว่า: “ถูกสัตว์ประหลาดในทะเล……”
ชายวัยกลางคนถามด้วยความประหลาดใจมาก “เต้าจ่างบอกว่าหลบสัตว์ประหลาดพวกนั้นได้แล้ว พวกเขาตอนนี้ อยู่บนเกาะก็ไม่ใช่เหรอ?”
สีหน้าล่ายเคอยังคงนิ่งไม่เปลี่ยน พูดด้วยท่าทีเหมือนจริงมาก “ คุณไม่รู้ว่ามันน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน บนเกาะแห่งนั้น มันก็คือรังของเจ้าสัตว์ประหลาด!”
“อะไรนะ?” ชายวัยกลางคนเบิกสองตาโพลง เห็นได้ชัดว่าตกใจมาก แต่ผลสุดท้ายทำได้เพียงถอนหายใจด้วยท่าทีจนหนทาง
ชายวัยกลางคนพูดขึ้นเบา ๆว่า: “พวกคุณก็ไปพักผ่อนเถอะ”
หลังพูดจบ กำชับลูกน้องพาพวกเขาไปที่ห้องพัก ส่วนตนเองนั้นเดินไปที่ดาดฟ้าเรือ
เมื่อมาถึงในห้องโดยสารเรือ ล่ายเคอสอดสายตามองดูรอบทิศไร้ผู้คน จึงถอนหายใจเบาๆ และพูดว่า: “โอ้พระเจ้า นับว่าฟาดเคราะห์มาได้นะคราวนี้”
ไป๋ยี่เฟย ครับมองเขาด้วยท่าทีสงสัย จึงถามขึ้นว่า: “คุณมาเป็นพวกเราแล้วจริง ๆเหรอ? แต่ทำไมผมยังรู้สึกว่าคุณมีอะไรผิดปกติ?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ ล่ายเคอ ร้อนใจรีบพูดสาบถสาบานว่า: “เถ้าแก่ไป๋ คิดมากแล้ว ฉันจริงใจจริง ๆ!”
เห็นท่าทาง ไป๋ยี่เฟยส่ายศีรษะเล็กน้อยจากนั้นพูดขึ้นว่า: “เอาเถอะ ผมพูดเล่น ยังไงรีบเตรียมตัวให้พร้อมสักหน่อยเถอะ”
“เตรียมอะไรเหรอ?” ล่ายเคอตกตะลึง ถามด้วยความสงสัย
……
ไป๋ยี่เฟย ถอนหายใจและพูดว่า “ดูท่าว่าคุณคงแสดงเป็นอย่างเดียว แต่ไม่ได้ใช้สมอง”
ล่ายเคอ: “……”
เรือลำนี้เป็นเรือของตระกูลจ้าวเขตที่สาม พวกเขาพูดว่ามาเพื่อช่วยเหลือ หลังทราบข่าวเต้าจ่างขอความช่วยเหลือ หากเต้าจ่างตายแล้วจริง ๆ เมื่อครู่ชายวัยกลางคน ต้องรีบแจ้งข่าวให้กับตระกูลจ้าว
อีกทั้งท่านจ้าวของตระกูลจ้าว จะต้องโทรศัพท์มาเพื่อยืนยัน ถึงเวลานั้นความลับแตกแน่?
……
หลังจากนั้นสิบนาที
ภายในห้องโดยสารเรืออีกด้านหนึ่ง มีคนจำนวนมากมารวมตัวกัน
ชายวัยกลางคนยิ้มเย็นชาและพูดว่า: “เมื่อกี้ฉันได้ถามท่านจ้าวเพื่อยืนยันแล้ว เต้าจ่างยังมีชีวิตอยู่ และผู้คนเหล่านี้ ก็คือคนที่เต๋าจ่าง ต้องการจับตัว”
“พวกเรารีบถือโอกาสนี้จับตัวพวกมัน หลังจากช่วยเหลือเต่าจ้างแล้ว ก็จะได้รับความดีความชอบอย่างใหญ่หลวงไปด้วย”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ มีบางคนพยักหน้าสนับสนุน
“พูดได้ถูกต้อง ทำความดีความชอบต่อหน้าเต้าจ่าง เพื่อให้ตระกูลเจ้าของพวกเราได้หน้ามากขึ้น เมื่อกลับไปตระกูลจ้าว ท่านจ้าวจะต้องตบรางวัลให้อย่างงามแน่นอน!”
“ใช่ใช่!”
“เฮ้ พวกเขาก็ไม่ใช่เด็กเล็ก ๆแล้วไม่ใช่เหรอ บางคนก็หน้าตาสะสวย ถึงเวลานั้นพวกเราก็จะได้……”
“ฮึฮึ……”
ทุกคนยิ่งพูดยิ่งฮึกเหิมดีใจ
ชายวัยกลางคนรู้สึกพอใจยิ่งนัก หัวเราะและพูดขึ้นว่า: “อีกเดี๋ยว พวกแกคอยดูฝีมือของฉันก็พอ”
เป็นลูกพี่ใหญ่ของที่นี่ ตอนนี้ของกำลังจินตนาการถึงภาพของตน หลังจากจับตัวพวกเขามาได้
หลังจากนั้น อาศัยประโยชน์ความสัมพันธ์ทางการค้าของเต้าจ่าง ให้ตระกูลจ้าวได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น ถึงเวลานั้นท่านจ้าวดีใจและอาจจะถามว่าตนเองจะได้อะไรเป็นของรางวัลตอบแทน
จะว่าไป เขาเองก็ชอบพออยู่กับ ภรรยาน้อยคนหนึ่งของท่านจ้าว หากถึงตอนนั้นเขาเอ่ยปากขอ ท่านจ้าวคงจะไม่มีทางปฏิเสธเขา
คิดไป ชายวัยกลางคนก็ยิ่งตื่นเต้นสุดประดัง
……
หลังจากไป๋ยี่เฟยกับพวกผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็ถูกเชิญให้ไปที่ห้องอาหาร
บนโต๊ะอาหาร วางสำรับอาหารอร่อยมากมายหลายชนิด ยังมีที่นั่งของพวกเขาวางซุปปลาสดใหม่ ๆ อีกหนึ่งสำรับ
สองวันก่อนพวกเขาอยู่ที่แนวโขดหิน ไม่กินขนมปังก็กินผลไม้ป่า ไม่เคยได้กินอาหารอุ่น ๆร้อน ๆแบบนี้เลย รวมทั้ง พวกเขาออกทะเลมาตั้งแต่เมื่อคืนวาน จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ทานอะไรลงท้องเลย
ดังนั้นนอกจากไป๋ยี่เฟยแล้ว ล่ายเคอ ลู่หยาง ลู่เหมียวเหมียว ทุกคนต่างก็กินอย่างมีความสุขเอร็ดอร่อย
ไป๋ยี่เฟยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่สามารถต้านทานความยั่วยวนของอาหารอร่อยไปได้ จึงก้มหน้ากินลงไป
หลังจากนั้นสิบกว่านาที ทั้งสี่คนกินจนพอสมควรแล้ว
ในขณะนั้นเอง ชายวัยกลางคนก็นำลูกเรือจำนวนยี่สิบกว่าคนเดินเข้ามา หัวเราะขึ้นและถามว่า: “ทุกท่าน อาหารเป็นยังไงบ้าง? พอใจไหม?”
ลู่หยาง หัวเราะตอบกลับไปว่า: “พอใจ พอใจมาก อาหารพวกนี้ อร่อยมากจริง ๆ”
ชายวัยกลางคนยิ้มหรี่ตาพูดขึ้นว่า “นั่นเป็นอาหารมื้อสุดท้าย ไม่อร่อยได้ยังไงล่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
ลู่หยาง ยิ้มเจื่อน ๆ “คุณลุง คุณก็อย่ามาพูดล้อเล่น”
ชายวัยกลางคนได้ยินคำพูดนี้ หัวเราะเสียงดังออกมาว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า……พูดล้อเล่น?”
“ฉันเองก็อยากจะคิดว่าพวกคุณ พูดล้อเล่นหรือเปล่า? บอกว่าเต้าจ่างได้ตายไปแล้ว คิดจริง ๆแต่ว่าพวกเราจะโง่?”
ทั้งสี่คน ไม่มีใครพูดสักคำ
ชายวัยกลางคน โบกมือและพูดว่า: “ล้อมพวกเขาไว้!”
จากนั้น ลูกเรือยี่สิบกว่าคน ล้อมพวกเขาไว้
ล่ายเคอ เห็นเหตุการณ์ยิ้มเย็นชาและพูดว่า: “อาศัยพวกปลายแถวพวกนี้เหรอ คุณคิดว่าพวกเราจะกลัว?”
“แน่นอนว่าทำไม่ได้!” ชายวัยกลางคนผู้เสียงเย็นชาว่า “ฉันได้ยืนยันกับเต๋าจ่างแล้ว มีคนทรยศที่อายุราวสี่สิบ คงเป็นคุณใช่ไหม?”
“คุณคงคิดว่า คุณเป็นถึงยอดฝีมือระดับที่สอง อีกทั้งพวกเราเป็นเพียงคนธรรมดา จึงไม่สามารถต่อกรกับคุณได้แม้สักขบวนท่าเดียว ใช่หรือไม่?”