ยีหยุนที่คลานออกมาจากซากประหลักหักพังพอเห็นภาพนี้เข้าก็ถึงกับอึ้งไปเลย
ท่านดยุกที่อยู่ข้างๆ ตอนแรกยังรู้สึกโกรธเกรี้ยว อยากที่จะพุ่งเข้าใส่ แต่พอเห็นแบบนี้เข้า ก็ต้องชะงักไปทันที
คนอื่นๆ ที่เหลือก็ได้แต่มองดูเหตุการณ์ด้วยความช็อก
ไม่มีใครคาดคิด ว่าในการต่อสู้ระดับสูงแบบนี้ ยังมีคนที่ใช้ท่าบ็อกซิ่งแบบนี้
ในสายตาของคนในสำนักหนานเหมิงนั้น การใช้ท่าพวกนี้ในการต่อสู้นั้นมันเป็นสิ่งที่ไร้ยางอายมาก
แต่ว่า สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยก็คือ มันได้ผลดีมาก
มือทั้งสองข้างของชายหัวล้านจับมือของไป๋ยี่เฟยไว้ อยากที่จะฉีกกระชากมันลงมา แต่ว่า ไป๋ยี่เฟยนั้นมีพละกำลังที่เหลือล้น แม้แต่เขายังต้องตกใจ
ชายหัวล้านที่กระชากไม่ลงจึงต้องเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่น เขากระโดดขึ้นไปอย่างกะทันหัน แล้วกระแทกลงพื้นอย่างแรง
“ตุบ!”
ไป๋ยี่เฟยถูกชายหัวล้านทับอยู่บนพื้น เขาทนไม่ไหวจนต้องสำลักเลือดออกมา
แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ และไม่ไปสนใจเลือดที่ออกมาจากปากของตัวเอง เขายังคงล็อกคอของชายหัวล้านเอาไว้แน่น
“แกนี่แม่ง!”
“นี่แกไม่เจ็บบ้างเลยรึไง?”
ชายหัวล้านถูกรัดคอจนหน้าแดงแล้ว อดไม่ได้ที่จะเริ่มด่าทอออกมา
แต่ไป๋ยี่เฟยที่สีหน้าเคร่งขรึมนั้นไม่ได้สนใจชายหัวล้านเลย เขาแค่ใช้แรงล็อกคอต่อไปเรื่อยๆ ออกแรงอย่างสุดชีวิต
ชายหัวล้านไม่อยากถูกล็อกคอตายไปทั้งอย่างนี้ เขาจึงลุกขึ้นแล้วกระแทกตัวลงไปอีกครั้ง
“ตุบ!”
“เอื๊อก!”
ผลลัพธ์ออกมาเหมือนเดิม ไป๋ยี่เฟยยังคงไม่ยอมปล่อยมือ
ชายหัวล้านเริ่มดิ้นรนขึ้นมา “แกนี่มันแม่งหน้าด้าน! ไร้นางอาย!”
จากเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ การขัดขืนของชายหัวล้านก็ได้เบาลงเรื่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ
จนสิ้นท้ายเขาก็หยุดดิ้น สองมือสองขาหล่นลงพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ปล่อยมือในทันที แต่เขายังล็อกไปอีกสักพัก ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยมือออก
ส่วนคนอื่นๆ ที่อยู่ตรงนั้นต่างพาก็อึ้งไปตามๆ กัน
ยอดฝีมือระดับหนึ่งชั้นกลางคนหนึ่งสามารถสังหารยอดฝีมือระดับหนึ่งชั้นสูงลงได้ แถมยังใช้วิธีแบบนี้อีกด้วย
พูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ
ไป๋ยี่เฟยหายใจอย่างหนักหน่วง ผ่านไปพักใหญ่กว่าจะสามารถลุกขึ้นจากพื้นได้
ถึงแม้ตอนนี้เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่จิตสังหารในแววตาของเขาก็ยังไม่ลดลงแม้แต่นิดเดียว
“ฉันจะฆ่าพวกแกทุกคน เพื่อชดใช้ให้กับเธอ!”
ไป๋ยี่เฟยเบิ่งตาที่เป็นสีแดงเลือดคู่นั้นของเขา จ้องมองไปยังผู้คนที่อยู่รอบๆ แล้วเน้นย้ำทุกคำออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ชายหัวล้านที่นอนอยู่บนพื้นที่ควรจะตายไปแล้ว ก็ซัดสองมือลงพื้น แล้วถีบขาใส่ท้องของไป๋ยี่เฟยอย่างจัง
“ตุบ!”
ไป๋ยี่เฟยกระเด็นออกไปทันที
ทุกคนที่ได้เห็นต่างเบิ่งตาโตด้วยความตกใจ
ส่วนยีหยุนนั้นก็ต้องรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยกระแทกลงพื้นก็แน่นิ่งไป ราวกับไม่ได้หายใจแล้ว
ชายหัวล้านลุกขึ้นมา ระหว่างที่บิดคอของตัวเองไป เขาก็จ้องเขม็งไปที่ไป๋ยี่เฟย “แกเป็นคนแรกเลยที่สามารถทำให้ฉันโกรธได้ขนาดนี้!”
ท่านดยุกที่ได้เห็นแบบนั้นก็รู้สึกโล่งใจไปมาก แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณแม่งทำผมตกใจแทบแย่ ผมเผลอคิดว่าคุณได้ตายคามือมันไปแล้วซะอีก!”
“ฮึ! ก็แค่ใช้ลูกเล่นนิดหน่อยเท่านั้น” ชายหัวล้านได้พูดออกมาอย่างเหยียดหยามว่า “กะอีแค่ลูกกระจ็อกอย่างยอดฝีมือระดับหนึ่งชั้นกลางตัวเดียว ยังกล้าคิดที่จะฆ่าฉันอีก!”
พอเขาพูดคำนี้จบ ไป๋ยี่เฟยที่อยู่ไกลๆ ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ
สายตาของทุกคนต่างก็ถูกดึงดูดไป
ไป๋ยี่เฟยนั้นเหมือนจะยืนได้อย่างมั่นคง และยังหายใจได้อย่างหนักหน่วง
ตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นว่าดวงตาสีแดงของเขามันเป็นประกายมากยิ่งกว่าเดิม
ตอนนี้ในมือของเขาได้กำดาบอยู่เล่มหนึ่ง มันเป็นดาบเล่มใหญ่ที่เขาปักไว้บนพื้นก่อนหน้านี้
เขากำดาบไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือกว่า “เธอไม่ควรต้องมาตาย!”
“เธอไม่ได้ทำอะไรผิด!”
“เธอเพิ่งอายุแค่นั้น!”
“เธอไม่ควรต้องตาย!”
ชายหัวล้านที่ได้ยินแบบนั้นก็ต้องขมวดคิ้วทันที “นี่แกถูกฉันกระทืบจนเพี้ยนไปแล้วรึไง? เอาแต่พล่ามอะไรก็ไม่รู้?”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจชายหัวล้าน แต่เขากลับยื่นมือไปฉีกเสื้อคลุมของตัวเองออก
“แคร็ง!”
แผ่นเหล็กที่เหลือต่างก็ร่วงหล่นลงพื้น
ไป๋ยี่เฟยได้เก็บแผ่นเหล็กเหล่านั้นขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มเอาพวกมันมาประกอบกัน เขาจะทำให้ดาบใหญ่เล่มนี้ยาวยิ่งกว่าเดิม ใหญ่ยิ่งกว่าเดิม
หลังจากที่เขาประกอบดาบเล่มนั้นเสร็จแล้ว เขาก็ลุกขึ้น ระหว่างที่เดินเข้าไปหาชายหัวล้าน เขาก็พูดออกมาว่า
“เธอไม่ควรตาย!”
“ฉันรับปากเธอแล้ว ว่าจะพาเธอกลับไป”
“เป็นเพราะพวกแก!”
“ทุกคนในสหพันธ์วรยุทธของพวกแกเป็นคนฆ่าเธอ!”
“ดังนั้น ฉันจะให้ทุกคนในสหพันธ์วรยุทธของพวกแกต้องชดใช้เธอด้วยชีวิต!”
ชายหัวล้านได้ขำออกมาอย่างไม่ชอบใจด้วยความดูถูก “แกคิดว่าแค่ดาบใหญ่ๆ เล่มเดียวก็สามารถฆ่าฉันได้แล้วอย่างนั้นเหรอ?”
“ตายซะ!”
ไป๋ยี่เฟยคำราออกมาเสียงดัง จากนั้นก็ยกดาบใหญ่ขึ้น แล้วพุ่งเข้าใส่ชายหัวล้านทันที
ชายหัวล้านแค่ทำเสียงฮึดฮัด และไม่เห็นดาบใหญ่เล่มนั้นอยู่ในสายตาแม้แต่นิดเดียว เขายกมือขึ้นมาเพื่อที่จะปัดดาบเล่มนั้นออกไป
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ท่านดยุกก็ได้ตะโกนเตือนเขาไปว่า “ห้ามโดนตัวดาบของมันเด็ดขาด!”
ชายหัวล้านตกใจทันที จากนั้นก็ชักมือของตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วเอี้ยวตัวหลบการโจมตีครั้งนี้ไปได้
ก่อนหน้านี้ท่านดยุกก็ได้เห็นตอนที่ลูกน้องทั้งแปดคนของเขาสู้กับไป๋ยี่เฟย เพราะดาบเล่มนี้ แค่แตะโดนมันก็มีแต่ต้องตายสถานเดียว
ส่วนชายหัวล้านที่เพิ่งหลบการโจมตีไป ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วพูดด้วยความตกใจว่า “เมิ่งหลินแห่งสำนักเฟยซิง?”
เห็นได้ชัดว่าเขาเคยเจอเมิ่งหินมาก่อน ถึงได้รู้จักกับดาบเล่มนี้
แต่ว่า เขาก็เข้าใจมันอย่างรวดเร็ว “ก็แค่ความสามารถผิวเผินเท่านั้น!”
พูดจบ เขาก็ออกหมัดอย่างรวดเร็ว ชกไปยังหัวของไป๋ยี่เฟย
แต่แล้ว ทันทีที่เขาหลบออกจากดาบใหญ่ ตัวดาบก็ส่งเสียงซิ่วๆ ที่แซ่บหูออกมา
เหมือนก่อนหน้านี้ แผ่นเหล็กของเขานั้นทำไม่ได้เหมือนของเมิ่งหลิน ดังนั้นเมื่อเขาใส่พลังอ้านจิ้งเข้าไป แผ่นเหล็กก็จะแตกออก
ในครั้งนี้ มันก็ได้แตกออกเหมือนกัน
เศษเหล็กที่แตกออกได้กระจายออกทั่วทุกทิศอย่างควบคุมไม่ได้
ชายหัวล้านที่ชกออกไปได้ครึ่งทาง ก็สัมผัสได้ถึงความอันตราย ด้วยความตกใจเขาจึงยกแขนทั้งสองข้างขึ้น แล้วโจมตีใส่เศษเหล็กพวกนั้นจนหล่นลงพื้น
แต่ว่าเศษเหล็กนั้นมีเยอะมาก ถึงแม้เขาจะสกัดพวกมันไว้ได้หมด แต่เสื้อผ้าก็ยังถูกบาดจนขาดไปหลายจุด
ชายหัวล้านรู้สึกดูแคลนกับการกระทำแบบนี้มาก เขาคิดว่าวิธีสกปรกแบบนี้มันไม่สามารถเปิดเผยให้คนอื่นรู้ได้แน่นอน ก่อนที่เขาจะได้พูดจาดูถูก ช่องท้องขอเขาก็เกิดรู้สึกเย็นวาบขึ้นมา
ชายหัวล้านก้มหน้าลงด้วยความแตกตื่น แล้วก็ได้เห็นดาบที่เหลืออีกครึ่งเล่มของไป๋ยี่เฟย เสียบอยู่ที่ท้องของเขาพอดี
ชายหัวล้านช็อกไปแปบหนึ่ง จากนั้นก็ตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาลว่า “ไอ้ลูกกระจ็อก ฉันจะฆ่าแก!”
ในตอนที่เขากำลังจะยกมือขึ้นมาเพื่อโจมตีใส่ไป๋ยี่เฟยนั้น จู่ๆ ก็ได้เกิดเสียงดังขึ้น
“ตูมตูม……”
เสียงนั้นมันดังมาจากในร่างกายของเขา
เขารู้สึกเหมือนตัวเองนั้นถูกแทงไปหลายที จากแรงเหล่านั้นส่งผลให้เขาต้องงกระเด็นออกไป
“ตุบ!”
ชายหัวล้านกระแทกลงพื้นแล้ว “เอื๊อก” สำลักเลือดออกมาเฮือกใหญ่