บทที่ 9 จูบยาว ๆ
จารวีกลัดกลุ้มกอดตัวเองอยู่บนโซฟา นิ้วมือจิกลงไปในโซฟา กัดริมฝีปากแน่นเพื่อไม่ให้เสียงร้องไห้ดังออกมา
“คุณคะ จะอาบน้ำสักหน่อยมั้ยคะ…” น้าอามคนนั้นเตือนเธอด้วย ความหวังดี
“ออกไป ออกไปให้พ้น…” จารวีร้องตะโกนออกมา เธอใส่เสื้อผ้า อย่างลวกๆ กอดกล้องถ่ายรูปเดินออกมาจากบ้านพักตากอากาศของ บ้านโพธิสูง เธอเกลียดคนในบ้านโพธิสูง เกลียดทุกอย่างในบ้านโพธิสูง
ยศพลมองภาพด้านหลังของเธออย่างเย้าหยอก แสดงอาการ หัวเราะอย่างอันตรายและน่ากลัวออกมานิดๆ ผู้หญิงของบ้านพูลสวัสดิ์ ทั้งหมด ไม่ได้มีจุดจบเป็นอันดีแน่
ที่ริมทะเล จารวีนั่งกอดเข่า ใจลอยมองมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ที่นิ่งสงบอยู่บนหินก้อนหนึ่ง ลมพัดมาครั้งแล้วครั้งเล่า ผมของเธอปลิว ไสวไปตามสายลม จารวี เธอมันสกปรก เธอมันไร้ค่าแล้ว….ที่แท้เธอก็ เป็นคนเสนอตัวให้เขาเอง….จารวีถือกล้องถ่ายรูปอยู่ในมือ ตั้งอกตั้งใจ จะทำลายมันให้สิ้นซาก เธอใช้แรงกำลังทั้งหมดที่มีระบายไปกับกล้อง ถ่ายรูปอันนี้ เสมือนกับว่านี่เป็นยศพล คนที่เธออยากจะทำให้ตาย
“พังให้ตายเลยไปไอ้คนชั่ว พังให้ตายเลยไอ้ัคนน่ารังเกียจ พังให้ ตายเลยไอ้กากเดนสังคม…” กล้องถ่ายรูปกลายเป็นเศษอย่างรวดเร็ว เธอยังระบายความโกรธไม่หมดและยังคงพังกล้องให้เละ br/ “แรง เยอะขนาดนี้ ทำไมก่อนหน้านี้ไม่ออกแรงมาให้หมดล่ะ…” คำพูด ถากถางดังออกมาจากด้านหลังของเธอ จารวีหันมาอย่างตกใจ ยศพล ยืนกอดอกตัวเองอยู่ด้านหลังเธอ และมองเธออย่างเยาะเย้ย ด้านหลัง เขามีแลมโบกินี่ฟอร์ดมัสแตงอยู่หนึ่งคัน
“นายตามฉันมาเหรอ?” จารวีโกรธมากๆ ยศพลจ้องสายตาเธออย่างรังเกียจ จารวี เป็นผู้หญิงที่โง่เสีย จริงเลย จะหาเรื่องตายก็ไปให้ไกลกว่านี้หน่อยสิ ที่นี่ห่างจากบ้านพัก ตากอากาศไม่ถึงร้อยเมตร ถ้าอยากไม่เห็นเธอ คงเป็นเรื่องยาก…”
จารวีโกรธจัดจนหน้าแดงไปหมด ถึงแม้ว่ายืนอยู่ตรงนี้ก็ยังเห็น ป้าย Versailวิลล่าที่อยู่บนยอดหลังคา แต่ถ้าพูดว่าไม่ถึงร้อยเมตรก็เว่อ ร์เกินไป
“ไอ้คนเลว ฉันยังไม่หาเรื่องตายหรอก ให้ไปตายเพราะนาย มันไม่ ค่อยคุ้มหรอก…” จารวีขบฟันแน่น เท้าข้างหนึ่งเตะกล้องที่พังเละตกลง ไปในทะเล
“บอกว่าเธอโง่ก็ยังไม่เชื่อ ยังไม่ตรวจดูกล้องก็…” เสียงพูดที่ หยอกล้อ จารวิ่งงไปชั่วขณะ จู่ๆก็หันตัวกลับ ก้าวเท้าสองสามก้าวแล้ว มุ่งตรงไปยังทะเล
กล้องนั้นถูกน้ำทะเลซัดลอยขึ้นมา ถูกฟองคลื่นมัวนไหลซัด ออกไปอย่างช้าๆ
จารวีวิ่งตามมันไป โชคดีที่หาดทรายนี้ตื่น จารวีหยิบกล้องถ่ายรูป ขึ้นมาแล้วหยิบม้วนฟิล์มที่อยู่ข้างในออกมา จากนั้นก็โยนกล้องถ่ายรูป ออกไปไกลลิบ
“ยศพล นายมันเป็นเศษสวะ…”จารวีจ้องตาของยศพลด้วยความ ดู แล้วก็หันหัวเดินจากไปอย่างตามใจชอบ
ทันใดนั้นก็มีมือยื่นเข้ามาจากรั้งเธอไว้จากด้านหลัง มือใหญ่ ของเขาจับที่คางของเธอ สายตาเป็นประกายราวกับดวงดาว มุมปาก กลับมีรอยยิ้มที่ชั่วร้าย ถ้าเกิดไม่พูดถึงบุคลิกลักษณะนิสัยของเขา ใบหน้าแบบนี้คงทำให้สาวๆหลงใหลไปเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะทรมาน หัวใจของผู้หญิงไปแล้วกี่คน
“ปล่อยฉันนะ…” จารวีตะโกนออกมาด้วยความโมโห “จารวี เธอไปเอาความกล้ามาจากไหนห้ะ เธอมีสิทธิ์อะไรมาต่า ฉัน?” ยศพลลงไปคร่อมจารวี
คนในบ้านพูลสวัสดิ์ไม่มีอะไรดี ไม่มีผู้หญิงในบ้านพูลสวัสดิ์คน ไหนกล้าด่าเขา..จารวีชี้นิ้วมือไปที่ปลายจมูกของยศพล “นายมันห่วย นายมันเป็นขยะสังคม..”
“ไหน เธอลองด่าฉันอีกทีซิ…” ไฟความโกรธของยศพลถูกจุดขึ้น
แล้ว
“คุณมันเป็นเศษสวะ พ่อของคุณก็เป็นเศษสวะ แม่ของคุณก็เป็น เศษสวะ ….อ….”จารวียังพูดไม่ทันจบ ยศพลก็จูบริมฝีปากของเธอ การ จูบที่ยาวนาน ทำให้อากาศปอดของเธอลดไปเรื่อยๆ