จารสักพัก ไม่รู้ว่าทำไมคำพูดของสุรีย์วัลย์ยังวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ
แกคิดที่จะแย่งมนต์ไปจากฉันใช่ไหม!!
เงียบไปสักพัก เอ่อ.. มนต์ไม่ค่อยสะดวก เราคุยกันที่นี่ได้ไหมคะ
เป็นเพราะเขาไม่ยอมให้กับ พบกันใช่ไหม หรือเป็น เพราะเกลียด
นัยน์ตาคล้ำของมนต์ตรีเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ มันไม่ใช่แบบที่พี่มนต์หรอกค่ะ
ทันใดนั้น มนต์ตรีก็เอื้อมมือไปจับมือของเธอ เขาจ้อง เธออย่างไม่วางตา มองพี่สิ ทําไมต้องคอยด้วย วิกลัวว่า จะหรอ! วี พี่ก็แค่อยากมอง แบบ เหมือนเมื่อตอนเด็กๆ
น้ำเสียงของมนต์ตรีร้อนรน ใบหน้าคมคายกลัดกลุ้ม เขาเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถควักหัวใจของตนออกมาให้ ได้
ไปสักพัก ก็ได้ค่ะ ขอโทษนะคะ กลัวว่ามันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของ ”
“เลย ไม่เคยทําอะไรที่กระทบกับชีวิตเลย เป็น เพราะมีวีอยู่ พี่ถึงมีชีวิตอยู่ได้อย่างเต็มอิ่มแบบนี้
บางๆ แล้วจึงเข้าไปนั่งในรถของมนต์
ตัวรถขับเคลื่อนไปยังรอบๆตัวเมืองแล้วจึงขับมุ่งหน้า ไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง
ไม่นานนัก ตัวรถแล่นไปตามแนวทะเล แล้วเข้าไปยังถนนที่มีสองข้างทาง เมื่อขับพันบริเวณเขตออกมา รถเคลื่อนที่วนเวียนไปตามแนวสันเขา
รถแล่นไปอย่างช้าๆ มองเห็นแมกไม้สีเขียวอยู่ไกลลิบ เสียงนกกระจอก ไพเราะกังวาน ด้งเล็ดลอดเข้ามา ทางหน้าต่างอยู่เป็นระยะ
ทัศนียภาพเขียวขจีของภูเขา สวยงามราวกับม้วนภาพ วาดที่ถูกจับกางออกอยู่ตรงหน้าของเธอ
สุดท้าย ตัวรถหยุดลงตรงสันเขา มนต์ตรีจูงมือของจาร
ออกมา
เขาทั้งสองเดินไปตามแนวป่า เดินบันไดไม้ สวยงามและสงบเงียบ เมื่อเดินมาเรื่อยๆจนพ้นแมกไม้เขียว
คฤหาสน์ไม้หลังใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างละเอียด งดงามทั้งหลัง ก็ปรากฏแก่สายตาของจาร
คฤหาสน์หลังนี้ เป็นคฤหาสน์วัสดุไม้ ดูเหมือนกับไข่มุก ที่ถูกฝังลงบนหน้าผาที่สูงบนสันเขา ตัวอาคารและภูเขา ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ดูกว้างขวางสะดวกสะบาย เป็น ธรรมชาติ วิเศษเหนือคําบรรยาย
จารวีตะลึงงัน มนต์ตรียื่นมือไปรั้วไม้ให้เปิดออกพลางเอยอย่างเบิกบานใจ 5 เข้ามาล! ”
เดินผ่านห้องโถงใหญ่ของบ้านไม้ชั้นหนึ่งออกไปยัง ห้องนั่งเล่นใหญ่โตนอกบ้าน เหนือศีรษะคือหลังคากระจกใส สามารถปิดเปิดเองได้โดยอัตโนมัติ ตรงกลางของห้องวาง ตกแต่งไว้ด้วยโซฟาตัวยาว เมื่อนั่งอยู่ที่นี่ สามารถมองเห็น ทะเลที่อยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา
นกแขกเต้าสีแดง บินร่อนเล่นลมอยู่บนเนินเขา สีของ
มันสวยงามราวกับเปลวเพลิง
วิวทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้ สามารถทําให้คนตกตะลึง
“5 บ้านหลังนี้ เพิ่ง อมา ตั้งใจสร้างที่ที่โรแมนติกแบบ ให้ วีชอบไหม! ”
สายตาล็ก งของมนต์ตรี บจ้องไปยังจาร อย่างไม่ วางตา เขาค่อยๆดึงมือเล็กของเธอเขาหาตัว จารวีใจเต้น โครมครามราวกับจะทะลุออกมานอกอก
เธอหวั่นไหวเป็นอย่างมาก นี่เป็นบ้านพักตากอากาศ แบบที่เธอใฝ่ฝัน
จารีบหันกลับไป เธออยากจะนําพาหัวใจที่เปี่ยมล้น ไปด้วยความสุข ชื่นชมสถานที่นี่ให้ครบทุกตารางนิ้ว
ที่พักตากอากาศหลังนี้มีสองชั้น นอกจากชั้นแรก จะมี ห้องนั่งเล่นทรงกลมขนาดใหญ่นั้นแล้ว ก็ยังมีห้องอ่านหนังสือ ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องซักผ้า ส่วนด้านนอกคือสวนดอกไม้ ขนาดเล็ก
ด้านในสวนดอกไม้ เต็มไปด้วยดอกกุหลาบเหล่า แซมเปญ สีเหลืองสีชมพูอ่อน บานสะพรั่งอยู่เต็มแปลง กลิ่น หอมหวลลอยอบอวนไปตามลม
นที่สอง คือห้องนอนทรงกลม ตรงกลางมีเตียงนอน ที่หรูหรามีระดับ น้องทั้งห้องถูกประดับตกแต่งอย่างประณีต งดงามด้วยรูปแบบของเจ้าหญิง แม้แต่เตียงนอน หรือ หน้าต่างบานยาวจรดพื้นรอบๆห้อง ก็ล้วนตกแต่งด้วยรูปแบบ ของเจ้าหญิง
สถานที่ที่เป็นกลิ่นอายของสาวน้อยนี้ งดงามราวกับ หลุดเข้าไปในโลกจินตนาการ
นี้ล้วนเป็นสิ่งที่เธอต้องการ
พิมนต์. เขาคือ มนต์ของเธอ เขารู้ว่าเธอชอบอะไร และเข้าใจเธอ เสมอ อีกทั้งยังให้เธอได้ทุกอย่างที่ต้องการ
จารวีถอดรองเท้า ก้าวขาไปเหยียบลงบนพรมขนแกะ ที่อ่อนนุ่ม จากนั้นจึงนั่งลงที่ด้านหน้าของหน้าต่างบานกว้างที่ ยาวจรดพื้น สูดกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ เธอเหม่อมองออก ไปยังทะเลด้านหน้า พลันรู้สึกว่าน้ำตาจะไหลลงมาเสียดื้อๆ
เธอหันตัวกลับมา โผเข้าสู่อ้อมกอดของมนต์ตรี แล้วจึง ปล่อยโฮออกมาอย่างตื้นตันใจ
“พี่มนต์ วีไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะ!
มนต์ตรีโอบกอดร่างบางน่าทะนุถนอมไว้แน่น มือเรียว ยาวของเขาสอดเข้าไปในผมของเธอ พลางสางผมยาวนุ่ม สสวยไปมาอย่างเบามือน้ำเสียงของเขานุ่มนวลราวกับเวทมนตร์ที่ทำให้คนคุ้ม หลง วีไม่ได้ฝันไปซะหน่อย ที่ตั้งใจสร้างที่นี่ให้จริงๆ ก้าว ชอบ ก็อยู่ที่นี่ได้นานเท่าที่อยากอยู่เลยนะ! “
ภายใต้เสื้อผ้าบางๆ กันอยู่ เมื่อร่างกายก่าย่าของเขา รู้สึกถึงร่างกายอันอ่อนนุ่มของเธอ เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง
จารวี..คือผู้หญิงที่เขาเฝ้าฝันมานานหลายปี ในที่สุด ตอนนี้เธอก็มาอยู่ในอ้อมกอดของเขา ราวกับแมวน้อยน่ารัก แสนเขื่อง
หัวใจของเขาก็เต้นระสา
จารวีนิ่งเงียบไปสักพัก พลันเธอก็ถูกเสียงหัวใจที่เต้น รัวเร็วของเขาปลุกให้ตื่นจากภวังค์
เธอกระถดตัวออกจากอ้อมกอดของเขาอย่างตื่น
ตระหนก
นี่เธอกำลังทําอะไร เธออาลัยอาวรณ์อ้อมกอดอัน อบอุ่นของเขางั้นหรอ! ไม่นะ ไม่ได้เด็ดขาด เธอจะทําแบบนี้ ไม่ได้นะจารวี! มนต์เขามีคนของเขาอยู่แล้ว เธอจะเข้าไป ทําลายความสุขของเขาไม่ได้!
“ขอโทษค่ะพี่มนต์ วี”
ใบหน้าเล็กของจารวีนสีแดงระเรื่อ แพขนตางอนที่มี หยดนํ้าตาเกาะอยู่สั่นไหวเล็กน้อย ริมฝีปากแดง มขึ้นราวกับ กลีบกุหลาบนั้น ช่างงดงามดั่งหินโมราที่แสนวิเศษ
มนต์ตรีสําคอแห้งผาก เขาก็เป็นเพียงผู้ชายธรรมดา คนหนึ่งเท่านั้น เขาหันหลังหนีเธออย่างทำตัวไม่ถูก มนต์ตร้ประสานมือเข้าด้วยกันแน่น เขากระแอมไอออกมาอย่างเก้อ เช่น เสียงทุ้มส้นเล็กน้อย เอ่อ. พักก่อนเถอะ เดี๋ยวจะไป ทําอะไรให้ทาน
จาร ตอบรับในลำคอเบาๆ เธอเดินไปรับที่หน้าต่าง ค้นบานกระจกให้เปิดออก เพื่อให้สายลมเย็นๆพัดพาหัวใจที่ กลัดกลุ่มของตนไป
เธอรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่ง
ทําอย่างไร เลือดฝาดสีแดงบนใบหน้าเล็กก็ไม่หายไป
แย่แน่ๆ นี่เธอยังรักพี่มนต์อยู่อีกหรอ!
คนที่เพียบพร้อมทุกอย่างแบบพี่มนต์ ก็ควรจะเหมาะ สมกับผู้หญิง โดดเด่นอย่างสุริยวัลยี
ส่วนคนแบบเธอ ไม่เหมาะสมกับเขาเลยสักนิด มีแต่จะ
ทําให้เขาแปดเปื้อน
ตากลมสักครู่หนึ่ง จารวีจึงเดินลงมาจากชั้นสอง เธอ
รู้สึกชอบที่นี่เข้าอย่างจัง เธอเดินเท้าเปล่าไปตามพื้นพรมที่
อ่อนนุ่ม
ในห้องครัว มนต์ตรีสวมใส่ผ้ากันเปื้อน เขากําลังง่วน อยู่กับการเตรียมอาหาร จาร รู้สึกจุกแน่นอยู่ในอก ผู้ชาย ที่สะอาดสะอ้านแบบเขากําลังลงมือหาอาหารให้เธอด้วย ตนเอง
นี่มันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อยิ่งนัก
เสียที
ไม่นานนัก ก็ยกจานผัดเปรี้ยวหวานซี่โครงหมู ออกมาวางลงบนโต๊ะในห้องนั่งเล่น
จำได้ไหม ตอนเด็กๆ ชอบทานผัดเปรี้ยวหวาน ซี่โครงหมูมากเลยนะ วีชอบแอบมาอยู่บ้าน เพื่อที่จะทานผัด เปรี้ยวหวาน
แอบปิดปากหัวเราะ เธอก็ไม่เข้าใจว่าทําไมตอน ๆตัวเองถึงชอบทานหวาน
เธอว่าอาหารที่บ้าน มนต์นั้นอร่อยทุกอย่าง บางที ที่บ้านตัวเองก็มีอาหารเหล่านั้น แต่พอทานแล้วกลับรู้สึกว่า มันไม่เท่าของบ้าน มนต์
มาชิมดูสิ ว่าชอบไหม! “มนต์ตรีนตะเกียบมาตรงหน้า เธอ พลางส่งสายตาอบอุ่นมาให้
“! จารใช้ตะเกียบคีบซี่โครงหมูขึ้นมาชิ้นหนึ่ง มนต์ เสียงเตือนเบาๆ ระวังร้อนนะ! ”
ความห่วงใยเอาใจของมนต์ตรี ทําให้เบ้าตาของจาร
ร้อนผ่าว
ซี่โครงหมูถูกจนเปื่อย ทั้งเปรี้ยวทั้งหวาน เป็น รสชาติที่อร่อยสําเลิศ พอจารวีได้ทานก็เก็บอาการไว้ไม่ได้
เพื่อหาอาหารให้ถูกปากของจารวี มนต์ตรียอมให้นิ้ว มือขาวสะอาดของตนเปื้อนคราบนํ้ามัน
นอกจากผัดเปรี้ยวหวานซี่โครงหมูแล้ว มนต์ตรียังทำ อีกหลายอย่างทีจารวีชอบทาน ทั้งแอปเปิ้ลหั่นเป็นชิ้น เนื้อ ลิ้นจี่ ซุปมะเขือเทศ
จาร ลงมือท่านอย่างเอร็ดอร่อย
*พีมนต์ สิบปีที่ผ่านมานี้ฟีแอบไปฝึกทําอาหารมาหรือ เปล่าคะ ทําไมอร่อยทุกอย่างเลย
จารเอ่ยปาก อเลียนอย่างข่าขัน
“ฮ่าๆ ก้าวีชอบ เดี๋ยวพี่จะทำให้ทานบ่อยๆนะ
เพียงแค่จารวิชอบ ต่อให้เป็นดาวบนท้องฟ้า เขาก็จะ เต็ดลงมาให้ด้วยตัวเอง
ในสายตาของเขา เธอคือเจ้าหญิงที่เขาให้ความสำคัญ คือหญิงสาวเพียบพร้อมที่จุติลงมา คือทูตสวรรค์ที่งดงาม บริสุทธิ์ สิ่งที่เขาอยากจะทําก็คือปกป้องดูแลเธอให้ดีทั้งชีวิต
ถ้าหากเขายังไม่มีคู่หมั้นก็คงจะดีกว่านี้
แต่ไหนแต่ไรมา สายตาของมนต์ตรีไม่เคยออกห่าง จากจารวีเลยสักครั้ง เขาเฝ้ามองเธอมาแสนนาน
จาร ไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายขนาดนี้มาก่อน เธอกับมนต์ ตรีพูดคุยกันถึงความทรงจำในวัยเด็ก เธอรู้สึกว่าเวลาหนึ่งวัน ผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน จนกระทั่งฟ้าเริ่มมืด มีผู้ชายคนหนึ่ง จูงสนุขตัวโตเดินเข้ามา
“คุณขายครับ คืนนี้จะพักผ่อนที่นี่หรือครับ
“อั้ม วันนี้ปาลก็ไม่ต้องเฝ้ายาม นี่หรอก ทิ้งโจบิไว้ก็พอ” ปาลทั้งสนุขไว้ตามคำเจ้านาย แล้วจึงเดินกลับออกไป
เวลา แสงของพระอาทิตย์ยามอัสดงสะท้อนบนพื้น ผิวน้ำทะเล ทำให้มีสีสันหลากสีสวยงาม จารมองว่าตรงหน้า อย่างตกตะลึง รู้ตัวอีกทีก็รู้สึกเหมือนมีอะไรเลียเข้าที่ฝ่าเท้า เธอส่งเสียงร้องอย่างตกใจ เมื่อก้มลงไปดูจึงพบว่าเป็นสุนัข วสีขาว
มนต์ตร้หัวเราะหลางเดินเข้ามา มัน อโจบิ เป็นหมาที่ ฉลาดมากๆเลยล่ะ! โจบิ เรียกหม่ามี ”
ใจ ส่งเสียงเห่า ‘โฮ่งๆ ตามเขาอย่างแสนรู้
ฮาๆ ดูท่าว่าใจจะชอบวีแล้วล่ะ” มนต์ตรียมพลางหยอก เย้าเจ้าโจ
“นี่แหนะ!
จารวีหยิบตุ๊กตาบนโซฟาโยนไปอีกทางเพื่อหยอกล้อ มใจบ้าง ทุกครั้งทีเธอโยนไป โจบก็จะวิ่งไปคาบมันกลับมา ค้นให้เธออย่างรวดเร็ว
มนต์ตรีจ้องมองสาวน้อยตรงหน้าอย่างตั้งใจ ไม่ว่าเขา
จะมองอย่างไรก็ไม่พอ…
“พี่มนต์เย็นมากแล้ว ต้องกลับแล้วล่ะค่ะ!”
จารวี มพลางเอ่ย โจ ยังคงงับเข้า ชายกระโปรงของ เธอ เพราะยังอยากให้เธอเล่นกับมันอยู่
มนต์ตรี พนิ่งไม่ขยับ “วี คืนนี้นอน นี่เถอะ โจบีชอบวี
มากเลย
ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสอง จารวีคิดว่าอย่างไรก็ดูไม่เหมาะสม
“ไม่ได้หรอกค่ะ มนต์ เดี่ยวไว้วันหลังค่อยมาใหม่นะ
มนต์ตรี นมือออกไปดึงเธอเข้ามากอดอย่างฉับพลัน เขากอดเธอไว้แนบแน่น
“วี อย่าเพิ่งกลับเลยนะ นอนค้างแค่คืนเดียวเอง พี่สัญญา ว่าพี่จะไม่รังแก !
สิบปีแล้ว เขารอเธอมานานถึงสิบปี เพียงแค่ขอเธอคืน เดียว ทั้งยังยอมรับปากว่าจะไม่รังแกเธอ
ใจของจารวีค่อยๆโอนอ่อนตาม ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยาก
อยู่ที่นี่ แต่เธออยู่ไม่ได้
เธอกลัวว่าตัวเองจะถล่าลึกลงไปกับความอ่อนโยนของ มนต์ตรีจนถอนตัวไม่ขึ้น ความรักก็เหมือนยาพิษ มันสามารถ ทําให้คนติดเป็นนิสัย ทําให้คนไม่สามารถยับยั้งความ ต้องการได้ มันสามารถทําให้คนเป้นบ้า…
และยิ่งน่ากลัวไปกว่านั้นก็คือ… ตอนนี้เธออยากจะอยู่ที่ นมากๆ เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ เต็มไปด้วยความน่าหลงใหล แทนที่เธอจะปฏิเสธเขา แต่กลับ ถกเถียงกับหัวใจตัวเอง
เขาวิงวอนเอ่ยออกมาที่ข้างใบหูของเธอ “แค่คืนนี้คืน เดียวนะวิ! อยากดูดาว ดูพระอาทิตย์ขึ้นกับวี คําขอ ของ พี่มันเกินไปหรือเปล่า ถ้าพ้นจากวันนี้ไป พวกเราอาจจะไม่มี โอกาสแบบนี้อีกแล้วนะ!
จากใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธ การได้ดูดาว ดู พระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน เป็นโอกาสหนึ่งเดียวของชีวิต
คนที่เธอรอมาถึงสิบปี เธอไม่มีวิธีที่จะปฏิเสธเขา
เนิ่นนาน จารวีหมุนตัวหันหลังให้เขา เธอยิ้มพลาง ยัก หน้า “ค่ะ วีอยู่ก็ได้ แค่คืนเดียวนะคะ! “
ครั้งนี้เธอยอมที่จะเสี่ยง ต่อให้พรุ่งนี้ดวงอาทิตย์ไม่ขึ้น เธอก็ยังอยากจะอยู่กับ มนต์…