ยศพลอุ้มร่างเล็กของจารวีกลับไปยังคฤหาสน์ของเขา ทั้งร่างของเธออ่อนปวกเปียก สองขาไม่เหลือแม้แต่เรี่ยวแรง จะก้าวเดิน อีกทั้งเสื้อผ้าบนตัวเธอยังถูกยศพล กออกจนไม่ เหลือชิ้นดี ดังนั้น ยศพล เลยต้องน่าเสื้อสูทของตัวเองมาห่อ หุ้มร่างบางไว้ พร้อมกับอุ้มเธอกลับเข้าไปในบ้าน
คนรับใช้ที่เดินผ่านมาเห็น ต่างก็พากันย้มขวยเขินก่อน จะวิ่งจากไป
จารอับอายขายหน้าจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
การที่อยู่กับยศพล เธอต้องเรียนรู้ที่จะเป็นคนหน้าด้าน
หน้าทน
แต่ทว่า ไม่ว่าอย่างไรจารวีก็ยังคงทําไม่ได้อยู่ดี…
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ยศพลอุ่มจาร ไปวางลงบนเตียง
พลางห่มผ้าให้เธอ
“พักผ่อนให้เต็มที่ล่ะ เธออยู่ที่นี่แค่ครึ่งเดือน เพราะฉะนั้น ก็ ทำตัวอยู่ให้ในกรอบ แล้วก็เชื่อฟังฉันหน่อย”
นัยน์ตาด่าขลับของยศพลจ้องมองมายังจารวี พลาง
เอยอย่างเย็นชา
จารวีไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เธอเพียงแค่กระชับผ้าห่ม ให้แน่นขึ้น รู้สึกว่าตัวเองก็เหนื่อยมากแล้วจริงๆ เพราะตอนที อยู่บนรถ ยศพลแทะโลมเธอถึงสามชั่วโมงกว่า
จนเธอแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว แต่เขากลับดูไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
ผู้ชายคนนี้นี่แท้จริงแล้วสภาพร่างกายเขาเป็นยังไงกัน แน่นะ พละกำลังอัด กจนเกินคน…
จารวันอนคิดได้เพียงครู่เดียวก็รู้สึกง่วง เมื่อหัวสัมผัส หมอนเธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราในทันที
ไม่รู้เมื่อไรที่จารรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอค่อยๆเปิดเปลือก ตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ คิดไม่ถึงว่าจะเห็นยศพลตร้อมอยู่บน ตัวเธออีกครา
การเผชิญหน้ากันอย่างฉับพลันโดยที่ร่างกายของเธอ ยังคงเปลือยเปล่า ทำให้จารวีรู้สึกกระดากอาย
เธอหยิบผ้าห่มมาคลุมสรีระ อรชรอ้อนแอ้นของตน
อย่างเร่งรีบ
ยศพลมองเธอพลางฉีกยิ้มอย่างเย้ยหยัน “ยังจะปิด อะไรอีก ทั้งตัวเธอมีตรงไหนที่ฉันยังไม่เห็นหรือไง”
“นี่! คุณไม่ถือโอกาสทําเรื่องลามกแบบนี้ตอนฉันหลับไม่ ได้หรือยังไง” เธอเอ่ยด้วยความเขินอาย ใบหน้าเล็กขึ้นสีแดง ระเรื่อ
ยศพลมองเธออย่างข่าขันอยู่ในหี เห็นอยู่ชัดๆว่าเธอ เป็นคนร้องละเมอด้วยน้ำเสียงแปลกๆก่อน เขาก็เลยรีบวิ่ง จากห้องหนังสือออกมาดู นึกว่าเธอกำลังส่งสัญญาณอะไรให้
ไม่คิดว่าพอเขาก้มลงคร้อมเธอเพื่อจะฟังให้ชัดๆ เธอ กลับลืมตาตื่นขึ้นมาซะนี่
ทั้งยังกล่าวหาว่าเขาจะถือโอกาสลักหลับเธออีก หญิงคนนี้เปลี่ยนไปรักศักดิ์ศรีขนาดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ลบกมือลูบคลำทางแก้มของเธอ พลางเอ่ย เสียงต่ำ “แล้วที่เธอไปอยู่กับไอ้คนวัดบนเรือนั้นตั้งหลายวัน เธอไม่คิดว่ามันจะพิศวาสในตัวเธอสักหน่อยหรอ
จากรูปร่างหน้าตาอ่อนหวานงดงาม ไม่ว่าผู้ชายคน ไหนที่ได้เจอเธอก็สามารถเก็บไปเพ้อฝันได้
เหมือนกับตอนที่ยกพลไปบ้านพูลสวัสดิ์เพียงครั้งแรก เขาก็ลุ่มหลงในตัวของหญิงสาวคนนี้ซะแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้น เขาก็คงหาเหตุผลที่ จะทำให้เธอมาอยู่กับเขาไม่ได้
ยศพลคิดมาถึงตรงนี้ ก็รู้สึกพอใจในการตัดสินใจของ คนในคราวนั้น ไม่เช่นนั้น ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้คงไม่มีทางตก เป็นของเรา
จารวีจ้องมองเขา พลางยกสองมือเล็กขึ้นบ็คบ็อง อ ร้านการกระทํานั้น
ยศพล คุณอย่าเอาความคิดสกปรกๆของตัวเองมา
ตัดสินคนอื่นนะ”
พอใจ
ศพลหยุดการกระทำลง เขาจ้องมองจารอย่างไม่
“ฉันสกปรกงั้นหรอ งั้นไอ้ตนวัตมันไม่สกปรกหรือไง! มัน ฆ่าคนตั้งยี่สิบกว่าคน เป็นผู้ร้ายข้ามชาติ ทําความผิดร้าย แรง ที่เธอปกป้องมันขนาดนี้ เพราะหลงรักมันแล้วละสิ
จารวีเอื้อมือขึ้นมา ด้วยหวังจะตบเข้าไปที่ใบหน้าของ
เขา
แต่ยศพลเร็วกว่า เขาคว้าข้อมือของเธอไว้ พลางเชีย อย่างเหยียดหยาม “ฉันพูดถูกสะส”
โยคพล ไอ้เลว! ตอนนั้นตนวัดเขาบาดเจ็บจนแทบจะตาย เขาไม่เหลือเรี่ยวแรงอะไรแล้ว แต่ก็ยังมีแก่ใจจะช่วยฉัน”
ว่าไงนะ บาดเจ็บงั้นหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ข้อมือของเขาโดนระเบิดจนแทบจะขาดออก จากกัน ส่วนหลังก็มีแต่รอยมีด ทั้งตัวของเขา แต่บาดแผล เยาสลบไป…แล้วเธอช่วยมันงั้นหรอ” ยศพลโพล่งขึ้นมา
“ใช่ ฉันเป็นคนช่วยเขา แล้วมันยังไงล่ะ!!”
เธอรู้ไหมว่าการมีน้ำใจที่เอ่อล้นของเธอมันจะไปทําร้าย ใครอีกบ้าง มันเป็นนักโทษทีนานาชาติประกาศจบเลยนะ ไม่ คิดเลยว่าเธอ…
จาร ใจลอยสักพัก “ฉันจะไปรู้ได้ไง ฉันไม่รู้จักเขา ฉัน เห็นเพียงแค่ว่าเขากำลังจะตายก็เลยอยากช่วย มันก็แค่นี้เอง! ขวิตฉันเขาก็เป็นคนช่วย ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะทําเรื่องไม่ต้ อะไรมา เขาช่วยฉันฉันก็ต้องตอบแทนสิ!
บศพ โกรธจนหน้าแดงก๋า เขาบีบแก้มพลางยอกย้อน เธอ “แล้วฉันล่ะ! ฉันช่วยเธอไว้ตั้งหลายครั้ง ทําไมไม่คิดจะ ตอบแทนฉันบ้าง!!”
ใช่แล้ว เขาช่วยเธอไว้ตั้งหลายครั้ง แต่เธอไม่เคย แม้แต่จะเอ่ยถึงเรื่องทดแทนบุญคุณท
ย้ยผู้หญิงบ้าคนนี้ เธอท่าด้กับทุกคนยกเว้นเขา
พลติดมาถึงตรงนี้ บันดาลโทสะ เขามาเรียวเล็ก ของจาก แยกออกจากกัน พลางบดเบียดแท่ง ยาของตัว เองเข้าใส่กลีบดอกไม้นุ่มหยุ่นของเธออย่างรุนแรง
จารวีเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด เธอขมาด พลางตะโกน ออกมา เจ๊บ!!”
ในใจของยศพลเต็มไปด้วยโทสะ จึงท่าการกระทําที่ป่า เถื่อนใส่เธอ จารหดตัวเข้าหากัน น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย
ครึ่งเดือน..เวลาเพียงครึ่งเดือน แต่เธอกลับรู้สึกว่า แต่ละนาทีที่แสนทรมานนี้ ผ่านไปข้าราวกับศตวรรษ
เมื่อยศพลเห็นว่าน้ำตาเธอไหลออกมา เขาก็หยุดชะงัก
การกระทําลง
เขาถอยออกไปจากตัวเธอ พลางก้าวลงจากเตียงแล้ว เดินตรงไปยังห้องน้ำทันที
จารเบิกตาโพลงอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง นี่
เขายอมปล่อยเธองั้นหรอ..
ที่เย็นเฉียบไหลไปตามร่างกายกํายาของยศพล ทําให้ไฟแห่งความปรารถนาของเขาด มอด
เขาไม่ชอบเห็นสภาพที่น่าเวทนาแบบนั้นของเธอ เธอ ทุกข์ทรมานขนาดนั้นเลยหรอ เธอไม่ชอบที่จะได้รับความรัก จากเขาขนาดนั้นเลยหรือไง..
ยัยผู้หญิงบ้าคนนี้ ต้องให้เขาทำยังไงหรอ เธอถึงจะรักเข
ศพอพ้นผ่าเข่อ พลางก้าวออกมาจากห้องน้า ผม ของเขายุ่งเหยิง นัยน์ตา งดงมีประกายความเย็น ด เหมือนยังคงโกรธอยู่
จาร รู้ว่าเธอ าโมโหเขาอีกแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากทํา เรื่องพรรค์นั้นกับเขาจริงๆ
เธอรีบลงจากเตียง เดินไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้ว
พูดปดแก่เขา
“ฉันรู้สึกไม่สบาย ถ้างั้นคืนนี้ค่อย…..
ยศพลยืนเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่หน้ากระจก เขาเอ่ยอยาก เยือกเย็น เธอคิดว่าฉันต้องการค่าปลอบใจกับความเห็นอก เห็นใจจากเธองั้นหรอ” คําพูดของเขาบ่งบอกถึงความประชด ประชัน
“เอ่อ” จารวิโต้ตอบเขาอย่างโง่เขลา
“ฟังฉันให้ดี อีกสักพักลงไปกินข้าว แล้วก็มาเปลี่ยนชุด เธอต้องไปบริษัทกับฉัน”
“อะไรนะ!”
“เธออยากหางานทําไมใช่หรือไง บริษัทฉันมีตำแหน่ง…
“ฉันไม่อยากเข้าไปโดยใช้เส้นสายของคุณ” จารวีโพล่ง ออกไปโดยไม่รอให้ยศพลพูดจบ
เธอไม่อยากพึ่งพิงเขา ยิ่งอยู่ห่างเขาได้เท่าไรยิ่งดี ถ้าหากครึ่งเดือน สั้นสุดลง เธอไม่มีทางเอาตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาอีกอย่าง มาด
ยศพลจิคเนคไทของตัวเองให้เข้าที่ ดวงตาของเขา ส่อแววเสียดสี เต๊กกะโปโลแบบเธอจะเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีไป เพื่ออะไรกัน
“เธอไปเดินเตร็ดเตร่ ศูนย์รับสมัครงานทั้งหลายวัน ขนาดนั้นยังไม่ได้งานสักงาน หรือเธอคิดจะไปหางานจากไอ แว่นที่ลวนลามเธอวันนั้นกันล่ะ”
จาร หน้าแดง เธอกัตริมฝีปากล่างเบาๆ ดวงตาใสแจ๋ว บไหว นี่ คุณสะกดรอยตามฉันหรอ
“ก็ใช่น่ะสิ! ถ้าฉันไม่สะกดรอยตามเธอ เธอจะมายืนอยู่ ตรง หรอ เธออาจจะโดนผู้ชายสักคนหลอกไปขาย ป่าดง ดิบแล้วก็ได้ เหอะ! ยัยเด็กไม่รู้จักบุญคุณ”
เมื่อยศพลสวมชุดสูทเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกไปข้าง
“ฟังฉันให้ดี ถ้าเธอไม่อยู่บ้านเฉยๆ ก็ไปบริษัทกับฉัน”
จารสกัดริมฝีปากล่าง พยายามระงับอารมณ์ เธอเดิน ตามเขาออกไป ” คุณ!”
ร่างสูงของยศพลหันกลับมาอย่างเร่งรีบ พลางจ้องมอง เธออย่างหงุดหงิด “พูดมา”
“ฉันจะไปบริษัทกับคุณ แต่ว่า ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้ว่า ฉันเป็นเมียเก็บของคุณ
นอก
เธอนี่มัน ” ความโมโหของเขาประทุขึ้นมาอีกครั้ง การ เป็นผู้หญิงของเขานี่มันทำให้ลำบากใจนักหรือไง!
*นี่ เธอคิดว่าตัวเธอเองเป็นผู้หญิงที่น่าสรรเสริญนักหรือ ไง ฉันก็ไม่อยากให้คนทั้งบริษัทSTกรุ๊ปของฉันรู้เรื่องตลก พรรค์นั้นหรอก”
คําพูดดูถูกเหยียดหยามของ ศพล กลับทําให้จาร ม ออกมาอย่างพอใจ
เธอกินข้าวเช้าเสร็จแล้วก็ไปที่บริษัทSTกรุ๊ป รอ สัมภาษณ์งานกับทัศนีย์เองแล้วกัน”
ยศพลพูดจบก็หมุนตัวเดินจากไป
จาร เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความกลัดกลุ้มใจ พลันน้าอาม ยกถาดอาหารเข้ามาให้เธอในห้องนอน
“คุณจารวีคะ คุณชายกําชับว่าคุณจารวีต้องทานให้ เยอะๆนะคะ
“โอเคค่ะ! น้าอาม”
นมสดอุ่นๆหนึ่งแก้ว เสต็กเนื้อวัวกับไข่ดาวที่ปรุงสุก แล้ว ทั้งยังมีโจ๊กที่ต้มจนหอมกรุ่น จารวีทานเสร็จอย่างรีบร้อน พลางก้าวออกจากบ้าน
บริษัทSTกรุ๊ปจํากัด ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองS ที่มี กิจการพาณิชย์เฟื่องฟูที่สุด จารวียืนอยู่ด้านหน้าของตึกสูง ชะรูตระฟ้าที่ทั้งหรูหราทั้งมีระดับ จนเธออดไม่ได้ที่จะแหงน หน้าขึ้นเบบขม
พนักงานรักษาความปลอดภัยที่หน้าประตูใหญ่ แต่ง เครื่องแบบประณีดเรียบร้อย ตอนนี้เป็นเวลาเข้างานพอดี จึงมีพนักงานจำนวนมาก เดินเข้าออกบริษัทกันอย่างไม่ขาด
เมื่อตอนทีจารยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เธอก็เคย ได้ยินว่าบริษัท กรุ๊ป คือบริษัทที่ดีที่สุดในเมือง เงิน เค้อนตี สวัสดิการพนักงานก็ดี บริษัทST กรุ๊ป เลยเป็นบริษัท ที่เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอล้วนใฝ่ฝัน
จาร รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่รู้ว่าตัวเองจะเอาอะไรไป
สัมภาษณ์งาน
เธอลังเลอยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจเดินเข้าไปยังห้อง โถงโอ่อ่าหรูหราของบริษัท เธอยิ้มน้อยๆพลางเดินไปยังเคาท์ เตอร์
ที่หน้าเคาท์เตอร์มีพนักนักงานต้อนรับหญิงสาวที่สวย
มากๆคนหนึ่ง รูปร่างของเธอผอมเพรียว รอย มงดงามดูโอบ อ้อมอารี เธอกําลังพูดคุยอยู่กับคนต่างชาติ อย่างทียศพลพูดไว้ไม่ผิดเลย จารวีนั้นเทียบอะไรกับ
คนในบริษัทSTกรุ๊ปไม่ได้เลยสักนิด แม้แต่พนักงานต้อนรับที่
เคาท์เตอร์ก็ยังดูโดดเด่นกว่าเธอเสียอีก
จาร รอพนักงานสาวสวยเจรจากับลูกค้าให้เสร็จอย่าง เงียบเชียบ ความมั่นใจของเธอค่อยๆมลายหายไปจนเหลือ แต่ฝุ่นผง
“คุณผู้หญิงคะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมคะ” พนักงาน อนรับสาวสวยเดินเข้ามาหาพลางยิ้มให้
จารลุกขึ้นยืนอย่างรีบร้อน เอ่อ ฉันมาหาคุณทัศ
นิยนะค่ะ ไม่ทราบว่าเธออยู่ไหมคะ”
อ่อ คุณต้องการเข้าพบคุณผู้ช่วยทัศนีย์ใช่ไหมคะ เดี๋ยว ดิฉันสอบถามให้นะคะ ไม่ทราบว่าคุณ ออะไรคะ
ฉันชื่อจาระ”
*โอเคค่ะ รอสักครู่นะคะ
หลังจากพนักงานต้อนรับสาวสวยก โทรศัพท์ เรียบร้อยแล้ว ก็หันกลับมาหาพลางเอ่ยกับจารด้วยรอยยิ้ม “คุณผู้ช่วยทัศน์ กำลังประชุมอยู่ค่ะ คุณต้องรอประมาณ สามสิบนาทีถึงจะเข้าพบเธอได้คะ”
“อ๋อ โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“กรุณารอที่ห้องรับรองทางด้านโน้นสักครู่นะคะ”
พนักงานต้อนรับสาวนาจารวีไปยังห้องรับแขกอย่าง
สภาพ
จาร ผ่อนลมหายใจยาวๆออกมา เธอรู้สึกเป็นกังวัลยิ่ง นัก ตำแหน่งของคุณทัศนีย์คือผู้ช่วย คงจะเป็นผู้ช่วยผู้บริหาร เป็นแน่
จารวีเคยเจอคุณทัศนีย์หลายครั้ง เธอเป็นผู้หญิงที่ ฉลาด มากล้นไปด้วยความสามารถ การที่เธอสามารถทํางาน อยู่ข้างกายยศพลได้นั้น ความสามารถของเธอคงจะไม่ ธรรมดา
ไหนยังจะต้องรับนิสัยเฉพาะตัวที่ขี้โมโหร้ายของยศพลให้ได้อีก คงจะไม่ง่ายเลยจริงๆ
จารนั่งรอที่ห้องรับแขกถึงครึ่งชั่วโมง แต่ยังไม่มีวี่แวว ทัศน์ จะออกมาพบเธอ พนักงานต้อนรับสาวสวยคนนี้น ก็กำลังรับแขกอย่างต่อเนื่อง เธอไม่กล้าที่จะเข้าไปรบกวน สุดท้ายก็เลยต้องนั่งรอต่อไป
เธอกัดฟันอดทนรออีกครึ่งชั่วโมง แต่ก็ยังไม่เห็นแม้เง
ของทัศนีย์
จาร ตัดสินใจลุกขึ้นยืน เตรียมตัวเดินไปถามพนักงาน
สาวสวยคน น
เมื่อเธอเดินออกมาถึงห้องโถงใหญ่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ของคนจํานวนหนึ่งดังมาจากที่ไกลๆ
จาร หมุนตัวกลับไปมอง
ก็พบเงาค่าของกลุ่มคนจํานวนมาก กำลังเดินออกมาจา กลิฟท์ทางด้านซ้าย คนกลุ่มนั้นเดินล้อมรอบหนึ่งร่างสูงใหญ่ ทีสง่าผ่าเผย พลางเดินตรงมาทางทีเธอยืน
เขาคนนั้นก็คือยศพล..ชทสูทเนียบสีดำสนิท เผยให้ เห็นความดื้อรั้นหัวแข็งของผู้สวมใสอย่างชัดเจน ใบหน้าหล่อ เหลาคมเข้ม ดวงตาสีดำสนิททอประกาย สองมือล้วงอยู่ใน กระเป้ากางเกง เขากวาดสายตามายังจาร เพียงแวบเดียว แล้วจึงเดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คุณ รณพยายามพูดอะไรบางอย่างอยู่ข้างๆเขาไม่ หยุดยศพลหมุนตัวกลับมาอย่างฉับพลัน เขายื่นมือไปหยิบ เอกสารในมือผู้จัดการส่วนตัวฟาดไปตรงหน้าของตีรณ พลางเอ่ยเสียงต่ำ “ฟังฉันให้ดีนะ ถ้าแผนกออกแบบยังหาทางออกไม่ได้ล่ะก็ ตำแหน่งผู้ตรวจการของนาย ไม่ต้องทํา
มันแล้ว!”
เอกสารร่วงลงที่ปลายเท้าของจารวี ห้องโถงทั้งห้องตก
อยู่ในความเงียบ
หัวใจของจาร เต้นโครมคราม