จารวีจ้องมองผู้หญิงคนนั้นสักพัก รู้สึกว่าหุ้นมาก แต่ เป็นเพราะว่าเธอสวมแว่น บดบังใบหน้า จารวีก็เลยไม่แน่ใจ ว่าเธอคือใคร
เมื่อเธอเห็นว่าคุณพ่อเดินเข้ามาใกล้ถึงแล้ว เธอจึงรีบ ร้อนหมุนตัวกลับไป พลางเดินทะลุไปยังด้านหน้าของเธอค้น อื่น ทั้งยังเดินทะลุเข้าไปในช่องทางเดินรถ
หัวใจของเธอเต้นระสา มิน่าล่ะคุณพ่อถึงไม่รับ โทรศัพท์เธอ ที่แท้ก็นัดกับคนรักของตนไว้นี่เอง
จารวียืนอยู่ที่ข้างตัวรถ เธอกตริมฝีปากล่าง พลันนํ้าตา ก็ค่อยๆไหลลงมา
คิดๆดูแล้ว ตลอดเวลาสิบปีมานี้ที่คุณพ่อไม่กลับมา บางทีอาจเป็นเพราะผู้หญิงคนอื่น ทําไมก่อนหน้านี้เธอไม่เคย คิดถึงเรื่องนี้เลยนะ นอกจากเหตุผลนี้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ ทําให้คุณพ่อไม่กลับบ้าน
โง่มากเลยจารวี เธอมันโง่! เรื่องแค่นี้ทำไมถึงคิดไม่ได้
หัวใจของจารวีค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวัง
5 ร้องไห้ทําไมหรอ? ”
ไม่ง่ายเลยทีมนต์ตรีจะหาที่จอดรถได้ เขาออกมาเดิน ตามหาลารอยู่นานสองนานถึงหาเจอ เมื่อเห็นจารวีร้องไห้ พลันหัวใจของเขาก็เจ็บปวด เขายื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้
ละเธอเบาๆ
กลัวที่จะเจอกลับแม่ของพี่หรอ ถ้างั้น เราคิดก่อนก็ได้นะ รอให้อารมณ์ของวีมั่นคงก่อนแล้วค่อยไปพบท่านดีไหม”
ตอนนี้จารวีก็ไม่มีอารมณ์ที่จะไปพบคุณน้านารีย์แล้ว เธอพยักหน้ารับเบาๆ อารมณ์ของเธอตกต่าอย่างถึงที
ลด
กลัวว่าสภาพแบบ ของวี จะทําให้คุณน้านารีย์ไม่ ชอบ พวกเรากลับกันก่อนเถอะนะคะ”
มนต์ตรีตอบตกลงเธออย่างห่วงใย “ถ้างั้น เราไปอยู่ที่ บ้านพักตากอากาศกันสักวันไหม ที่นั่นบรรยากาศดี สามารถ ทําให้วีผ่อนคลายขึ้นมาได้นะ”
ในใจของจาร สับสน เธอไม่ได้คัดค่นข้อเสนอของ มนต์ตรี “โอเคค่ะ”
เพียงไม่นาน รถก็พาจารวีแล่นออกนอกตัวเมือง มุ่ง หน้าไปยังเขตป่าไม้ที่เขียวขจี
แมกไม้สีเขียวเต็มๆตา ทําให้จิตใจของเธอดีขึ้นมาก
ไม่นานนัก เธอก็ลืมเรื่องทุกข์ใจนั้นไป
จารวีเพิ่งจะเดินเข้าไปถึงบันไดที่ด้านหลังของบ้านพัก ตากอากาศ พลันก็มีเงาสีขาวโผเข้ามาใส อีกนิดก็ชนจารวีลม แล้ว ร่างบางของเธอโงนเงนไปมา โชคดีที่มนต์ตรีอยู่ที่ด้าน หลังของเธอ เขาจึงใช้แรงรองรับร่างบางไว้
โจงเป็นสุนัขพันธ์ใหญ่ แรงก็เยอะ มันชอบจารมมาก ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่ที่ข้างกายของเธอ ทั้งยังเสียขากางเกง ของเธอไม่หยุด จารวีหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เธอคุกเข่าลง พลางลูบขนนุ่มนิ่มของมัน “คิดถึงฉันหรือเปล่าฮะ? โจบิ
มนต์ตรีถอดเสื้อสูทวางพาดไว้บนแขนข้างหนึ่ง เขา มองดูจาร หยอกเล่นกับโจบิอย่างอารมณ์ดี ทั้งคนทั้งสุนัข เล่นวิ่งไล่จับกัน จนกระทั่งวิ่งเข้าไปยังห้องรับแขกกลางแจ้ง จารวีถอดรองเท้าออกพลางกระโดดขึ้นโซฟา
โจไล่ตามไป พลางเลียไปที่เท้าเล็กๆของเธอ
มนต์ตรียมทั้งใบหน้า
จารวีกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน มนต์ตรีจึงหยิบกระเป๋า เป้ของเธอขึ้นมาให้ โทรศัพท์ที่ด้านในกำลังส่งเสียงดัง
“โทรศัพท์ของ …”
“อ๋อ” จารวีรับกระเป๋ามาถือไว้ เธอรูดซิปออกแล้วจึง ดวกโทรศัพท์ออกมา
บนหน้าจอโชว์เบอร์ของผู้เป็นพ่อไว้อย่างชัดเจน เธอ ลังเลสักพัก จึงกดรับโทรศัพท์
“ค่ะคุณพ่อ”
วี วีอยู่ไหนหรอลูก วันนี้พ่อมีธุระเลยไม่ได้รับโทรศัพท์ วี โทรหาพ่อมีอะไรหรือเปล่า” จารวีเงียบไปสักพัก สายตามอง ไปข้างหน้า แล้วจึงเอ่ยออกไปเบาๆ “เมื่อวานคุณพ่อพูดอะไร กับ มนต์หรอคะ”
จริงๆแล้วสิ่งที่เธออยากจะถามไปใช้เรือน เธออยากไ รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร เธออยากรู้ว่าทําไมคุณพ่อตั้งไปอยู่ กับผู้หญิงคนนั้นได้
“อ่อ พ่อทําไปก็เพื่อวีนะ ตอนนี้ยังเด็ก ยังไม่ถึงเวลาที่จะ
มีความรัก”
“วีเด็กหรอคะ จะยี่สิบอยู่แล้วนะคะ
“ยี่สิบก็ถือว่าเด็ก!! “น้าเสียงของชยรพแข็งกร้าวขึ้น
มาทันที
“อ้อ งั้นแสดงว่าต้องอายุเท่าคุณพ่อสินะคะ ถึงจะเหมาะ กับการมีความรัก! “จารวีจงใจพูดเสียดแทง
ซยรพไม่คิดว่าจารวีจะพูดจากับเขาแบบนี้ เขาตะลึงงัน
“วี ลูกอยู่ไหน พ่อจะไปรับลูกกลับบ้าน มีเรื่องอะไรก็มา คุยกันที่บ้าน”
“คุณพ่อคะ การอยู่ของ มันเป็นอุปสรรคต่อการชีวิตของ พ่อใช่ไหมคะ?”
“วี นี่ลูกกำลังพูดเรื่องอะไร วีเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อ จะกีดขวางชีวิตพ่อได้ยังไง
“มันไม่ใช่เรื่องสําคัญหรอกค่ะคุณพ่อ ตอนนี้วีโตแล้ว ไม่ ใช้เด็กๆที่สั่งให้ทําอะไรก็ทำตาม คุณพ่อไม่ต้องใช้คำพูดที่ สวยหรูมาหลอกวีหรอกค่ะ วีอยากรู้เรื่องจริง” จารวีถือโอกาส พูดมันออกมาทั้งหมด
หัวใจของเธอเต้นรัวเรา เธอไม่รู้ว่าผลลัพ ของรองน
มันจะออกมาเป็นแบบไหน
เธอรู้ว่าบางทีตัวเองอาจจะกำลังเดิมพันกับอะไรอยู่
รีวิอย่าสงสัยความรักทีพ่อมีต่อ ”
แล้วคุณแม่ล่ะคะ? คุณพ่อ กท่านไหม” จารวีพูดออกมา อย่างจี้จุด ในวันที่คุณแม่เสีย คุณพ่อคงจะไม่ได้อยู่ที่ข้างกาย คุณแม่แน่ๆ แต่คงมัวแต่มีความสุขอยู่ที่ข้างกายผู้หญิงของ คุณพ่อ เธอไม่กล้าคิดว่าคุณพ่อเป็นคนแบบนั้น
‘ กลับมาบ้านก่อนเถอะนะ วีกลับมาคุยกับพ่อที่บ้าน ขยรพพยายามเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนานี้
“คุณพ่อกําลังทําให้เจ็บปวด หลายปีมานี้ ที่คุณพ่อไม่ ปรากฏตัวออกมา ก็เพราะคุณพ่อไม่รักคุณแม่ใช่ไหม คุณพ่อ ไม่ชอบคุณแม่ แล้วก็ไม่ชอบวีด้วย ก็เลยหลบหนีพวกเรามา ตลอด จริงๆแล้วพ่อไม่อยากใช้ชีวิตอยู่กับพวกเรา”
จารวีตื่นเต้นจนจัดลำดับการพูดไม่ถูก น้ำตาของเธอ รินไหลลงมาจากหางตา ฮือ..คุณแม่ คุณแม่ที่น่าสงสาร
ชยรพไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เขาคิดไม่ถึงว่า แค่คืนเดียว ที่เขาไม่กลับบ้าน จารวีจะกลายเป็นคนดื้อรั้นถึงเพียงนี้
นิมนต์ต พูดอะไรเป่าหูเธอกันนะ
ไม่ เป็นไปไม่ได้ มนต์ตรีมันคงไม่โง่ขนาดนี้ เรื่องพวกนี้ เขาปิดบังไว้คนเดียวก็ยังทันจาร หน้า หัวใจของเขา ปวดอย่างถึงที่สุด อยากเขาไปพูดปลอบประโลมเธอ แต่ทว่า เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของเธอกับพ่อ เขาไม่ควรเขาไปยุ่ง
ฟัง”
“บอกวีมาสิ ว่าทั้งหมดทีวีพูดไปมีตรงไหนที่ไม่ถูกบ้าง คุณพ่อมีผู้หญิงอยู่ข้างนอกใช่ไหม” อยากรู้เรื่องนี้ให้ ชัดเจน เขาไม่ชอบการโกหก โดยเฉพาะกับคนที่เธอเชื่อใจ ที่สุดอย่างคุณพ่อ
” พ่อนะ”
“? คุณพ่อไม่ควรพูดนี้กับ คุณพ่อไป อธิบายให้คุณแม่ฟังเถอะ ไม่อยากเห็นหน้าพ่ออีกแล้ว”
จารวีกดวางโทรศัพท์ด้วยอารมณ์โกรธ ในที่สุดคุณพ่อ ก็ยอมรับแล้วว่าคุณพ่อมีผู้หญิงที่นอกบ้าน
ที่บอกว่าต้องไปอยู่ข้างนอกเพราะไม่มีทางเลือกนั้น ล้วนเป็นคําโกหกทั้งเพ นานถึงสิบปีแล้ว ไม่แน่ว่าภายในเวลา สิบปีนี้ คุณพ่ออาจจะมีลูกใหม่ไปหลายคนแล้วก็ได้ แล้วยัง จะกลับมาหาเธอไปเพื่ออะไรกัน
หรือว่าเพราะรู้สึกละอายใจก็เลยอยากจะเติมเต็มส่วน ที่ขาดให้เธองั้นเหรอ?
ไม่ เธอไม่ต้องการ เธอไม่ชอบความรักที่ต้องแบ่งปัน ร่วมกับใคร
** ” มนต์ตรีเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและอ่อนโยน จารอนตาที่เต็มไปด้วยคราบ
มนต์ตรีก้าวยาวๆไปด้านหน้า เขาร้องไห้ ราวกับพายุฝนโหมกระหนําเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
จาร หน้าลงร้องไห้สะอึกสะอื้นกับไหล่กว้างของ
มนต์ตรี
เนิ่นนาน ที่เธอทุรนทุรายอยู่ในอ้อมกอดของกัดริมฝีปากล่าง พลางมองมนต์ตรีอย่างตั้งใจ
มนต์ พวกเราแต่งงานกันให้เร็วที่สุดเลยได้ไหมคะ”
คุณพ่อไม่ชอบให้ฉันอยู่กับมนต์นักใช่ไหม งั้นฉันจะ แต่งงานมันเดี๋ยวนี้เลย ให้มันรู้ไปว่าถ้าไม่มีคุณพ่อแล้ว จะมี ชีวิตต่อไปไม่ได้!
พลันดวงตาของมนต์ตรีก็ทอประกาย แต่ไม่นานนักก็ แปรเปลี่ยนเป็นความกลัดกลุ้ม ถ้าอยากจะแต่งงานกับจริงๆ พี่คงจะดีใจมากแน่ๆ แต่ถ้าเป็นเพราะแค่ต้องการให้คุณ ลุงชยรพโกรธ พี่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยดีนัก การแต่งงานของพวก เราควรจะปรึกษากับท่านให้ดีก่อน พี่ไม่อยากให้การแต่งงาน ของเราทําให้เกิดการอาฆาตพยาบาทจากใคร”
คำพูดของมนต์ตรีอ่อนโยนและถูกต้อง ทุกประโยค ที่เขาพูดออกมาล้วนคิดไตร่ตรองเพื่อจารวี เธอไม่ใช่คนโง่ ทําไมจะดูไม่ออก
หนึ่งก็คือเธออยากจะทำให้คุณพ่อโกรธจริงๆ และอีก อย่างก็คือเธออยากหลุดพ้นจากปีศาจชั่วร้ายอย่างยศพล ถ้า หากเธอแต่งงานกับมนต์ ยศพลคงจะไม่มาตามรังควานเธออีก
ยังไงซะเขาก็เป็นผู้ชายที่มีหน้ามีตาในสังคม ไม่มีความ จําเป็นอะไรที่จะต้องมารังควานผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว
จารวีเอยอย่างตั้งใจ พี่มนต์ พวกเราพรากจากกันตั้ง สิบปี ไม่ยากอยู่ห่างจากพี่มนต์อีกแล้ว วีคิดดีแล้วค่ะเดือน หน้าเราแต่งงานกันเถอะ ต้นเดือนกรกฎา เป็นวันแห่งความรัก โบราณ ของประเทศ วันที่หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าได้โคจร มาเจอกัน เราคงได้รับคําอวยพรที่เปี่ยมล้น
นัยน์ตากลมโตของจาร เต็มไปด้วยการเฝ้ารอคอย อย่างเบิกบาน
มนต์ตรีตื่นเต้นดีอกดีใจเป็นอย่างมาก เขาใช้แรงโอบ กอดจารวีไว้แน่น พลางวิ่งไปรอบๆห้องโถง “วีจะได้เป็นเจ้า สาวแล้ว”
จารวีถูกความสุขสมแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งร่าง หัวใจของ เธอมีความสุขราวกับนกน้อยที่กำลังโผบินขึ้นไปบนฟ้า
ฝันร้ายสิ้นสุดลงแล้ว เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่
“ถ้าเราจัดงานแต่งงานเสร็จแล้ว ไว้เราไปฮันนีมูนที่เกาะ บาหลีกันนะ แล้วก็ไปลงหลักปักฐานอยู่ที่อเมริกา จากนั้นก็มี ลูกกันสักโหลเลยเป็นไง
คุณขายครับ คุณชาย” ปาลวิ่งเข้ามาจากด้านนอก โจบิ ส่งเสียงเห่ากังวาน ราวกับว่ามันกําลังจะบอกว่ามีคนเข้ามา
มนต์ตรีคลายอ้อมกอดจากจารออก “มีอะไรหรอ?”
สายตาของปาลเหลือบมองไปทางเขาไม่พูดจา สีหน้าของมนต์ตรีเคร่งขรึม คุณจารวี ไม่ใช่คนนอก มีอะไรก็ สามารถพูดต่อหน้าเธอได้
“เอ่อ..คุณมานะครับ ” ตอนนี้เธอรออยู่ที่ด้าน นอก ผมกันไว้ยังไงก็ไม่อยู่” คำพูดของปาลยังไม่ทันจบ เสียงบนส้นสูงหนักๆก็ดังเข้ามาจากด้านนอก
เพียงไม่นาน ร่างเพรียวระหงของสุรีย์ปรากฏแก่
สายตา
ตั้งแต่เธอทะเลาะกับมนต์ตรีงานเลี้ยงวันนั้น เธอคิด ว่ามนต์ตรีจะมาง้อเธออย่างอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน แต่คิด ไม่ถึงว่าเธอรอเขามานานถึงครึ่งเดือน จนศีระษะของเธอจะ ขาวอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่มา
ไม่เพียงแต่ไม่มา ทั้งยังมาอยู่กับยัยผู้หญิงหน้าไม่อาย อย่าง
เวลานี้ บนร่างกายของสุรีย์วัลล์ ไม่หลงเหลือท่าทีที่วาง บาตรใหญ่เหมือนแต่ก่อนแล้ว ความรักเธอเกิด ความพ่ายแพ้
เธอยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าที่ขาวบริสุทธิ์ไม่เห็นแม้แต่ เส้นเลือด ดวงตาของเธอคล้ำลงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าไม่ได้ นอนมานาน
เธอพรวดพราดเข้าหามนต์ตรี อย่างไม่สนใจจารวีที่ยืน อยู่ตรงนั้น พลางเอื้อมมือออกไปโอบรอบคอของมนต์ตรี
“มนต์ ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว คุณให้อภัยฉันสักครั้งได้สายตาของปาลเหลือบมองไปทางจาก เข้า มีน จา สีหน้าของมนต์ตรีเคร่งขรึม “คุณจารวี ไม่ใช่คนนอก มีอะไรก็ สามารถพูดต่อหน้าเธอได้
“เออ..คุณสุริย์วัลย์มานะครับ ตอนนี้เธอรออยู่ที่ด้าน นอก ผมกันไว้ยังไงก็กันไม่อยู่” คำพูดของปาลยังไม่ทันจบ เสียงบนส้นสูงหนักๆก็ดังเข้ามาจากด้านนอก
เพียงไม่นาน ร่างเพรียวระหงของสุรีย์วัลลีกีปรากฏแก่
สายตา
ตั้งแต่ที่เธอทะเลาะกับมนต์ตรีที่งานเลี้ยงวันนั้น เธอคิด ว่ามนต์ตรีจะมาง้อเธออย่างอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน แต่คิด ไม่ถึงว่าเธอรอเขามานานถึงครึ่งเดือน จนศีระษะของเธอจะ ขาวอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่มา
ไม่เพียงแต่ไม่มา ทั้งยังมาอยู่กับยัยผู้หญิงหน้าไม่อาย อย่าจจาร
เวลานี้ บนร่างกายของสุรีย์วีลล์ ไม่หลงเหลือท่าทีที่วาง อำนาจบาตรใหญ่เหมือนแต่ก่อนแล้ว ความรักทําให้เธอเกิด ความพ่ายแพ้
เธอยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าที่ขาวบริสุทธิ์ไม่เห็นแม้แต่ เส้นเลือด ดวงตาของเธอคล้ำลงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าไม่ได้ นอนมานาน
เธอพรวดพราดเข้าหามนต์ตรี อย่างไม่สนใจจารวีที่ยืน อยู่ตรงนั้น พลางเอื้อมมือออกไปโอบรอบคอของมนต์ตรี
“มนต์ ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว คุณให้อภัยฉันสักครั้งได้รั”ใหม่”
น้ำเสียงของเธออ่อนโยน น่าตาเอ่อคลอนัยน์ตาสี ส มอนด์ น่าสงสารยิ่งนัก เขาสามารถทําให้ผู้หญิงที่เบ่อหยิ่ง ในศักดิ์ศรีอย่างเธอยอมเป็นฝ่ายมาขอคืนดีกับเขา เป็นอะไร ไม่ง่ายเลย
แต่น่าเสียดาย เธอเดินมาช้าไปหนึ่งก้าว
“มนต์ นึกถึงตอนที่ฉันอยู่ข้างกายคุณมาตั้งหลายปีสิ ให้ โอกาสฉันอีกสักครั้งเถอะนะ”
มนต์ตรีค่อยดีนสรี วัลล่ออกจากอ้อมกอด พลาง น มือไปเช็ดนํ้าตาให้เธอ การกระทําของเขาช่างอ่อนโยน
สิ่งนี้ทําให้สรีชวัลล่คิดไปไกล เธอคิดว่ามนต์ตรียังคง รักเธอเหมือนเมื่อก่อน ที่เธอแกล้งโกรธทีไร เขาก็จะมาขอ คินดีอย่างเอาใจ
“เอ่อพี่มนต์ งั้นวีไปก่อนนะคะ พวกคุณคุยกันตามสบาย
เลยค่ะ”