“เมนต์ เมื่อคืนลำบาก แล้วนะ คุณส่งฉันกลับมารี?”จาร กาม น
ฝั่ง นมนต์นั่งไปพักหนึ่ง
เดิมทีเขาอยากพาจารวีไปโรงพยาบาลตนจากความเมา หน่อย แต่กลับเจอยศพล ครึ่งทาง ยศพลขับรถขวางหน้า เขาเลย
และแล้วเขาอุ้มจาร ไปต่อหน้าเขา อีกทั้งชกเขาไปที หนึ่ง เดือนเขาอย่าคิดจะเอาเปรียบจาร
“ดีๆ ไม่เป็นไร อย่าใส่ใจเลย แต่เรื่องเล็กๆ จากเดิมฉัน
อยากส่งเธอไปโรงพยาบาล แต่ต่อมาเจอยศพลไปก่อน…”
“เขานํามากอะไรคุณไหม?”
“หีไปจารวี เธอน่าจะเข้าใจเขาดี ฉันไม่เป็นไร ฉันแค่ อยากถามตอนนี้เธอเป็นไงบ้าง? ”
“ฉัน ฉันไม่เป็นอะไร พี่มนต์ เขาตีเมนต์ใช่ไหม? บาด เจ็บหรือเปล่า?”จาร สอบถามขึ้นมา
มนต์ตรีบาดเจ็บเพราะเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เธอรู้สึกใจไม่ มาก
มนต์ตรีนิ่งไปแป๊บ ถึงจะตอบด้วยเสียงหัวเราะที่ไม่ ซีเรียส “ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ”
แล้วตอนนี้เธออยู่ไหนครับ? ฉันไปหาเธอ
เมื่อคืนนี้มนต์ตรีเป็นคนเช็คบิล จาร รู้สึกไม่ดี เธอไม่ อยากติดอะไรเขาเลย
และอยากไปดูอาการเขาด้วย พลางอยากคืนเงินที่เขา
จ่ายไปด้วย
“ฉันอยู่โรงพยาบาล…
มนต์ตรีบอกชื่อโรงพยาบาลไปเบาๆ
เสียงฝีเท้าดังขึ้นมากะทันหัน จารวีรีบวางสายลง เงย หน้าเห็นยศพลกำลังถือน้ำแอบเปิ้ลเข้ามาแก้วใหญ่
ยศพลมองมือถือในมือจารวีอย่างสงสัย “ใครโทรมา
ครับ?”
“อ้อ พนักงานบริษัทอ่ะ พวกเขาเป็นห่วงฉัน…”
จารวีลุกขึ้นมา แล้วรับน้ำผลไม้ ยศพลยื่นให้ ดื่มที เตียวจนหมดเกลี้ยง
“ฉันจะไปบริษัทรอบหนึ่ง…
บริษัทไม่มีเธอไม่ล้มละลายหรอก เธออยู่ที่บ้านพักผ่อนดี
ติยะ!
ยศพลพูดด้วยเสียงต่ำ เดิมทีบริษัทนี้เขาให้เธอไว้เล่นๆ
จะไปรู้สึกที่ไหนว่าผู้หญิงคนนี้กลับจัดการบริหารบริษัทที่กําลังก้าวสู่การจะล้มละลายให้มีผลงานขึ้นมาได้
ยศพลจําเป็นต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้มีความสามารถ
ด้านการบริหารธุรกิจเลยทีเดียว
จาร เมื่อล้างหน้าแปรงฟันเสร็จพลางออกมาจากแล้วเริ่มเปลี่ยนชุด ยศพล ไปแนบกับ
ก้มลงจูบริมฝีปากอันเล็กเธอไว้ ดูดกลิ่นยาสีฟันมะลิบน ริมฝีปากเธอไป
และกลิ่น
“ฟังไว้นะ หญิงสาว ผมยศพลไม่ขาดเงินนั้น เธอไม่ต้อง ไปแล้ว วันนี้พักผ่อน
จารวีออก แล้วเริ่มถอดเสื้อ “ไม่ได้ ต้องไป วันนี้มีออร์เดอร์ที่สำคัญ ฉันต้องไปตามเอง ถ้าไม่ได้ ฉันก็จะกลับมาเข้าหน่อย ได้ยังค้า?”
ยศพลมองเธอด้วยสายตามืดมน แล้วนิ่งเฉย
จารจัดเก็บเรียบร้อย เก็บกระเป๋าแล้วเดินออกไป
หันกลับไปมองเขาทีหนึ่ง วันนี้นายไม่ไปบริษัทเหรอ?”
ยศพลเดินเข้ามาก้าวใหญ่ “ไปสายหน่อย ผมส่งเธอไป บริษัทเถอะครับ!
“ไม่เป็นไรๆ คุณประธานยศพล ฉันจะกล้าเสียเวลาอัน คุณได้ไงคะ ดิฉันขับรถไปเองค่ะ”ยศพลน่ารถ Ferrari สีแดงให้จาร เพื่อให้เธอสะดวก
ในการไปทํางาน
จากเดิมยังจัดบอดี้การ์ดให้สองคน ตั้งแต่การล้มเหลว ครั้งที่แล้ว จารวีก็วางใจลงเยอะ เลยไม่ให้บอดี้การ์ดตาม เธอ เพราะจากบ้านไปบริษัทไม่ได้ไกลมาก
ยศพลยืนตรงข้างหน้าต่าง แล้วมองผ่านกระจก
จาร ที่สวมชุดขาวเข้าไปรถสีแดง จากนั้นแล่นรถออก
เธอออกมาอย่างเร่งรีบนัก จนลืมบอกลาเขาไปเลย
วันนี้จารวีมีออเดอน์ที่สำคัญใหญ่จริงๆ แต่เธอจำเป็น ต้องไปพบมนต์ตรีก่อน เพื่อเข้าใจเรื่องเมื่อคืน
รถแล่นผ่านซอยแล้วแล่นไปทางโรงพยาบาล
และตอนนี้พลางมีรถRolls Royce สีดำค่อยๆตามหลัง
เธอมา
จนกว่าร่างชุดขาวลงจากรถ แล้วเดินเข้าประตูโรง
พยาบาล
ดวงตาคู่มืดมนยศพลมีไฟลุกขึ้นมา เหมือนกำลังจะเผา รถจนกลายเป็นซากได้
เขากามมือไว้แน่นแล้วชกไปที่พวงมาลัยแรงๆ
หญิงสาวที่ควรไปตายนัก!ช่างกล้าที่อดจะมาเจออีเวรนี่นัก!!
จารวีพุ่งเข้าห้องผู้ป่วย เห็นมนต์ตรีนอนอยู่บนเตียง บน หัวพันป่าก๊อตไว้ ดูสภาพแล้วน่าจะบาดเจ็บไม่เบา
“พี่มนต์ เจ็บไหม?”จารวีน้ำตาคลอด้วยความกังวลจากใจ
จริง
จาร สวมชุดสีขาวที่ยาวถึงหัวเข่า ครึ่งบนเป็นเสื้อเชิ้ตสี ค่า บวกกับเสื้อคลุมสูตรสีขาว ผมยาวดำธรรมชาติที่หมัด ไว้หลวมๆพลางเอียงไปข้างหนึ่ง
ทั้งคนเต็มไปด้วยความเป็นสุภาพสตรี แต่ใบหน้าหวาน นั้นยังคงดูเด็ก เพราะอายุยังน้อย จะแต่งตัวให้ดูผู้ใหญ่แค่ ไหน ก็ยังดูเป็นวัยรุ่นอยู่ดี
มนต์ตรีมองเธอไว้อึ้ง เหมือนว่าเธอยังเป็นเด็กน้อยในปี
เขาค่อยๆยื่นมือออกไปอยากจับมือเธอไว้โดยไม่รู้ตัว
เสียดาย วินาทีที่แตะต้องนั้น จารวีรีบดึงมือกลับอย่าง
เกรง
เธอรีบเอาเงินสดออกจากกระเป๋า แล้ววางตรงหน้ามนต์ ตรี “มนต์ขออภัยเมื่อคืนให้คุณจ่าย ตอนนี้คืนคุณค่ะ อย่าปฏิเสธนะ”
มนต์ตรียิ้มอย่างลำบาก “จารวี ระหว่างเราต้องทำถึง ขั้นนี้ด้วยเหรอ?”
เอาหล่น ในเมื่อเธอมาแล้ว มีเรื่องหนึ่งฉันอยากบอก เธอ…”
“อะไรอ่ะ?”จาร การขึ้น
มนต์ตรีมองเงินก้อนนั้น สีหน้าไม่ปกติทันที
“เรื่องนี้ต้องขอให้เธออภัยฉันด้วย ครั้งที่แล้วตอนเธอไป ค้างคืนที่บ้านฉัน ฉันเก็บผมเธอที่ล่วงแล้วน่าของผมไปตรวจ ที่โรงพยาบาล”
จาร มองมนต์ตรีอย่างจริงจัง เธอหายใจอย่างลําบาก จริงๆผลนั้นเธอได้คาดเดาไว้แล้ว แต่ในใจยังคงกลัว
“เธออย่าตื่นเต้น… มนต์ตรเลียริมฝีปาก แห้ง มองจาร ที่
ตื่นเต้นแบบนั้น เขาพลางขาออกมา
“ผลที่ตรวจออกมาแล้ว ฉันบอกกับเธอนะ เราไม่มีความ สัมพันธ์สายเลือด ก็หมายความว่า พ่อของฉันไม่ใช่พ่อของ เธอ ชยรพถึงเป็นพ่อแท้ๆเธอ”
จารวีโล่งใจได้ “แล้งไง? เขาไม่ได้ทำบทบาทผู้เป็นพ่อ ฉันไม่อภัยเขาหรอก”
“หึๆ จารวี จริงๆพ่อเธอก็มีความลำบากที่ต้องทำแบบนั้น เขาทําแบบนั้นก็เพราะยศพลทั้งนั้น”
จารวีเลิกคิ้วไว้เล็กน้อย “หมายความว่าไง?”
“จารวี เธออย่าตื่นเต้น ตอนนี้ที่ฉันพูดสิ่งนี้กับเธอ ไม่ได้ อยากบังคับให้เธอเลือกสิ่งที่ตัวเองไม่อยาก ฉันหมายความว่าฉันกับสุริยวัล จะแต่งงานแล้ว ฉันจะรับผิดชอบต่อเขา ฉะนั้นแล้วเธออย่าคิดว่า…
จาร อึ้งไปพัก แล้วส่ายหัวรัวๆ “พี่มนต์ ฉันรู้พี่หวังดีต่อ ฉัน ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็นที่แท้ๆฉัน เราก็ยังจะเป็นเพื่อน ที่ดีที่สุด เพื่อนกันตลอดไป
มนต์ตรีถึงจะพยักหน้าด้วยความเข้าใจบ้าง
จารวีถามต่อไปอีก เมื่อกี้คุณบอกยศพลคือหมายความ ว่ายังไงคะ?”
มนต์ตรีเงียบไว้พอนาน ถึงขาขึ้น “ผมเคยตกลงกับเขา จะไม่พูดเรื่องนี้กับเธอ”
จารวีมีความเศร้าหมอง เหมือนบริเวณหน้าอกแน่นจน ทําให้เธอหายใจไม่สะดวก ” มนต์ พี่กลับรวมหัวกับยศพล มาปิดบังฉัน?คุณ พวกคุณทําเรื่องอะไรไม่ดีกับฉันไปบ้าง แล้ว?”
แต่คำที่ฉันพูดออกมาจะทำให้ความสัมพันธ์พวกเธอแตะ แยกได้
กริยาล่าช้าของมนต์ตรีก็พอทำให้จารวีตื่นเต้นแล้ว เหมือนเธอจะมีซ๊กเบนน์ได้ถึงความกลัวที่ซ้อนไว้กําลังจะ ทับถมลงบนหัว
“ มนต์ บอกฉันมาเถอะ ถ้าพี่คิดว่าจะหวังดีกับฉัน ก็ไม่ ควรรุมหัวกับยศพลมาหลอกฉัน”
จารวีรู้สึกตื่นเต้นมาก เธอจับเสื้อมนต์ตรีไว้แน่น อยากรู้คําตอบมาก ก
ยศพลนั่งอยู่ในรถ ใบหน้าเย็นอย่างภูเขาน้ำแข็ง เวลา ค่อยๆผ่านไปตามวินาที
ยศพลอดจะดูเวลาไม่ได้ ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว จาร ยังไม่ออกมา เธอกำลังทำอะไรกันแน่ ถึงแม้จะมีเพศ สัมพันธ์กันก็คงมีการเข้าไปหลายครั้งแล้ว!
ยศพลเปิดประตูรถออก พลางเดินออกมาอย่างหงุดหงิด
ตรงหน้าประตูโรงพยาบาล ทั้งสองคนกลับเจอหน้ากัน
สีหน้ายศพลแย่มาก และสีหน้าจารวี ไม่ได้ดีเท่าไหร่ เหมือนกัน
“เอาติ เธอเริ่มทํางานบริษัทนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?เปลี่ยนงาน แล้วก็ไม่บอกฉันค่หนึ่ง!”ยศพลพูดประชดประชัน
จารวีมองยศพลด้วยสายตาเย็น นายตามฉันเหรอ?”
คำพูดทั้งสองคนเต็มไปด้วยกลิ่นผงกระเบิดแรงๆ
ยศพลเยาะเย้ยขึ้นมา ใช่ไง ถ้าไม่ตามเธอมาจะรู้เธอ มาบริการใครได้ยังไง?
“ยศพล… “จารวีโมโหจนพูดเสียงสูง มองสายตาคนอื่นที่จับ องมา จารวีรีบหันแล้วเดินออกไป
ยศพลเดินตามหลังเธอไป ยื่นมือจับแขนเธอไว้ จะไปรู้ ได้ไงว่าเร่งฝีเท้าเร็วนัก วิ่งอย่างกับปืนสักงั้น
“จาร เธอแม่งอยากเล่นอะไรอีก เธอจทำไม?”
จาร ไม่พูดอะไร รีบเข้าไปในรถ แล้วสตาร์ทรกออก
ยศพลวิ่งไล่ตามหลังรถไปครึ่งทาง เมื่อเห็นว่าตามไม่ทัน แล้ว เขารีบกลับไปรถตัวเอง แล้วแล่นออกไปทันที
…เรื่องนี้เป็นการแลกเปลี่ยนของยศพลกับพ่อเธอ และ พ่อเธอรับผิดชอบการสร้างกระแสกระจายข่าวลือ เพื่อมา แตกแยะงานแต่งของเรา แบบนี้แล้วเธอถึงมีโอกาสคืนดีกับ ยศพล จารวี เรื่องนี้ฉัยก็พึ่งรู้เหมือนกัน….”คำพูดมนต์ตรีได้ แหลมคมจนกระแทกเข้าหูแล้วจาร แล้ว
หลอกลวง หลอกลวง หลอกลางกันทั้งนั้น คนหนึ่งเป็น พ่อที่เขานับถือมาตั้งแต่เด็ก
คนหนึ่งเป็นพ่อแท้ๆของลูกในท้อง ทั้งสองคนเป็นคนที่ เธอเชื่อใจมากที่สุด และเป็นคนที่รักที่สุด แต่พวกเขากลับ รมหามาหลอกเธอ
คิดว่าเธอเป็นคนโง่กันทั้งนั้นใช่ไหม?
จารวีโมโหแทบแย่ รถเธอไม่ได้เป้าหมายขับไปมั่ว ข้าง หูมีเสียงแตรสาคานที่ดังมา
ในโลกนี้ไม่มีสักคนให้เธอน่าเชื่อถือเลยใช่ไหม?
ยศพลตามติดท้ายรถจารวีไว้แน่น บางทีก็ยื่นหัวออกไป หน้าต่างแล้วตะโกนเรียก
ผู้หญิงคน ขับรถไปเก่งอะไรนัก ยังกล้าขับเร็วแบบ ใน ทนนใหญ่อีก
รถมากมาย ไหลลื่นมาตรงหน้า ช่างอันตรายนัก เขา รีบตะโกนขึ้น “จาร หยุดเดี๋ยวนี้นะ เธอบ้าแล้วเหรอ รีบ จอดรถ…
มองจากที่ไกลนั้น มีถนนเส้นหนึ่งตัดหน้าไป ไม่ปิดกั้น ได้ปล่อยลงมาแล้ว ร่างเงารถไฟกำลังดังและจะตัดเส้นถนน
และจารวีตอนนี้กลับมองไม่เก ยังคงแล่นไปตรงหน้า
พุ่งเข้าไปทางรถไฟ
สมองยศพลตอนนี้ได้ว่างเปล่าหยุดนิ่งไปชั่วคราว