บทที่ 1 หนึ่งคืน(1)
ในห้องชุดที่งดงามหรูหรา มีเพียงแต่เสียงน้ำไหลรินจากภายในห้องน้ำ ไร้วี่แววของเสียงอื่นภายนอก
ประตูถูกเปิดออกด้วยแรงผลัก และมีคนคนหนึ่งเดินโซซัดโซเซเข้ามา
หลินเวยมี่พยายามแกะคอเสื้อกี่เพ้าออก ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยสีแดงก่ำ ดวงตาของเธอก็เบลอมากขึ้น
บ้าจริง! เธอดื่มไวน์ไปเพียงแก้วเดียว ทำไมมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้? หรือว่าไวน์แก้วนั้นมีอะไรผิดปกติ? บ้าจริง!
รู้สึกร้อนขึ้นเรื่อยๆ ไปทั่วทั้งร่างกาย ราวกับว่ามีแมลงไต่ไปมาทั่วทั้งตัว ยากที่จะทน
ร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงพยายามเตะรองเท้าออก เรียวขาขาวที่กึ่งปิดกึ่งเปิดด้วยชายผ้ากี่เพ้าดูงดงามมาก ตัวแดงไปทั้งตัว
เธอพยายามขยับตัวอย่างช้า พร้อมกับดวงตาทั้งคู่ที่ปิดสนิท ปากเล็กๆของเธอเปิดออกเล็กน้อยพร้อมกับลมหายใจที่ร้อนวูบวาบของเธอ
ปกติรูปร่างของเธอก็ดูดีมากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้การที่เธอขยับตัวไปมาช้าๆ อย่างไม่จงใจนี้ราวกับว่าเธอกลายร่างเป็นนางพญางู ทำให้ใครก็อดคิดไม่ได้
เธอเองก็ไม่ได้สังเกตว่า มีเสียงบางอย่างภายในห้อง แววตาที่แหลมคมจากดวงตาคู่หนึ่งกำลังมองมาที่เธออย่างหลงใหล ฉู่เฉินซีจับมุมปากแล้วจับอีก พร้อมกับแสดงรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา
หลินเวยมี่
เหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เธอจึงรีบเปิดตาขึ้นมา พบกับดวงตาสีน้ำตาลแต่เข้มจนไม่เห็นภายในของนัยน์ตา นัยน์ตานี้ราวกับว่ามีพลังเวทมนตร์บางอย่างที่สามารถดึงเธอเข้าไปได้ทั้งตัว ราวกับถูกมนตร์สะกดไว้
ฉู่เฉินซี
ทันใดนั้นเข้าไปสัมผัสดวงตาคู่หนึ่งที่สุกไสว ทนไม่ได้ที่จะขยับเข้าไปใกล้ขึ้น มีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้ แต่ความรู้สึกนี้ก็ไม่เลว
หลินเวยมี่ขมวดคิ้ว เธอยังไม่ทันได้โต้ตอบอะไร ทั้งตัวเธอก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชายคนนั้นแล้ว
“แก… ”
คำถามของเธอยังไม่ทันได้ถูกถามออกมา ก็ถูกขัดขวาง ทำให้เธอต้องเก็บคำถามที่เหลือกลับเข้าไปในท้อง
หลินเวยมี่
ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง วิงเวียนศีรษะ แต่เขากลับยิ่งรุนแรงขึ้น ทำให้เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไง ไม่รู้ว่าควรจะตอบโต้ยังไงดี
ฉู่เฉินซี
รู้สึกได้ถึงความสับสนของเธอ และความรู้สึกนี้ยิ่งทำให้เค้าร้อนรุ่มมากขึ้น จนดึงเสื้อผ้าของเธอออก เพราะก่อนหน้านี้คอเสื้อได้ถูกปลดออกก่อนแล้ว ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงดึงออกให้หมด
เสียงฉีกออกของผ้า เสื้อกี่เพ้าทั้งตัวถูกฉีกออกไปจนถึงเอวของเธอ
ลมหายใจจากคนแปลหน้าคลุมเธอไว้ ลมหายใจอันอบอุ่นนี้ยิ่งทำให้เธอร้อนรนมากขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะชักนำไปที่ไหนดี
“หืม?” ฉู่เฉินซี
เหมือนว่ารับรู้ได้ถึงความผิดปกติของเธอ ก้มศีรษะลงและค่อยๆไล่ จูบเธอเบาๆ จากหน้าไปจนถึงกระดูกไหปลาร้า
พร้อมกับเสียงร้องไห้เบาๆดังเข้ามาที่หู เขาเอามือก็วางบนผิวขาวนวลราวกับผิวเด็กทารกของเธอ แล้วยกเธอขึ้น
หลินเวยมี่
กอดคอของเขาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความพร่ามัว พร้อมกับลมหายใจที่พ่นออกมาอย่างแรง บริเวณที่โดนเขาจับก็ราวกับว่าโดนไฟเผา
เธอก้มศีรษะลงและกัดไปที่คอของเขา และครางด้วยเสียงครวญคราง เธอถูกบังคับให้แนบตัวบนร่างของผู้ชาย ด้วยแรงอย่างหนัก
มีความรู้สึกเสียวซ่าเข้ามาครู่หนึ่ง เธอกรีดร้อง ใช้ปลายนิ้วจิกไปที่คอของเขา
เธอดิ้นรนอยู่สองสามครั้ง แต่ก็ไม่สามารถสะบัดออกจากผู้ชายที่แข็งแรงดุจดังเหล็กคนนี้ได้ดังเช่นเคย
ฉู่เฉินซี
รู้สึกอย่างชัดเจนว่าเขาได้ทำลายสิ่งที่กีดขวางเขาไปแล้วอย่างหนึ่ง ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยประกาย เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของเธอยังคงดังขึ้นข้างๆใบหูของเขา สักพักเธอก็หยุดเคลื่อนไหว แววตาของเขาเป็นประกายอย่างน่าเหลือเชื่อ หลังจากนั้นเขาก็หลีกออกอย่างช้าๆ
หลังจากความเจ็บปวดหายไป ก็กลายเป็นความว่างเปล่า เธอก็ร้องไห้อย่างกระวนกระวาย ขยับตัวขึ้นๆลงๆ คิ้วก็ขมวดแน่นไม่คลาย
ฉู่เฉินซีเจาะทะลุอย่างรุนแรง
เขามองไปบนรอยสักรูปผีเสื้อบนไหล่ของเธอ หลังจากนั้นก้มศีรษะลงกัดไปทีหนึ่ง
ร่างกายของเธอดูเหมือนราวกับว่ามีเวทมนตร์ ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกพิษ ทำยังไงก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองและไม่สามารถหยุดมันได้
เช้ารุ่ง ดวงอาทิตย์ส่องแสงผ่านมายังทางหน้าต่าง หญิงสาวน่ารักผิวขาวเนียนราวกับตุ๊กตากระเบื้องนอนนิ่งสงบ ทันใดนั้นขนตาของเธอขยับเล็กน้อย แล้วลืมตาขึ้นมา
เมื่อมองไปรอบๆห้องที่ไม่คุ้นตา เธอลุกขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ ผ้าห่มเลื่อนลง เธอจ้องมองไปที่รอยช้ำบนร่างกายของเธอ ทำให้ความทรงจำของเธอเมื่อคืนถูกรื้อฟื้นขึ้นมาทีเล็กทีละน้อย
จากใบหน้าที่แสดงความตกใจค่อยๆเปลี่ยนเป็นความเขินอาย ใบหน้าเล็กๆนี้ค่อยๆกลายเป็นสีแดง ราวกับลูกแอปเปิ้ล
แต่ว่า เหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติ ผู้ชายคนเมื่อคืนเป็นใคร?
“แชะ” เสียงไฟแช็กดังขึ้นมา หลินเวยมี่จึงได้รู้ว่าในห้องยังมีคนอื่นอีก
เธอหันศีรษะไปทางโซฟาที่ไม่ไกลจากเธอนัก พบกับแววตาสีน้ำตาลเข้ม
เขามีผมสีน้ำตาลเช่นเดียวกันกับนัยน์ตาของเขา แววตาเจ้าชู้ที่ชั่วร้าย จมูกโด่ง รอยยิ้มที่ดื้อรั้น ราวกับจ้องมองสัตว์ที่ถูกล่า
“แกเป็นใคร?” หลินเวยมี่
ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด มือจับผ้าห่มขึ้นมาปกปิดผิวของเธอ