บทที่ 8 พายุเข้า(1)
เช้าตรู่ หลินเวยมี่เดินกางแขนกางขาเข้าไปในบ้านตระกูลหลิน จนมาถึงห้องนั่งเล่น เธอรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแปลกประหลาดไป
เงยหน้าขึ้นเธอก็พบกับ หลินจ่านหงที่หน้าดำคร่ำเครียดอยู่บนโซฟา พร้อมกับน้าหรานที่ทำหน้ารังเกียจมาที่เธอ และหลินซินหยานที่แสดงออกเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา ราวกับว่าต้องการจะบอกอะไรเธอ
เธอมองไปที่พวกเขาชั่วครู่หนึ่ง ก็ทำเป็นไม่สนใจ หมุนตัวเดินขึ้นตึก
“หยุดเดี๋ยวนี้!” หลินจ่านหง
เสียงโกรธของเขาดังขึ้น แววตาของเขาแฝงไปด้วยความโกรธที่เขาเองก็ควบคุมไม่ได้ กับใบหน้าที่แฝงไปด้วยความเศร้า เขาไม่คาดคิดเลยว่าหลินเวยมี่จะเปลี่ยนไปแบบนี้! ทำไมถึงเปลี่ยนไปแบบนี้ได้!
เป็นเพราะเขาไม่สั่งสอนหรอ? หรือจะเป็นอย่างที่ฉู่หรานพูดจริงๆ ข้างในลึกๆเธอก็เป็นผู้หญิงแบบนั้นจริงๆ?
“มีเรื่องอะไร?” หลินเวยมี่ถามด้วยความเฉยเมย แววตาเต็มไปด้วยความรำคาญ
“ไอ้โหยว คุณดูสิๆ ขนาดพ่อก็ไม่รู้จักเรียกแล้ว คุณผู้ชาย คิดดูคุณเลี้ยงดูเธอมาจนโต ที่แท้เลี้ยงสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง!” น้าหรานพูดพร้อมกับสีหน้าเยาะเย้ยไปที่เธอ แววตาเต็มไปด้วยความดีใจ
“เธอพูดให้น้อยหน่อย! หลินเวยมี่! ลงมาเดี๋ยวนี้!” หลินจ่านหงพูดด้วยสีหน้าเย็นชา พร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงสัย
หลินเวยมี่หรี่ตาลง ในใจก็คาดเดาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
เธอลงมายืนอยู่ด้านหน้าทุกคน พร้อมกับทำหน้าเย็นชาใส่น้าหราน ที่ทำหน้าดูถูกเธอพร้อมกับรอคอยให้หลินจ่านหงพูดต่อ
“ไม่รู้เลยจริงๆว่าเธอภูมิใจอะไรนัก ไม่รู้จักละอายบ้างเลย” น้าหรานพูดจาเยอะเย้ย
“แม่ ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนตั้งใจ ฉันเชื่อว่าพี่สาวต้องไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น” หลินซินหยานดึงเสื้อของน้าหรานเพื่อให้เธอหยุดพูด พร้อมกับพูดโน้มน้าว
“เมื่อวานเธอไปไหนมา?” หลินจ่านหงถาม พร้อมกับทำหน้านิ่งๆใส่น้าหรานเพื่อเป็นการเตือน
น้าหรานไม่พอใจทำเสียงเชอะใส่ แล้วก็ไปนั่งหลบที่โซฟา
“เย่หนิง ไม่ได้โทรมาหรอ?” หลินเวยมีถามแบบคาดเดา
ที่นี่ไม่เรียกว่าบ้าน เธอไม่เคยคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของเธอ ไม่มีญาติพี่น้อง มีแต่ความอ้างว้าง สำหรับเธอแล้วเป็นแค่ที่ซุกหัวนอนเท่านั้น
“เย่หนิง? หืม คุณผู้ชายเมื่อคืนไปเยี่ยมตระกูลเย่ด้วยตัวเอง แต่กลับไม่เจอเธอ” น้าหรานพูดขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน พร้อมกับแสยะยิ้มที่มุมปาก
หลินเวยมี่ใจสั่น สีหน้าตกใจ เธอไม่คาดคิดเลยว่าหลินจ่านหงจะไปที่บ้านของเย่หนิง ถ้าอย่างนั้นความแตกหมดแล้วหรอ?
เธอควรจะตอบอะไรดี? หรือว่าเปิดเผยไปเลยว่าไปนอนที่บ้านผู้ชายมาดี? ทำให้หลินจ่านหงโกรธจนช็อคไปเลยดีไหม?
ในช่วงหนึ่ง เธอไม่รู้ว่าควรจะตอบไปอย่างไรดี จึงได้แต่มองหลินจ่านหงด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย รอปฏิกิริยาของเขาก่อน
“หลินเวยมี่ เธอคิดอะไรของเธออยู่? ใครทำให้เธอเปลี่ยนไปกลายเป็นคนแบบนี้?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอทำตระกูลหลินของเราขายหน้าไปหมดแล้ว”
หลินเวยมี่ได้ยินก็หัวเราะออกมาดังๆ ที่แท้เขาก็ให้ความสำคัญกับตระกูลหลินเพียงอย่างเดียว
เพียงแค่หน้าตาของตระกูลโดยไม่สนใจว่าเธอจะเป็นอย่างไร
“คุณจะโยนฉันออกไปเพื่อไหร่ก็ได้! ให้ฉันไปตามทางของฉัน แบบนี้จะได้ไม่ทำให้ตระกูลหลินต้องอับอาย!” หลินเวยมี่ตอบกลับไป ตอนนี้ภายนอกของเธอนิ่งสงบ สายตาเฉยเมยราวกับว่าไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้เลย
ความสัมพันธ์ในครอบครัว ก็แค่ของภายนอก เธอไม่เคยสนใจมันอยู่แล้ว พวกเขาไม่เคยให้สิ่งเหล่านี้กับเธออยู่แล้ว แล้วทำไมเธอต้องร้องขอมันด้วย?”
“ไร้สาระ!” หลินจ่านหงได้ยินก็ลุกขึ้นมาด้วยความโมโห พร้อมกับจะยื่นมือไปตบหลินเวยมี่ หลินซินหยานที่อยู่ด้านข้างจึงต้องรีบดึงห้ามไว้
“พี่สาว พ่อกำลังโกรธอยู่ อย่าพูดเยอะเลย”
“เธอมายุ่งอะไรกับฉัน?” หลินเวยมี่ตอบกลับด้วยความเย็นชาอย่างตั้งใจ
“เธอเห็นไหม? เธอทำดีกับเขา เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร” น้าหรานเหลือบตามองไปที่หลินเวยมี่ เธอเห็นสถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ก็ยิ่งมีความสุข
“เธอดูเรื่องที่ก่อไว้สิ! ขายหน้าไหมล่ะ!” หลินจ่านหงหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาจากโต๊ะน้ำชา ตีเข้าไปที่หน้าของหลินเวยมี่
หลินเวยมี่
แววตาของเธอไม่มีความกลัวใดๆ ได้แต่ยืนนิ่งให้เขาตี จนหนังสือพิมพ์ร่วงลงไปที่พื้น เธอถึงจะก้มลงไปค่อยๆเก็บทีละแผ่นขึ้นมา
พาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ มีรูปของเธออยู่ ถึงแม้ว่าเส้นผมจะบดบังส่วนสำคัญไว้ แต่ก็พอดูออกได้ว่าเธอไปทำอะไรมา
ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่ามีน้ำเย็นไหลลงจากศีรษะของเธอไปจรดปลายเท้า ทำให้เธอรู้สึกหนาวสั่น มีที่หยิบหนังสือพิมพ์สั่นเล็กน้อย ผู้ชายคนนั้น เอารูปนั้นมาลงหนังสือพิมพ์อย่างนั้นหรอ
เธอคิดถึงคำพูดสุดท้ายที่เขาพูดทิ้งไว้ เขาพูดไว้ว่าเธอจะต้องกลับไปขอร้องเขา! ไอ้ผู้ชายสมควรตายคนนี้ ทำไมถึงกลับคำแบบนี้?
ความตกใจทั้งหมดของเธอตอนนี้เปลี่ยนเป็นความโกรธ เธอถือหนังสือพิมพ์แล้ววิ่งออกไปข้างนอก ไอ้คนสมควรตาย คุยกันว่าจะจบเรื่องนี้แล้วแท้ๆ ทำไมถึงกลับคำแบบนี้!
ที่โรงแรมห้าดาว ฉู่เฉินซี
มือหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ทรงผมที่ดูมีสไตล์ ใบหน้าที่หล่อเหลา สายตาที่แหลมคม และใบหน้าที่แสดงเหมือนกับยิ้มแย้ม กำลังลงลิฟต์ลงมา
เพี๊ยะ…
ที่โถงกลางทุกคนต่างจ้องมาที่ผู้หญิงและผู้ชายที่อยู่หน้าลิฟต์ ทั้งสองคนช่างดึงดูดความสนใจจากผู้คนเหลือเกิน ผู้ชายก็ดูนิ่งขรึม ผู้หญิงก็ดูเหมือนจะไม่พอใจอะไรบางอย่าง แขนที่ยกขึ้นมายังไม่ทันจะได้วางลง
หลินเวยมี่ตอนนี้เธอสั่นเทิ้ม ไม่ใช่เพราะโกรธ แต่เพราะโมโห ตอนนี้เธอเกลียดเขามากจนอยากจะฆ่าเขาให้ตายเลยทีเดียว!
“คนชั่ว!”
ฉู่เฉินซีแววตาของเขาแสดงถึงความโกรธออกมา ในขณะที่สีหน้าของเขาเย็นยะเยือกราวกับมีน้ำค้างแข็งเกาะอยู่ เขาโกรธราวกับเสือที่พร้อมจะขย้ำผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเขา