บทที่ 10 ลุงท้องโต(1)
หลินเวยมี่มองดูเค้กสตรอเบอร์รี่ครึ่งชิ้นที่เธอกินเหลืออยู่อย่างเบื่อหน่าย ในขณะเดียวกันเธอก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองจากฝั่งตรงข้าม ได้แต่ฉีกยิ้มที่มุมปาก
เธอรู้อยู่แล้ว ว่าเย่หนิงพึ่งพาไม่ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะเสนอให้อยู่ที่นี่ทำไม
แต่ว่า ทำไมเธอต้องกลัวผู้ชายคนนี้ด้วย? อีกอย่างผู้ชายสกปรกคนนี้ทำไม่ถูกกับเธอ น่ารังเกียจ! เธอยังต้องกลัวเขาอีกหรอ?
เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้น มองเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรู “ผู้ชายสกปรก ฉันกับนายไม่มีอะไรต้องคุยกัน”
“อืม” ฉู่เฉินซียิ้มขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมกับอธิบายอย่างอดทน “อย่างแรก ฉันมีชื่อ ฉู่เฉินซี ฉันอนุญาตให้เธอเรียกฉันว่า เฉิน อย่างที่สองเธอหน้าอกไซส์ 36D ใช่ไหม? วิเศษจริงๆ”
หลินเวยมี่
หน้าเธอแดงลงไปจนถึงคอ น่าเกลียด! เสื้อที่เธอสวมวันนี้ คอเสื้อค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้เธอก้มหน้าอยู่ตลอด ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเห็นหมดแล้วก็ได้?
“คนเลว!”
“ฉันทำอะไรให้เธอ?” ฉู่เฉินซียิ้มออกมาเบาๆ แล้วค่อยๆลดระดับสายตาจากหน้าเธอลงไปข้างล่าง
“น่าเกลียด!” หลินเวยมี่
เธอลุกพรึ่บขึ้นมา สีหน้าเป็นสีแดงเล็กน้อยด้วยความโกรธ จากนั้นหยิบโทรศัพท์แล้วเดินออกไปนอกร้าน
ตอนนี้เธอหงุดหงิดมาก ฉู่เฉินซี ผู้ชายสมควรตายคนนี้ เธอไม่อยากแม้จะมองหน้าเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาชีวิตของเธอคงไม่ต้องมาวุ่นวายขนาดนี้? พูดแล้ว ทั้งหมดก็เป็นเพราะผู้ชายน่ารังเกียจคนนี้!
ฉู่เฉินซี
เขามองออกไปด้านนอกผ่านหน้าต่างที่ยาวลงมาจนถึงพื้น ทัศนวิสัยดีจริงๆ ขนาดใบหน้าของหญิงสาวตัวเล็กที่กำลังโกรธเคืองก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
รอยยิ้มที่ชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขานั่งพิงไปบนพนักเก้าอี้ แล้วหยิบโทรศัพท์ โทรออกไป
“คุณหลิน เจ้านายของเราบอกว่ายังคุยกับคุณไม่จบ กรุณากลับมาด้วยครับ” ผู้คุ้มกันสองคนยืนขวางอยู่ที่ด้านหน้าของเธอ และพูดกับเธออย่างไร้อารมณ์
“เจ้านาย? ตอนนี้มันยุคสมัยอะไรแล้ว ยังเรียกเจ้านาย?” หลินเวยมี่จ้องไปทีหนึ่ง เบะปากใส่พวกเขา แล้วเดินหนีออกไป
“เชิญกลับไปด้วย” เขาทั้งสองยังคงขวางที่ด้านหน้าของเธอ โดยที่ไม่ได้มีความคิดที่จะปล่อยให้เธอไปเลยแม้แต่น้อย
“ฉันไม่กลับไป พวกคุณจะทำอะไรฉัน?” หลินเวยมี่มองไปทางร้านกาแฟ ฉู่เฉินซียิ้มเบาๆมองมาทางเธอ พร้อมกับเปล่งรัศมีสูงส่ง
“ถ้าอย่างนั้น อย่าโทษพวกเราไม่เกรงใจ” หลังจากนั้นไม่ถึงหนึ่งนาที หลินเวยมี่ก็ไปปรากฏตัวหน้าฉู่เฉินซี
เธอมองผู้ชายที่กำลังนั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจด้วยความอาฆาตแค้น แล้วถามอย่างเบื่อหน่ายว่า “คุณชายฉู่ มีเรื่องอะไรกรุณารีบพูดมา”
“รีบไปไหน? เวลาของพวกเรายังมีอีกเยอะ”
“รีบ? เธอเนี่ยนะรีบ? เอาเถอะๆ เธอไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ชายคนนี้แล้ว เธอพยายามข่มความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้ แล้วพยายามยิ้มให้เขา
“คุณชายฉู่ ฉันคิดว่าเราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว ธุระระหว่างพวกเราก็จบลงแล้ว ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับคุณอีก นิดเดียวก็ไม่อยาก” หลินเวยมี่พูดออกไปอย่างชัดเจน
“โอ้? น่าเสียดายจัง ฉันเป็นคนที่รักมั่นคงมาก อีกเธอก็ยังคงน่าดึงดูดมากสำหรับฉัน” ฉู่เฉินซีตอบกลับอย่างมีรสชาติ พร้อมกับยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย
“คนชั่ว! ทั้งชีวิตนี้ฉันไม่คิดจะมาเจอหน้านายอีก!”
“ช่างเป็นผู้หญิงที่โหดร้ายจริงๆ” เขาหัวเราะขึ้นมาเบาๆ จากนั้นชี้นิ้วสั่งการ ผู้อารักขาที่อยู่ด้านข้างก็รีบยกกล่องใหญ่กล่องหนึ่งเข้ามาวางตรงหน้าของเขา
หลินเวยมี่
เธอเงยหน้าขึ้นดู ที่แท้ของในกล่องก็คือหนังสือพิมพ์เมื่อเช้านี้? ใจเธอเริ่มหวั่นไหวแต่ว่าไม่ได้แสดงออกมา
เธอรู้สึกว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอช่างมีอำนาจเหลือเกิน เขาทำแบบนี้เพื่อที่จะพิสูจน์ว่ารูปที่ลงในหนังสือพิมพ์ไม่ใช่เขาที่เผยแพร่ไปหรอ?
แต่ว่าเรื่องรูปมีแค่พวกเขาสองคนที่รู้เรื่อง ถ้าเช่นนั้นจะเป็นใครได้?
สักพักเธอเริ่มนึกถึงการ์ดความจำ จากนั้นก็รีบหาการ์ดนั้นทันทีแต่แล้วเธอก็หาการ์ดความจำนั้นไม่พบ
“ผู้หญิง บางทีเธอควรระวังคนที่ใกล้ชิดกับเธอบ้าง ทำไมไม่คิดว่า ทำไมเธอถึงเข้าไปที่ห้องของฉันได้ แล้วทำไมรูปถึงได้ถูกเผยแพร่ออกมา” รอยยิ้มของเขาหายไป เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เย็นชาแทน พร้อมกับแสดงออกอย่างจริงจัง ดูแล้วน่ากลัวมาก
หลินเวยมี่ขมวดคิ้ว คนใกล้ตัว? ที่เขาพูดหมายถึงกู้จุนเฟิงใช่ไหม? แต่ว่าเธอกับกู้จุนเฟิงเพิ่งจะเจอกันแค่สองครั้งเอง ทำไมเขาต้องอยากทำร้ายเธอด้วย?
หรือว่าระหว่างพวกเขามีเรื่องไม่พอใจกัน เธอเป็นแค่คนโชคร้ายที่เข้ามาหรอ?
เธอถูกกดคางลง พร้อมกับถูกจับศีรษะหมุนให้มาเจอกับดวงตาคู่สีน้ำตาล ชั่วครู่หนึ่งเธอหลงเข้าไปในดวงตาคู่นั้น
“มาเป็นผู้หญิงของฉันเป็นอย่างไร”
คำพูดของเขาดึงเธอออกมา นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาพูดคำนี้ ระหว่างพวกเขายังไงก็ไม่มีความสัมพันธ์ระดับนั้น นอกเสียจากว่าเธอกลืนคำพูดของเธอถึงจะพยักหน้าตอบรับข้อเสนอนี้แบบไร้ยางอาย
นอกจากนี้ความบาดหมางระหว่างพวกเขา ก็ไม่ควรเสียสละเอาเธอมาเป็นเครื่องมือแบบนี้
“ฝันกลางวัน”
“ฉันจะทำให้เธอมาขอเป็นผู้หญิงขอฉันให้ได้” เขาลุกขึ้นยืน ในขณะที่เธอไม่โต้ตอบอะไร เขาก็ก้มศีรษะลงมาจูบเธอที่ริมฝีปาก แล้วรีบหนีออกไป
“คนบ้า!” หลินเวยมี่
เธอรีบเอามือเช็ดปาก พร้อมกับมองไปที่คนที่ออกไปไกลแล้ว พร้อมกับสายตาที่เย็นชา ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำร้ายเธอ เธอจะจับเขามาให้ได้!
แต่อย่างไรก็ตาม เธอเองก็สงสัยว่าทำไมเธอถึงได้เชื่อใจกู้จุนเฟิง?