บทที่ 17 จิ้งจอกเฒ่า เข้ามาได้ยังไง(1)
ภายในห้องสมุดอันเก่าแก่ หลินจ่านหงใช้มือคีบบุหรี่ นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าตาแสดงถึงการผ่านโลกมาอย่างโชกโชน เขาใช้นิ้วลูบภาพถ่ายใบนั้นค่อยๆ นัยน์ตาขุ่นมัวไปด้วยความรู้สึกผิด
เขา ยังคงหามาแล้ว หรือบางทีเขาก็สามารถชดใช้เรื่องราวทั้งหมดอย่างเร็วภายในปีนั้น
เด็กคนนั้น ช่างเหมือนกับเขาในวัยฉกรรจ์เสียจริง เพียงแต่ความเคียดแค้นภายในตาอาจจะลึกมากกว่าเขาสักหน่อย ลึกจนทำให้เขาหวาดหวั่นไปด้วย หลายปีแห่งความรู้สึกผิดนี้ ถ้าหากว่ามันจะสามารถเป็นการชดใช้ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องแล้วกันไป
.”พี่ใหญ่ , ผมขอโทษ……”
เสียงที่รู้สึกผิดนำพาเสียงทอดถอนใจดังก้องขึ้นในห้องสมุด เพียงชั่วครู่เดียวหลังจากนั้นก็กลับเข้าสู่ความสงบเงียบเสมือนราวกับว่าไม่เคยมีใครส่งเสียงใดมาก่อน
ภายในอีกห้องหนึ่ง หลินเวยมี่พอใจที่จะเฝ้ารอคอยโบกมืออยู่บนระเบียง ครั้นพอมองเห็นฉู่เฉินซีเดินเข้ามา เขาเดินเข้ามาทำไม จะลงโทษเธอหรอ? แล้วเธอจะยังรอเพื่อให้เขามาลงโทษเธอหรือ?
“ตาจิ้งจอกเฒ่า! เข้ามาทำไมไม่ทราบ!” เธอหันไปอย่างจงเกลียดจงชัง ขณะที่หันกลับไปใบหน้าที่ไร้การตอบสนองก็สั่นจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาอีกได้
“จิ้งจอกเฒ่า? เธอพูดแบบนี้กับฉันหรอ?” ฉู่เฉินซียืนพิงขอบประตูด้วยท่าทางเบื่อหน่าย นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นั้นส่งประกายแห่งความอันตรายฉายชัด
“คุณเข้ามาตอนไหน?” หลินเวยมี่จ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา ถามด้วยเสียงอันดัง
ใบหน้าของฉู่เฉินซีแค่นยิ้ม พลางเดินตามใจชอบเข้ามาที่เตียงใหญ่ เอนกายลงเตียง หรี่ตามองหลินเวยมี่ “ก็ตอนที่เธอกำลังยุ่งๆย้ายโซฟานั่นไปที่ระเบียงไง”
หลินเวยมี่กำหมัดแน่น ผู้ชายคนนี้กำลังมองเธอเป็นเรื่องตลก! ทำไมเธอโง่แบบนี้นะ ไม่เห็นได้อย่างไรว่าในห้องมีคน แล้วตอนนี้ยังยอมให้เขามายิ้มเยาะเธออีก!
ไอ้ผู้ชายเฮงซวย! ตอนนี้เธอคิดอยากจะฟันเขาให้ตายไปเลย แต่ข้อแรกคือเธอต้องมีแรงเยอะกว่าเขาซะก่อน
“ออกไป ห้องของฉันไม่ต้อนรับคุณ” หลินเวยมี่ออกคำสั่งไล่แขกด้วยหน้าเย็นชา
“เธอตัดใจให้ฉันเดินไปจากเธอได้หรือ?” เขายกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สีหน้ามีเลศนัย พลางเอามือแปะๆตรงที่นั่งข้างๆ “มานี่”
“ทำไมฉันต้องฟังคุณด้วย คุณรีบไสหัวไปให้พ้นเลยนะ ที่ของฉันไม่ต้อนรับคุณ” หลินเวยมี่เชิดคางขึ้น สายตามองไปทางอื่น
“เธออย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง!” เสียงของเขาเจือไปด้วยความโมโห คิดไปถึงว่าผู้หญิงคนนี้ที่เพิ่งจะจูบกันอยู่กับกู้จุนเฟิง เขายิ่งอยากจะบีบผู้หญิงหัวรั้นไม่ฟังคนนี้ให้ตายคามือ!
หลินเวยมี่ขมวดคิ้ว กวาดหน้าไร้อารมณ์มองไปที่เขา “ในเมื่อคุณชอบเตียงของฉันมากนัก ก็เชิญหลับให้สบายไปเลย คุณไม่ไป ฉันไปเอง!”
พูดจบเธอก็เดินจ้ำอ้าวไปทางประตูห้อง เธอไม่มีทางอยู่ร่วมห้องเดียวกับฉู่เฉินซีได้ ไอ้ผู้ชายไม่มีเหตุผล บ้าอำนาจ!
ท่อนแขนถูกกด เธอจึงหันกลับไปปะทะเข้ากับกลิ่นหอมสดชื่นเย็นสบาย แต่เธอได้กลิ่นแล้วกลับไม่ได้รู้สึกเบิกบานใจ กลับรู้สึกเหมือนมีแรงดันที่มองไม่เห็นเข้าจู่โจมเธออยู่
จิตใต้สำนึกสั่งให้เธอใช้ข้อศอกจู่โจมกลับไปที่เขา แต่ทว่าเขากลับหลบได้อย่างรวดเร็ว หนำซ้ำยังดึงเธอมาชิดแนบอก
“แต่ ฉันอยากนอนกับเธอด้วยมากกว่า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ริมฝีปากเม้มแน่น ดวงตาสีน้ำตาลจ้องไปที่หน้าอกของหญิงสาว หน้าของเธอแดงฉาน ยิ่งทำให้เขาหัวเราะชอบใจยิ่งขึ้น
“หน้าด้าน! คุณทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงเต็มทน!” หลินเวยมี่พยายามดิ้นรนเอามือออก แต่ท่อนแขนของเขาแข็งราวกับท่อนเหล็กก็มิปาน ผลักยังไงก็ไม่ขยับ
ในชั่วพริบตาเดียวฉู่เฉินซีเปลี่ยนอารมณ์เสมือนดั่งหมอกครึ้ม นัยน์ตาเหยี่ยวจับจ้องไปที่ใบหน้านวล เมื่อสักครู่เขาไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? เธอขยะแขยงเขา? เขา ฉู่เฉินซีถูกกระทำด้วยคำพูดแบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?
ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรง โอบอุ้มเอวหญิงสาวที่พยายามดิ้นรนออกจากตัวเขาขึ้นมา แล้วโยนไปที่เตียงอย่างรุนแรง
หลินเวยมี่ถูกโยนลงไปเช่นนั้นก็เวียนหัวมาก หัวว่างไปพักหนึ่ง แล้วจึงพยายามดิ้นรนคลานขึ้นมา แต่ก็ถูกเขากดทับลงไปอีก
ดวงตาของเธอปะทะเข้ากับดวงตาหมอกครึ้มคู่นั้น สูดอากาศเย็นเข้าไปได้เฮือกหนึ่ง ความรู้สึกเหมือนงูกำลังเลื้อยอยู่บนตัวเธอ
ฉู่เฉินซีมองสายตาหวาดกลัวของเธอแวบหนึ่ง ส่งเสียงเย็นขึ้นมา เธอรู้จักความหวาดกลัวแล้วสินะ?
เขาจับคางเธออย่างรุนแรง บีบให้เธอหันมาปะทะหน้าเขา พลางพูดอย่างเนือยๆว่า “เธอบอกว่าฉันน่าขยะแขยงใช่ไหม?”
หลินเวยมี่กัดฟันแน่น สู้สายตาเบิกโพลงจ้องกลับไปที่เขา “ฉู่เฉินซี คนไร้ยางอาย ฉันรู้สึกขยะแขยงคุณเต็มทน น่าสะอิดสะเอียน!”
ฉู่เฉินซีหัวเราะเสียงเย็น สายตาเร่าร้อนของเหยี่ยวเดือดดาลปะทุ “ดี!”
หลินเวยมี่เมื่อเห็นเขาแสดงอารมณ์เช่นนั้นจึงกำหมัดแน่น ราวกับถูกปีศาจร้ายจ้องเขม็ง แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เขาไม่ทำร้ายผู้หญิงหรอกน่า?
ขณะที่เธอกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั้น ฉู่เฉินซีก็ก้มหัวต่ำตรงเข้ามากัดเธอ ด้วยความโมโหอย่างขีดสุด
“ถูกเธอมองว่าฉันมันน่าขยะแขยง กระตุ้นอารมณ์ฉันดีพิลึก” เขาหัวเราะเสียงเย็น ราวกับคนบ้า เขากัดลงไปที่ตัวเธอ
“คนระยำ ไปให้พ้น คุณเกิดปีหมาหรือไง ออกไปจากตัวฉัน!” หลินเวยมี่เปล่งเสียงดังพลางใช้มือตีไปที่หลังของเขา รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำไมฉันต้องถูกกระทำแบบนี้ด้วย?
ดวงตาชุ่ม หยุดดิ้นรนขัดขืนใดๆ การได้พบเจอกับเขา เธอไม่เพียงแต่จะไม่ใช่ของมีค่าแล้ว แม้แต่ที่เธอถูกเขากระทำเช่นนี้ ความนับถือในตนเองของเธอก็ถูกฉู่เฉินซีเหยียบย่ำจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว เธอหมดสิ้นแล้ว