บทที่ 44 เรามาสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดเถอะ(2)
รถขับไปถึงโรงแรมของอีกเส้นถนนนึง โจ่วชิงช๋วนยิ้มมุมปาก “เวยมี่ พวกเราขึ้นไปกันเถอะ”
“โจ่วชิงช๋วนนายล้อเล่นรึยังไง ฉันไม่คิดเลยนะว่านายจะพาฉันมาที่นี่” หลินเวยมี่ขมวดคิ้วและถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่โกรธ ในหัวของเขาคิดอะไรอยู่กันแน่นะ
โจ่วชิงช๋วนเอียงหัวมองไปที่เธอ สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของเธอ เขากลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
“คุณชายเหนื่อยแล้ว อยากไปนอนพักบนเตียงไม่ได้รึยัง” หรือว่าหัวสมองของคุณกำลังคิดเรื่องไม่บริสุทธิ์อยู่
ในทันใดนั้นหน้าของหลินเวยมี่ก็เริ่มแดง เธอคิดไม่บริสุทธิ์งั้นหรอ แต่มันเป็นเค้าที่พูดถึงเรื่องพวกนั้นตลอดไม่ใช่หรอ ไม่งั้นเธอก็คงไม่คิดมากหรอก
“ได้ งั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า นายรีบถอดแหวนวงนี้ให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ” หลินเวยมี่ยกมื่อขึ้นมา และยื่นไปตรงหน้าโจ่วชิงช๋วน
โจ่วชิงช๋วนก้มลงมามองแหวน แต่สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนไป “คุณไม่ชอบหรอ”
“มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันชอบหรือไม่ชอบ แหวนวงนี้มันสำคัญมาก ฉันจะเอามันมาใส่เรื่อยเปื่อยไม่ได้” หลินเวยมี่ขมวดคิ้วพูด
“แหวนวงนี้คุณใส่ไปก่อนเถอะ บางทีใส่ไปใส่มาอาจจะชินก็ได้”
หลินเวยมี่ทำหน้าตาย ชินงั้นหรอ มันไม่เกี่ยวกับชินหรือไม่ชิน แต่นี่มันเป็นสัญลักษณ์ของลูกสะใภ้ตระกูลโจ่ว
“ทำไมนายไม่เข้าใจ แต่ก็ช่างเถอะถึงยังไงนายก็รีบถอดมันออกให้ฉันเดี๋ยวนี้” หลินเวยมี่บ่น แต่เขาก็ไม่เอาออกให้เธอเรื่องราวก็เลยยังไม่จบ
โจ่วชิงช๋วนเข้ายกมือขึ้นมาสองข้าง และมองไปที่เธออย่างตั้งใจ “เวยมี่ แหวนวงนี้ถือว่าผมให้คุณเป็นของขวัญ”
“ของขวัญชิ้นนี้ฉันจะรับไว้ได้ยังไง นี่มันเป็นสัญลักษณ์ของสะใภ้ตระกูลโจ่วนะ” เธอทำหน้าหงุดหงิด แต่จู่ๆเธอรู้สึกว่ายิ่งนานก็ยิ่งร้อน
“เวยมี่ คุณทำให้ผมเสียใจนะ” โจ่วชิงช๋วนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ และถอนหายใจ “ในเมื่อคุณรู้แล้ว งั้นผมจะบอกกับคุณตรงๆละกัน ผมจริงจังกับคุณมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว”
หลินเวยมี่ยิ่งหงุดหงิด “ตั้งแต่ตอนเด็กๆงั้นหรอ ความคิดตอนเด็กๆมันเชื่อถือได้หรอ อย่ามาตลกหน่อยเลย รีบถอดมันออกเดี๋ยวนี้”
“โอเค งั้นเธอก็ยื่นมือมาสิ” เขากระพริบตา และพูดกับเธอ
หลินเวยมี่ไม่ได้อะไร ก็ยื่นมือออกไป แต่ใครจะไปรู้ว่าโจ่วชิงช๋วนจะดึงเธอเข้าไปกอด กลิ่นน้ำหอมของผู้ชายแทงจมูกเธอ
“โจ่วชิงช๋วน” เธอร้องตะโกนด้วยความโกรธ
“อือ เวยมี่ พวกเรามาสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดเถอะ บางทีคุณอาจจะชอบผมบ้าง” เขายิ้มและยิ้ม ใช้แรงดึงเธอมากอดทั้งตัว
หลินเวยมี่เก้อเขินจนหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง แบบนี้ดูเหมือนว่าตัวเธอนั่งอยู่บนตัวของโจ่วชิงช๋วน แถมยังกลิ่นน้ำหอมนั้นมันทำให้เธอเวียนหัว
“นายฉีดน้ำหอมมาเยอะเท่าไหร่กันแน่” หลินเวยมี่เอามือวางไว้บนไหล่ของเขา วางแผนที่จะออกมาจะอ้อมกอดของเขา
โจ่วชิงช๋วนหัวเราะ “ก็ไม่เยอะนะ แค่ครึ่งขวดเอง ทำไมหรอ กลิ่นหอมของผมทำให้คุณหลงแล้วใช่มั้ย”
หลงอะไรกันละ ทีแท้มันฉุนมากต่างหาก เธอจามออกมา
“เวยมี่ อย่าตื่นเต้น” มือของเขาจับเอวเธอแน่น ไม่ให้เธอขยับอีก
บรรยากาศภายในรถยิ่งนานยิ่งแปลกประหลาด โจ่วชิงช๋วนจากใบหน้าที่ดูสนุกตอนนี้เริ่มจะจริงจัง ลมหายใจของเขาค่อยๆช้าลง
หลินเวยมี่พึ่งจะรู้สึกตัวว่าเธอนั่งอยู่บนตัวของโจ่วชิงช๋วน แค่แปปเดียวหน้าเธอก็แดงลงไปจนถึงคอ
“รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
แต่ที่น่าแปลกก็คือมีคลื่นความร้อนค่อยๆซัดเข้ามา โจมตีหัวใจเธออย่างรุนแรงราวกับว่ามีบางอย่างกำลังจะถูกปล่อยออกมา
“เวยมี่” โจ่วชิงช๋วนเรียกเธอด้วยเสียงแหบแห้ง และมองไปที่เธอด้วยสายตาที่พร่ามัว
จิตใต้สำนึกของหลินเวยมี่อยากจะออกมา แต่ว่ากลับถูกเขาหอมแก้ม
เธอขมวดคิ้ว และพยายามเปิดประตู ภายใต้จิตใจของเธอเริ่มอึดอัด ทำไมเหมือนมีอะไรบางอย่างในตัวเธอ ทำไมถึงร้อนขึ้นร้อนขึ้น
“เวยมี่” โจ่วชิงช๋วนจับเอวของเธอไว้แน่น ไม่ให้เธอขยับ
จิตใจสำนึกของเธอรู้แค่ว่ามีกลิ่นน้ำหอมพุ่งเข้ามา แล้วก็ความรู้สึกเย็นๆ คิดไม่ถึงว่าเขากำลังจูบเธอ
แต่ในขณะนั้น ความรู้สึกที่เย็นๆทำให้เธอขาดไม่ได้ และยังอยากได้มากขึ้นกว่านี้ ตอนแรกอยากจะผลักเขาออก แต่ตอนนี้กลับจับเขาเอาไว้แน่น