บทที่ 53 เขากำลังเตรียมงานแต่ง(1)
ตอนนี้หลินเวยมี่ไม่มีแรงมาคุยกับเขา แล้วแต่ว่าเขาจะติดยังไง เธอคิดแค่ว่าอยากจะออกไปจากที่นี่ กลับบ้าน แต่ว่าที่บ้านนั้นก็เต็มไปด้วยความเย็นชา
หลินเวยมี่ถอนหายใจออกมายาวๆ และเอาหัวไปพิงกับหน้าต่างรถ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ภายในหัวสมองยังคงคิดถึงผู้ชายที่โศกเศร้าคนนั้นโดยไม่รู้ตัว
เธอยังคงจำได้ตอนที่เจอกับเสี่ยวจื๋อครั้งแรก เธอซุกซนปีนขึ้นไปบนต้นไม้ในสวนจนไปได้ครึ่งทางเธอถึงพบว่าเธอลงมาไม่ได้
เธอที่เจ้าน้ำตาก็ร้องไห้ออกมา แต่ไม่มีใครได้ยินเธอเลย
“เด็กน้อย เธอลงมาไม่ได้หรอ” เสียงของเด็กลอยมา
พอเธอได้ยินเสียงนั้นก็หยุดร้องไห้ทันที และมองดูเด็กผู้ชายที่อยู่ข้างล่างนั้น เขาใส่ชุดสูทของเด็ก เงยหน้าขึ้นมองเธอ
“ฉันไม่ใช่เด็กน้อยนะ” พอคนมาเธอก็ไม่กลัว และรีบเถียงกลับ
“งั้นเธอจะลงมามั้ย” เขาอ้าแขนออก “ปีนลงมา”
เธอกระพริบตา และมองดูเด็กผู้ชายที่อยู่ใต้ต้นไม้นั้น เธอไม่ได้คิดอะไรเธอยิ้มและพยักหน้า และกระโดดลงมา ไม่รู้ว่าทำไมตอนนั้นเธอถึงเชื่อใจเขา เชื่อว่าเขาจะคอยรับเธอ ไม่ให้เธอได้รับบาดเจ็บ
และเธอก็ไม่ได้รับบาดเจ็บจริงๆ ตัวของเธอทับอยู่บนตัวของเขา จมูกที่เต็มไปด้วยกลิ่นสดชื่นของดอกไม้ ดูเหมือนว่ากลิ่นจะเป็นของผู้ชายคนนั้น
ปากของเธอค่อยๆยิ้มขึ้น และยังจำได้ว่าตอนนั้นเธอทับเขาจนกระดูกที่แขนหัก และเพื่อเป็นการแสดงความขอโทษเธอถอดสร้อยข้อมือที่เธอชอบมากที่สุดให้กับเขา
แต่แค่คิดไม่ถึงว่าสิบปีผ่านไป พวกเขาจะได้มาเจอกันอีก แต่ความรู้สึกของเธอนั้นคลุมเครือเธอกลับไปเป็นเหมือนตอนเด็กๆไม่ได้อีกแล้ว
“เธอชื่อหลินเวยมี่ใช่มั้ย” เฉินเห้าหมิงคนที่ถูกมองข้ามเขาหันหน้าไปมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ
หลินเวยมี่ลุกขึ้นมานั่งตัวตรง และพยักหน้าให้เขา “ไม่ว่าจะยังไง วันนี้ขอบคุณมากนะ”
“ไม่ต้องเกรงใจ ผู้หญิงของลูกพี่ ผมจะไม่ให้เกียรติได้ยังไง” เขาหัวเราฮิฮิ เขาถอดรถอยู่ข้างๆช๊อปปิ้งมอล “เอ้อใช่ ลูกพี่คงได้เป็นคนโยนคุณออกมาใช่มั้ย”
พอพูดถึงตรงนี้ ดวงตาของเขาเปล่งประกาย “คุณหลิน ถ้าหากว่าคุณมีเรื่องเศร้าละก็ พูดกับผมได้นะ”
“คุณคิดมากไปแล้วละ เขาไม่ได้เป็นคนโยนฉันออกมาหรอก ฉันหนีออกมาเอง” แววตาของเธอเต็มไปด้วยความรำคาญ และยื่นมือไปให้เขา
เฉินเห้าหมิงรู้ใจเลยหยิบเงินในกระเป๋าให้เธอ
“ไปเบิกเงินคืนจากลูกพี่นายไม่ต้องรอฉัน” พอหลินเวยมี่พูดจบก็รีบลงจากรถ ก้มหน้าก้มตาวิ่งเข้าไปในห้าง
เฉินเห้าหมิงค่อยๆยิ้ม มองดูข้างหลังของเธอ แววตาเต็มไปด้วยความน่าสนใจ ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจจริงๆ แค่ไม่รู้ว่าในใจของฉู่เฉินซีเธอจะสดใหม่ไปถึงเมื่อไหร่
หลินเวยมี่รีบเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจเธอถอดชุดกระต่ายทิ้งไว้ข้างๆ และเบ้ปาก ผู้ชายคนนี้ชาตินี้ก็ไม่อยากเจออีก
พอซื้อเสื้อผ้าเสร็จ ก็เดินออกมาข้างนอก ตอนแรกคิดว่าจะกลับบ้าน แค่พอคิดไปคิดมาช่วงนี้ไม่ได้กลับบ้านเลย ไม่รู้ว่าหลินจ่านหงจะด่าเธอว่ายังไงบ้าง
พอคิดถึงตรงนี้ ก็ไม่มีแรงที่จะกลับบ้าน เธอถอนหายใจออกมายาวๆ และเดินไปตามทางถนน ราวกับเด็กน้อยที่หาบ้านไม่เจอ