บทที่ 51 ผู้หญิงใจร้าย(1)
ฉู่เฉินซียังคงไม่หยุดขยับ ราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจมีดที่อยู่ตรงคอเขาเลย เขาหายใจเร็วขึ้น
“คนสารเลว อย่าขยับ” หลินเวยมี่หงุดหงิดและตะโกนเสียงดัง และจับมีดแน่น
ฉู่เฉินซีถอนหายใจอย่างหมดความอดทน เขาจ้องตาเธอและพูดเบาๆว่า “คุณกล้าลงมือหรอ”
“คุณคิดว่าฉันไม่กล้าหรอ” เสียงของเธอสูงขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ ถ้าเอาว่าตามเรื่องที่เขาทำกับเธอ ฆ่าเขาสิบครั้งก็ไม่เห็นเป็นไร
“แต่คุณเคยคิดบ้างมั้ย ถ้าคุณลงมือจริงๆ แค่ใบมีดอันเล็กๆจะทำให้ผมเจ็บแค่ไหนกัน” แววตาเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย ดูเหมือนว่าเขาจะเสียดสีกับสิ่งที่เกินความสามารถของเธอ
หลินเวยมี่หรี่ตาลง และพูดอย่างเยือกเย็นว่า “งั้นหรอ แต่ว่าถ้าไปโดนตรงเส้นเลือดใหญ่ละ”
เธอยื่นมือเข้าไปใกล้ สายตาหนักแน่น “ปล่อยฉันไป”
“ใจร้ายจัง เค้าบอกว่าผัวเมียวันเดียวแต่มีบุญคุณร้อยวันไง คิดไม่ถึงว่าคุณจะทำแบบนี้กับผม เสียใจจัง” เขาขมวดคิ้ว และสีหน้าของเขาดูเศร้า
“เลิกแสดงได้ละ เอาเสื้อคลุมของนายมา” เธอพูดออกมาอย่างเยือกเย็น
เขายกคิ้วขึ้นด้วยความขี้เกียจ สายตาของเธอลดลงตามคำพูดของเธอ สุดท้ายก็หยุดมองไปที่จุดที่มีอะไรยื่นออกมา และเขาก็ยิ่งยิ้มมากขึ้น
หลินเวยมี่สีหน้าเปลี่ยน และรีบเอามือขึ้นมาบัง “เร็วๆหน่อย”
ฉู่เฉินซีถอดเสื้อโค้ชออกอย่าปกติ และคลุมไว้บนตัวเธอ ที่จริงแล้วเขาสามารถทำให้เธอพ่ายแพ้ได้ แต่เขากลับไม่ทำ
“ให้ผมช่วยติดกระดุมให้มั้ย” เขายิ้มอย่างมีเลศนัย มือเขาอยู่บนกระดุมอยู่แล้วพึ่งจะมาคิดช่วยติดให้ คอเขาถูกทิ่มจนแดง ทำให้เขาหยุดทำทันที
ผู้หญิงคนนี้กล้าลงมือจริงๆหรอเนี่ย เขาวางมือลงอย่างเคียดแค้นและจ้องไปที่เธอ
“เรียกคนมาส่งฉันกลับไป” เธอขมวดคิ้วออกคำสั่ง แววตาเต็มไปด้วยความรำคาญ ถ้าไม่ใช่วิธีนี้ก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้จะปล่อยเธอไปตอนไหน
“คุณผู้หญิง อยู่บนเตียงเมื่อไหร่ก็เป็นแบบนี้นะ”
“พูดให้มันน้อยๆหน่อย” เธอหน้าแดงก่ำ เธอยกแขนสูงจนปวดแขน
ฉู่เฉินซีเม้มปาก แววตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ตกลง ผมไปส่งคุณ แต่ของในมือวางคุณวางลงก่อนได้มั้ย มันอันตราย ผมไม่อยากโดนผู้หญิงโง่เอามีดมาแทงคอ”
“พูดเป็นคำพูดนะ” เธอมองดูรอยแผลที่คอเขา และวางมีดลง
ฉู่เฉินซียืนอยู่ตรงหน้าเธอ ก้มลงและจัดคอเสื้อเธอ
“นายจะทำอะไร”
หลินเวยมี่มองดูเขาที่ค่อยๆติดกระดุมทีละเม็ดทีละเม็ด คิดไม่ถึงว่าเธอจะลืมขัดขืน จนกระทั่งเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอ เธอถึงจะรู้สึกตัว
“เสร็จแล้ว” เขาก้มลงกัดที่แก้มของเธอ และปล่อยเธอ “ผมไม่อยากให้ผู้ชายคนอื่นเห็นคุณหรอกนะ”
หลินเวยมี่กัดฟันแน่น ไม่ได้สนใจเขา เขาโอบไหล่ของเธอและเดินออกไป
หลินเวยมี่ดิ้นด้วยความรำคาญ เธอไม่ชินจริงๆกับการที่จะสนิทสนมกับเขา
“ปล่อยฉัน” จังหวะที่เธอเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นคอของเขากำลังมีเลือดไหล เธอชะงัก และพึมพำว่า “คอนายจะทำแผลก่อนมั้ย”
“เป็นห่วงผมหรอ” เขายิ้ม สีหน้าเต็มไปด้วยความสนุก “ในเมื่อเป็นห่วงผมทำไมโหดร้ายกับผมจัง”
หลินเวยมี่เบ้ปาก และเหอะเบาๆ ขี้เกียจสนใจเขาเลยเดินนำเขาไป พอเปิดประตู ก็มีสุนัขตัวสีขาวพุ่งเข้ามาหาเธอ
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยกะทันหัน เธอร้องกรี๊ด และรีบถอยออกไป จนไปอยู่ในอ้อมอกของฉู่เฉินซี และเธอก็อบอุ่นใจขึ้นมา
“คิดไม่ถึงว่าคุณจะกลัวหมา” เขาหัวเราะออกมาเบาๆ และดึงเธอเข้ามากอด “สวิ่นเหินมานี่เร็วจะแนะนำเพื่อนให้รู้จัก”
สวิ่นเหินเป็นหมาตัวใหญ่มันวิ่งไปอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขา ดูเหมือนว่ามันไม่ชอบให้เจ้านายมันถูกหลินเวยมี่ครอบครอง มันเห่าใส่เธอตลอดเวลา
หลินเวยมี่ตกใจมาก เธอกอดฉู่เฉินซีไว้แน่น ไม่กล้าเงยหน้า
“สวิ่นเหิน ต่อไปนี้เธอจะเป็นเพื่อนกับแกนะ” ฉู่เฉินซีลูบหัวของสวิ่นเหินเบาๆ แววตาเต็มไปด้วยความสนุก
หลินเวยมี่รู้สึกว่ามีอะไรร้อนๆมาโดนมือ แถมยังเหนียวๆ เธอก้มลงมามอง และร้องกรี๊ด หมาตัวใหญ่กำลังเลียมือเธอ
“มันกำลังทักทายคุณ” ฉู่เฉินซียิ้ม
“เอาออกไป” เสียงของเธอสั่น น้ำเสียงของเธอดูหวาดกลัว
“ออกไป” เขาตะโกนใส่สวิ่นเหิน สวิ่นเหินมองดูพวกเขาก่อนที่จะวิ่งออกไป
หลินเวยมี่ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย พอผ่อนคลายร่างกายก็ไม่ค่อยมีแรงเท่าไหร่
“ไปเถอะ ส่งคุณกลับบ้าน” เขากอดเอวเธอและเดินออกไป
ข้างนอกประตู มีหยิ่งคอยยืนเฝ้าอยู่เงียบๆ เขาเงยหน้ามองฉู่เฉินซีแวปนึงและมองเห็นรอยที่คอของเขา และมองค้อนไปที่หลินเวยมี่ราวกับว่าเดาอะไรออก
“เจ้านาย”
“มีเรื่องอะไรกลับมาค่อยพูดแล้วกันละ” เขามองหยิ่งแวปนึง แล้วโอบหลินเวยมี่เดินลงบันไดไป
หยิ่งไม่พูดอะไร และยืนอยู่ข้างๆ ถอนหายใจออกมายาวๆแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาไม่เคยเห็นใครคนไหนที่กล้าทำร้ายฉู่เฉินซีแล้วยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นบาดแผลเล็กๆ
เขาจำได้ว่าปีที่แล้วในโรงแรม มีผู้หญิงคนนึงไม่ระวังเอาเล็บมาขูดฉู่เฉินซีจนเป็นแผล เขาสั่งให้ตัดนิ้วผู้หญิงคนนั้นทิ้งซะ
หลินเวยมี่เป็นคนพิเศษงั้นหรอ