บทที่63 ยอมเป็นยาฆ่าแมลงให้ฉันไหม(1)
หลินเวยมี่นอนสะลึมสะลือ ข้างหูเหมือนได้ยินเสียงเพลงเบาๆ เสียงที่ไพเราะนั้นทำให้คนฟังรู้สึกผ่อนคลาย อาการร้อนรุ่มในใจก่อนหน้านี้ค่อยๆหายไปเมื่อได้ยินเสียงอันไพเราะนี้
แก้มของเธอยังคงเจ็บอยู่ คิ้วเรียวขมวดพลางค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น
ดวงตาหม่นหมองจ้องเพดานนิ่ง เธอไม่ได้ขยับตัวใดๆ แววตายังคงว่างเปล่า
ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงความเย็นที่แตะลงบนแก้ม ที่แท้ก็คือมือของอีกฝ่ายที่กำลังลูบใบหน้าเธออย่างแผ่วเบา
“ฉันหลับไปนานแค่ไหนแล้ว” เธอเบะริมฝีปากเล็กน้อย ดวงตาที่ผ่านการร้องไห้มานั้นบวมแดง
“สองชั่วโมง” ฉู่เฉินซีจะทายาให้เธอ สายตาเขาเต็มไปด้วยความดุดันเมื่อเห็นใบหน้าบอบบางของเธอเจ็บปวด
“ฉันจะกลับบ้าน” ใบหน้าไร้ความรู้สึกของเธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับพยายามที่จะลุก
ฉู่เฉินซีไม่ได้ห้าม เขายืนขึ้นข้างๆแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “กลับไปทำไม อยากถูกตีอีกหรือไง”
หลินเวยมี่สูดหายใจลึก ขอบตาแดงก่ำ “ฉันจะไปหาพ่อ”
“เรื่องที่เกิดขึ้นมันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว เธอกลับไปก็เห็นเพียงร่างไร้วิญญาณเท่านั้น อีกอย่างฉันจะปล่อยให้เธอกลับไปโดนตบดีอีกได้ยังไง” อีกฝ่ายค่อยๆบรรจงทายาลงบนแก้มของเธออย่างแผ่วเบา
หลินเวยมี่มองอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง สองสามวันมานี้สมองของเธอไม่หยุดนึกถึงสิ่งที่ฉู่เฉินซีเคยเอ่ยไว้กับเธอ ที่บอกว่าเธอจะต้องมาขอร้องอีกฝ่ายแน่นอน ดังนั้นอีกฝ่ายก็คงจะรู้อยู่แล้วเช่นกัน
ไม่น่าล่ะอีกฝ่ายถึงได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างเหมาะเจาะ คงมองเธอเป็นตัวตลกสินะ
อยากให้เธอขอร้องงั้นเหรอ? มุมปากเธอยกยิ้มเย็น
ผู้หญิงทั่วไปถ้าเจอเรื่องแบบนี้คงจะอกสั่นขวัญหาย แต่ไม่ใช่เธอแน่
เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมขอร้องใครมาตั้งแต่ไหนแต่ไร หรือต่อให้จำเป็นต้องทำ ก็ไม่ใช่กับฉู่เฉินซีแน่นอน
อีกฝ่ายคงจะวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว งั้นเธอก็จะทำให้แผนนั้นไม่สำเร็จ
นิ้วเย็นของฉู่เฉินซียังคงลูบวนอยู่บนแก้มของเธอ กระทั่งทายาเสร็จ เขาจึงยกมือของเธอขึ้นแล้วเอื้อมไปหยิบขวดยามาอีก เพื่อที่จะทาให้เธอต่อ แต่เธอกลับชักมือกลับอย่างรวดเร็ว
ฉู่เฉินซีที่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ก็หัวเราะขึ้นเบาๆ “เธอกลัวอะไร กลัวฉันทายาให้ผิดหรือไง”
“วางใจเถอะ ยาที่เธอใช้ได้ ฉันจำไว้หมดแล้ว ทาไม่ผิดแน่นอน”
หลินเวยมี่ขมวดคิ้วงง อะไรคือยาที่เธอใช้ได้ หรือว่าอีกฝ่ายอยากเห็นเธอเจ็บหรือไงกันนะ
อีกฝ่ายไม่ได้สนใจท่าทีขัดขืนของเธอ ทายาเสร็จก็ใช้ผ้าพันแผลพันรอบมือเธออย่างคล่องแคล่ว แล้วหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ยัยโง่ เธอบาดเจ็บนะ ถ้าฉันไม่ศึกษาเรื่องนี้แล้วจะช่วยเธอทำแผลได้ยังไง” อีกฝ่ายขยี้ผมเธอจนยุ่ง สายตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
หลินเวยมี่ไม่พอใจนัก เธอฝืนตัวออกแต่ก็ถูกอีกฝ่ายโอบเอวเอาไว้
แต่ทำไมการกระทำของอีกฝ่ายถึงทำให้เธอนึกถึงสวิ่นเหินขึ้นมากันนะ นี่มันเหมือนที่สวิ่นเหินเคยทำกับเธอ ไหนจะสายตาอ่อนโยนนั้นที่ทำให้ทั้งร่างรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมา
ไม่มีทางที่อยู่ๆฉู่เฉินซีจะทำตัวอ่อนโยนแบบนี้กับเธอ คนๆนี้ต้องการอะไรกันแน่?
“คุณต้องการอะไรอีก?” เธอถามอย่างหวาดระแวง
“ต้องการอะไร? ต้องการเธอไง” อีกฝ่ายยิ้มพร้อมกับขยับเข้าชิดตัวเธอ
ลมหายใจร้อนเป่ารดลงมา เธอขมวดคิ้วยุ่งพลางใช้นิ้วจิ้มลงบนใบหน้าตัวเองอย่างไม่อ่อนโยนนัก “คุณชายฉู่กินไม่เลือกเลยหรือไง ใบหน้าแบบนี้ก็กินได้ลงเหรอ”
“ใบหน้าไม่สำคัญหรอก” ดวงตาคนพูดเป็นประกาย “ข้างล่างของผู้หญิงก็เหมือนกันหมดไม่ใช่หรือไง พอปิดไฟแล้วใครเขาจะสนใจกันล่ะ”
“อีกอย่างยิ่งเป็นเธอฉันจะปฏิเสธได้ยังไง เห็นๆอยู่ว่าพวกเราเข้ากันได้ดีขนาดไหน…”
อีกฝ่ายเข้าประชิดตัวเธอ หลินเวยมี่ใช้มือดันตัวอีกฝ่ายไว้ ดวงตาเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“ฉู่เฉินซี คุณคิดเรื่องอื่นบ้างไหมนอกจากจากเรื่องอย่างว่า หรือสมองคุณมีแต่ตัวอสุจิ?” เธอแทบจะกัดฟันถาม
ฉู่เฉินซีที่เห็นท่าทางแบบนั้นของเธอ อารมณ์ของเขาก็ถูกกระตุ้นเพิ่มขึ้น โน้มใบหน้าลงกัดปากเธอ
“งั้นเธอยอมเป็นยาฆ่าตัวอสุจิให้ฉันไหมล่ะ”
ใบหน้าหลินเวยมี่เปลี่ยนเป็นสีขาวซีด มือเล็กเลื่อนลงไปข้างล่างแล้วจับสิ่งนั้นไว้แน่น
ดวงตาฉู่เฉินซีวูบไหวครู่หนึ่ง ใบหน้ายังคงยิ้มกริ่ม “เธอรีบร้อนทำไมกัน เรายังมีเวลาน่า”
เขาวางมือลงบนมือเล็กของเธอ
หลินเวยมี่เพิ่มแรงบีบแรงขึ้นพร้อมกับเอ่ยอย่างโหดเหี้ยม “เชื่อหรือเเปล่า่าตอนนี้ฉันก็ฆ่ามันให้คุณได้”
“เชื่อสิ เธอพูดอะไรฉันก็เชื่อทั้งนั้น แต่ตอนนี้เธอปล่อยมือเถอะนะ” ลมหายใจร้อนเป่ารดลงบนใบหน้าเธอ ดวงตาลึกซึ้งนั้นมองเธออย่างหลุ่มหลงเมื่อเธอยังไม่หยุดบีบเคล้นสิ่งนั้น
“ความสุขตลอดชีวิตที่เหลือของเธอ ตอนนี้มันอยู่ในมือเธอแล้วนะ เธอคิดให้ดีๆล่ะ” น้ำเสียงนุ่มนวลกระซิบแนบใบหูของเธอ
หลินเวยมี่ตัวสั่นขึ้นมาฉับพลัน ผู้ชายสมควรตายคนนี้รู้ดีว่าจุดอ่อนไหวของเธออยู่ตรงไหน รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะมีผลกับเธอ