บทที่ 60 ความเชื่อใจที่มองไม่เห็น(2)
หลินเวยมี่มายังที่พักของกู้จุนเฟิง กดกริ่งหลายครั้งก็ไม่มีคนออกมา ทันใดนั้นเธอจึงรู้ตัวว่าตอนนี้กู้จุนเฟิงคงกำลังยุ่งอยู่กับงานแต่งงาน จะกลับมาที่นี่ได้ยังไงกัน
เธอนั่งลงพิงประตูอย่างคิดอะไรไม่ออก เธอจะไปตามหาอีกฝ่ายที่ไหนดีล่ะ
ทันใดนั้นเธอก็คิดอะไรออก รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาโจ่วชิงช๋วนทันที อีกฝ่ายต้องรู้แน่ๆว่ากู้จุนเฟิงอยู่ที่ไหน
ไม่นานนัก ร่างของคนๆหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ เธอแหงนหน้ามองโจ่วชิงช๋วนแล้วรีบถามทันที “กู้จุนเฟิงอยู่ที่ไหน”
โจ่วชิงช๋วนขมวดคิ้วใบหน้าเศร้าสลด “เวยมี่ ทันทีที่เจอฉันเธอก็ถามหาคนอื่นเลยเหรอ ฉันเสียใจนะ”
หลินเวยมี่รีบลุกขึ้น มือเรียวกุมมือใหญ่เอาไว้ทันที “รีบพาฉันไปหาเขาเถอะนะ”
โจ่วชิงช๋วนจึงได้มองเห็นรอยบนใบหน้าเธอชัดๆ เอ่ยถามอย่างร้อนรน “ใครตบเธอ”
“ไม่ทันระวังเลยเดินชนน่ะ” เธอหลบสายตาแล้วก้มหน้าลงต่ำ
“ชนอะไรถึงเป็นรอยมือขนาดนี้?” เขาขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจออกมา เปลี่ยนมาเป็นฝ่ายจับมือของเธอไว้แน่น “ไปกันเถอะ ฉันจะพาเธอไปหาเขา”
ณ คฤหาสน์ตระกูลโจ่ว โจ่วชิงช๋วนจูงมือเธอเข้ามาภายใน หลินเวยมี่เริ่มรู้ตัวจึงแกะมืออีกฝ่ายออก แล้วเดินตามหลังอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย
“เขาอยู่ที่นี่จริงๆเหรอ” เธอเอ่ยถาม
“เขากำลังเตรียมงานวันพรุ่งนี้กับพี่สาวฉันอยู่” โจ่วชิงช๋วนตอบพลางเปิดประตูแล้วเดินขึ้นไปข้างบน
หลินเวยมี่ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เดินตามหลังโจ่วชิงช๋วนไปทีละก้าว ภายในสมองสับสน เธอควรถามกู้จุนเฟิงว่าอย่างไรดีนะ
ผลักประตูเข้าไปก็พบกับคนสองคนนั่งบนโซฟาเหมือนกำลังปรึกษากันอยู่ โจ่วซินที่ได้ยินเสียงเปิดประตูจึงหันไปมอง
“เสี่ยวช๋วน นายไม่ได้ยุ่งอยู่เหรอ” โจ่วซินเอ่ยถามอย่างสงสัย ปกติเธอแทบจะไม่เห็นเงาของอีกฝ่าย ตอนนี้เมื่อพบกันจึงแปลกใจไม่น้อย
หลินเวยมี่หลอบสังเกตโจ่วซินอย่างละเอียด เธอหน้าตาธรรมดาแต่ทุกอย่างบนใบหน้านั้นเมื่อมองแล้วกลับทำให้คนรู้สึกสบายใจ กลิ่นกายหอมอบอวลมีเสน่ห์ บนใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
เมื่อมองไปข้างๆก็ประสานสายตาเข้ากับสายตาเรียบนิ่งคู่หนึ่งทันที
“เสี่ยวช๋วนพาเพื่อนมาด้วยเหรอ” โจ่วซินยิ้มให้หลินเวยมี่พลางพยักหน้าให้เล็กน้อย “ผู้หญิงที่สวยมากๆเสียด้วย”
“แน่นอนสิจะไม่สวยได้ยังไงกัน” โจ่วชิงช๋วนพูดแหย่พลางจูงมือหลินเวยมี่ไปนั่งบนโซฟาด้วยกัน เขาหยิบรูปถ่ายของงานแต่งงานขึ้นมาดูเรื่อยๆ
“ถ่ายออกมาดูดี”
หลินเวยมี่เหลือบมองบ้าง ใบหน้าของเธอซีดลงพร้อมกับใจที่เจ็บปวด แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้
เธอเงยหน้าสบตากับกู้จุนเฟิง สีหน้าของอีกฝ่ายก็ดูไม่ดีนัก คิ้วที่ขมวดเล็กน้อยนั้นดูไม่ค่อยดีใจนัก
ใจของเธอเหมือนหล่นลงจากที่สูง เธอถอนหายใจหนักๆ แล้วแกะมือโจ่วชิงซ๋วนออก “ฉันไปเข้าห้องน้ำนะ”
“ได้สิ ให้ฉันพาไปไหม” โจ่วชิงซ๋วนถาม
เธอส่ายหน้าแล้วเดินไปยังห้องน้ำ เธอมองผู้หญิงจนตรอกที่อยู่ในกระจก มุมปากค่อยๆยกขึ้น รอยบนใบหน้าปรากฏเด่นชัด
แก้มเริ่มบวมบ้างแล้ว พอสัมผัสก็รู้สึกถึงความเจ็บแสบ
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก ใบหน้าไม่แสดงความรู้สึกของกู้จุนเฟิงปรากฏขึ้นด้านหลังของเธอ
เมื่อเห็นรอยบนใบหน้าของเธอ แววตาอีกฝ่ายก็แสดงออกถึงความห่วงใยทันที
“หน้าเธอ…”
“กู้จุนเฟิงเรื่องนี้ไม่สำคัญหรอก เรื่องสำคัญคือคุณทำกับบ้านฉันแบบนี้ทำไม” เธอหมุนตัวไปหาอีกฝ่ายพลางถามเสียงเย็น
“เธอมาที่นี่เพื่อจะถามฉันเรื่องนี้?” สายตาที่มืดมัวไม่ชัดเจน นัยน์ตาลึกจนคาดเดาอะไรไม่ได้ ทำให้มองไม่ออกว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“ตอบฉันมาว่าทำไม” เธอกำมือแน่น สายตาแข็งกร้าว แค่ตอบมาว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับอีกฝ่าย เธอก็พร้อมที่จะยกโทษให้ทันที…
“ฉันบอกเหตุผลกับเธอไม่ได้” อีกฝ่ายตอบเสียงเย็น
หลินเวยมี่หัวเราะหยัน งั้นก็แสดงว่าอีกฝ่ายเป็นคนวางแผนทั้งหมดนี้สินะ ทั้งหมดเป็นฝีมือของกู้จุนเฟิง!
ตั้งแต่แรกที่เข้าหาเธอ ก็คงจะวางแผนเอาไว้แล้วเช่นกัน
เธอก็ยังโง่ที่พาอีกฝ่ายกลับบ้านด้วย เป็นตามที่น้าหรานพูดไว้ไม่มีผิดที่เธอชักศึกเข้าบ้าน
ส่งเธอขึ้นเตียงกับฉู่เฉินซี จัดการกับบริษัทตระกูลหลิน ทำลายชื่อเสียงตระกูลหลิน ทั้งหมดนี้ก็คงวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้วสินะ
“กู้จุนเฟิง ฉันเกลียดคุณ! ที่คุณทำมันสกปรกมาก มันทำให้ฉันอยากอ้วก!”
กู้จุนเฟิงเลิกคิ้วเล็กน้อยพลางมองไปยังสายตาเกลียดชังของเธอ ราวกับมีดที่ปักลงบนหัวใจของเขา มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
แม้ว่ารู้อยู่แล้วว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้แต่เขาก็ยังเจ็บปวดอยู่ดี
ขณะนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าเดินมายังทางห้องน้ำ เป็นโจ่วซินที่ให้มือหมุนลูกบิดประตูจากด้านนอก “จินเฟิง คุณอยู่ข้างในหรือเปล่าคะ”