รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน – ตอนที่ 70

ตอนที่ 70

บทที่ 70 ฉันจะขายตัว(2)

บริเวณการประมูลเต็มไปด้วยเสียงจอแจ ทันใดนั้นก็มีกรงขนาดใหญ่ลอยลงมา ดวงตาของทุกคนต่างจดจ้องภายในกรงนั้น แล้วภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกขังในกรงก็ปรากฏขึ้น

ผู้หญิงคนนั้นตรึงสายตาทุกคนได้ในทันที เธอสวมใส่ชุดเกาะอกหนังสีแดงสด

ชุดนั้นแนบไปกับร่างของเธอจนเห็นสัดส่วนสวยได้ชัดเจน ผู้คนตรงนั้นต่างอุทานอย่างตกตะลึง

กางเกงหนังตัวเล็กรัดสะโพกของเธอแน่น แต่มันก็ปกปิดได้เพียงส่วนสำคัญของเธอเท่านั้น

ผมยาวถูกปล่อยบนไหล่เล็ก หญิงสาวค่อยๆเงยหน้าขึ้น ใบหน้าสวยล้ำนั้นทำให้ทุกคนหายใจสะดุดไปตามๆกัน

คิ้วเรียวสวย ดวงตาหวานหยดย้อย ริมฝีปากแดงระเรื่อ ทุกอย่างรวมกันแล้วช่างดูน่าหลงใหลยิ่งนัก ตอนนี้เธอดูเหมือนเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์ยั่วยวนและร้อนแรง

สายตาของผู้ชายตรงนั้นต่างเต็มไปด้วยความปรารถนา จ้องมองเธออย่างจาบจ้วงไม่ยอมละสายตา

หลินเวยมี่รู้สึกอับอาย เธอสวมชุดแบบนี้พร้อมกับยืนท่ามกลางสายตาของพวกหื่นกาม

เสื้อผ้าพวกนี้ต่างอะไรกันกับการไม่ใส่อะไรเลย แววตาสวยโกรธแค้น มือเล็กกำแน่น

ขณะนั้นเองเธอก็รู้สึกเหมือนถูกจ้องโดยสายตาเยือกเย็นคู่หนึ่ง คิ้วเรียวขมวดแน่น รู้สึกเย็นเฉียบตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอพยายามมองหาสายตาคู่นั้นแต่ก็ไม่พบ

การประมูลยังไม่ทันได้เริ่ม ผู้คนก็เริ่มวุ่นวายเสียแล้ว

ติง!

“ขั้นต่ำห้าแสน” พิธีกรข้างตัวเธอเอ่ยขึ้น

“หนึ่งล้าน!”

“สองล้าน!”

“ห้าล้าน!”

ผู้ชายข้างล่างประมูลราคาแข่งกันอย่างไม่ยอมแพ้

“สิบล้าน” เสียงเย็นดังขึ้น สายตาของทุกคนต่างมองไปยังชายแปลกหน้าคนนั้น

ลานประมูลเงียบลงฉับพลัน หลินเวยมี่มองไปยังชายคนนั้น ดวงตาสวยโศกเศร้า สมองนึกไปถึงคำพูดที่แสนมั่นใจของฉู่เฉินซี

คำพูดที่บอกว่าเธอจะต้องไปขอร้องอีกฝ่าย เธอเลยจงใจที่จะไม่ไปขอร้องอีกฝ่าย ต่อให้เธอต้องอับจนหนทางแต่ไหน เธอก็ไม่ยอมก้มหัวให้ฉู่เฉินซีเด็ดขาด

คนประมูลพาเธอไปที่รถหรูสีดำคันหนึ่งอย่างไม่รอช้า ดวงตาเธอว่างเปล่าราวกับคนไม่มีเรี่ยวแรง

ชายแปลกหน้ายืนพิงรถสูบบุหรี่ ไม่ได้พูดคุยอะไรกับเธอแล้วก้าวขึ้นรถอย่างไม่สนใจ

ลมตอนกลางคืนค่อนข้างเย็น เธอใช้สองแขนโอบกอดตัวเองเอาไว้ ร่างเล็กสั่นด้วยความหนาว สายตาเย็นชามองไปยังรถ ราวกับรถคันนี้เป็นปีศาจร้ายที่เธอไม่กล้าเข้าใกล้

หากเข้าใกล้แล้วเธอจะถูกจู่โจมจนเจ็บตัว

เธอสูดหายใจลึก ดวงตาเจ็บปวดแหงนมองท้องฟ้า

“ยังไม่ขึ้นมาอีก?” กระจกถูกเลื่อนลงพร้อมเสียงเย็นชาที่เอ่ยขึ้น

หลินเวยมี่จึงหันกลับมา สัมผัสคัตเตอร์อันเล็กที่พกไว้ในมือแล้วกำมันไว้แน่น งานประมูลเมื่อครู่มอบเงินให้เธอแปดล้าน เธอโอนมันเข้าบัตรของหลินจ่านหงทั้งหมด เงินจำนวนนั้นคงสามารถชำระหนี้ได้หมด

เมื่อเก็บคัตเตอร์ดีแล้วเธอจึงค่อยๆขึ้นรถไป

บนรถมีเพียงชายแปลกหน้าและคนขับรถ เธอแอบชำเลืองมองชายแปลกหน้าที่นั่งข้างๆ สีหน้าอีกฝ่ายเย็นชา ดวงตายากที่จะยั้งรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร

“จะพาเธอไปดูเรื่องน่าสนุกซักหน่อย” อีกฝ่ายเอ่ยขึ้นอีก

หลินเวยมี่มองอีกฝ่ายอย่างสงสัย ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไร

รถเริ่มเคลื่อนออกไปอย่างช้าๆ แต่ผู้ชายที่นั่งข้างเธอเพียงแต่นั่งเงียบๆ ไม่มองมายังเธอแม้แต่น้อย

เธอรู้สึกไม่สบายใจ เริ่มรู้สึกเหมือนมีอะไรแปลกๆ แต่ก็คิดไม่ออกว่าคืออะไร

ไม่นานนัก รถก็ขับมาถึงริมสะพานของชานเมือง รถหยุดลงพร้อมกับชายคนนั้นที่เปิดประตูลงไป อีกฝ่ายหยิบมือถือขึ้นมา “พวกเราถึงแล้วครับ”

หลินเวยมี่ลงมาจากรถ มองไปยังผู้ชายข้างๆที่ไม่รู้ว่ากำลังคุยโทรศัพท์กับใครอยู่

ไม่นานนัก รถสองคันก็ขับเข้ามา คันแรกเป็นรถหรูสีดำ คันด้านหลังเป็นรถสปอร์ตสีแดง

ประตูรถคันแรกเปิดออก ผู้ชายใบหน้าฟกช้ำสามคนถูกโยนลงมา หลินเวยมี่ตกใจกับภาพที่เห็น คนพวกนี้คือผู้ชายที่ลวนลามเธอที่ร้านเหล้า!

เธอมองรถสปอร์ตคันนั้นอย่างสงสัย กระจกสีดำทึบทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นคนในรถได้ แต่เธอยังรู้สึกได้ถึงสายตาเยือกเย็นที่มองมา

“ครับ เข้าใจแล้ว” ชายแปลกหน้าคนนั้นวางโทรศัพท์ลง แล้วหันไปสั่งคนข้างๆ

“คนพวกนี้รังแกคุณเวยมี่ เฉือนเนื้อพวกมันแล้วโยนให้ปลาในแม่น้ำข้างล่างกินซะ”

หลินเวยมี่ลมหายใจเย็นฉับพลัน มองชายแปลกหน้าอย่างตกตะลึง เธอมั่นใจว่าคนในรถสปอร์ตเป็นคนออกคำสั่งไม่ผิดแน่

ในใจรู้สึกกลัวขึ้นมา เธอพยายามใจเย็นแต่แววตาก็ยังมีประกายของความหวาดกลัวฉายอยู่

“อ๊าก!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น ร่างของหลินเวยมี่สั่นเทิ้ม เธอรีบมองไปยังขอบสะพานที่คนพวกนั้นกำลังร้องโหยหวนอยู่

ลมเย็นๆพัดพากลิ่นคาวเลือดให้ฟุ้งกระจายไปทั่ว จนทำให้เธอวิงเวียนศีรษะและรู้สึกอยากอาเจียนออกมา

ในความมืดมิดเธอมองเห็นสีหน้าเจ็บปวดทรมานของคนเหล่านั้น พวกมันมองเนื้อของตัวเองที่ถูกเฉือนออกมาแล้วโยนลงไปในแม่น้ำทีละชิ้นๆ

เสื้อผ้าบนตัวอาบไปด้วยเลือดสีแดงฉาน จนเปลี่ยนเป็นสีดำเข้ม

มือเล็กกำแน่น ร่างกายสั่นเทา สุดท้ายเธอก็มองไปยังรถสปอร์ต แล้วเท้าอันหนักอึ้งก็ค่อยๆวิ่งไปยังรถคันนั้น

เธอเคาะกระจกรถเบาๆ แล้วเอ่ยออกไปด้วยเสียงสั่นเครือ “อย่าทรมานพวกมันขนาดนี้เลย”

รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน

รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน

Status: Ongoing

หลินเวยมี่ดื่มไปหนึ่งแก้วแล้วก็เมามาย เธอผลักประตูเดินเข้าไปในห้องของโรงแรม เมื่อสบตากับดวงตาสีน้ำตาลที่เข้มลึกนั้น ฉู่เฉินซีรู้สึกถึงความผิดปกติของเธอ ก้มหน้าลงแล้วจูบเธอเบาๆ ตั้งแต่นั้นมาเธอกับเขาก็เริ่มเกี่ยวพันกัน……….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท