แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 77 ใจของเธอทำมาจากหิน?(1)
ฉู่เฉินซีไม่มีแรง ฉะนั้นโดนเธอผลัดไปด้านข้าง สีหน้าเธอซีดมาก มองไปที่ผู้หญิงที่กำลังโมโห ไม่รู้สึกโมโหกลับหัวเราะ “หลินเวยมี่,เธอควรตาย!”
“ฉู่เฉินซี อย่ามารังแกฉันน่ะ ” เธอเอาตัวลงทับที่เขาแล้วจับมือไว้ ทำให้เขาขยับไม่ได้ ทีนี้อยากจะรู้ว่าฉู่เฉินซีจะบีบคอเธอยังไง
ฉู่เฉินซีไม่ได้ขยับตัว สายตามองไปอย่างลึก รอบยิ้มเล็กน้อยอยู่บนมุมปากของเขา “เธอน่าจะไปตาย ฉันอยากจะเอาใจเธอออกมาดูว่ามันทำด้วยอะไร ”
เมื่อหลินเวยมี่ได้ยิน สีหน้าเธอเปลี่ยนไป ผู้ชายคนนี้จะเอาใจเธอออกมา ? ทำไมเขาเป็นคนโหดร้ายแบบนี้! “ฉู่เฉินซี ฉันทำให้เธอเจ็บ เป็นความผิดของฉัน แต่เธอไม่มีสิทธิ์์ที่จะฆ่าฉัน ชีวิตเป็นของฉัน” แม้ว่าเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เบา ๆ ก็ยังสามารถเห็นความกังวลใจของเธอ
ฉู่เฉินซีค่อย ๆ ใจเย็นลง ใบหน้าของเขาแสดงถึงความเหนื่อยล้า ที่จริงแล้วเขาเพิ่งออกมาจากการผ่าตัด ควรที่จะไปพักผ่อน แต่ก็อยากจะมาดูผู้หญิงที่โหดร้ายคนนี้
อยากจะรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นห่วงเขาเลยแม้แต่นิดเดียว แน่นอน หลินเวยมี่ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง เธอกำลังนอนอยู่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผู้หญิงคนนี้ใจร้ายจริง ๆ ใจร้ายถึงขนาดที่เขาเจ็บใจจนหายใจไม่ออก
กำมือไว้แน่น ไม่มีแรงอีกแล้วก็หลับไป
หลินเวยมี่จ้องที่ชายที่อยู่ข้างกายอย่างมึน ๆ เขาหลับไปอย่างสงบ รอบตัวห่อด้วยผ้าก๊อซ บนผ้าก๊อซสีขาวยังเห็นได้ว่ามีเลือดออกมา
เธอมองไปที่เขาอย่างลึกซึ้ง รู้สึกได้การหายใจที่สม่ำเสมอของเขา จากนั้นถึงแน่ใจว่านี่ไม่ใช่อยู่ในฝัน แล้วได้นั่งลงความกังวลที่อยู่ในใจถึงค่อย ๆ หายไป เขาไม่เป็นอะไรแล้ว
นอกประตูห้องหยิ่งเฝ่าดูอยู่ สีหน้าตึงเครียดแล้วเดินไปเดินมาอยู่หน้าประตูตลอด เจ้านายบ้าไปแล้วจริง ๆ เพิ่มตื่นขึ้นมา วิ่งมาที่นี่โดยไม่นึกถึงแผลที่อยู่บนร่างกายตัวเองเลย
แม้แต่เขายังห้ามไม่ได้เลย เจ้านายแผลลึกมาก เกือบจะถึงหัวใจแล้วยังเสียเลือดเยอะมาก เขาไม่รู้ว่าเจ้านายจะอดทนมาถึงที่นี่ได้อย่างไร
ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล การปรากฏตัวของหลินเวยมี่มีผลกระทบกับฉู่เฉินซีอย่างมาก เขาจะต้องทำอะไรไหม ? ตอนนี้เขาสามารถรู้สึกได้ว่าหลินเวยมี่จะเป็นจุดอ่อนของเจ้านายแล้ว
มีเงาคนหนึ่งหลบอยู่ในความมืด สายตามองผ่านที่หยิ่งอย่างเย็นชาแล้วมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ค่อย ๆ เดินออกมา “เธอมาที่นี่ทำอะไร ?”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังและความสงสัย
หลินซิงหยานมองไปที่ห้องหลินเวยมี่และถามต่อไปว่า “เธออยู่หน้าห้องพี่สาวฉันทำไม ? จะทำอะไรที่ไม่ดีใช่ไหม?”
หยิ่งหันหลังมา ขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น “คุณหลินซิงหยาน โปรดกลับห้องของคุณ คุณไม่ควรที่จะอยู่ที่นี่ ”
หลินซิงหยานรู้สึกไม่พอใจ ตะโกนออกที่หน้าประตูด้วยน้ำเสียงที่กังวล “พี่สาว?พี่เป็นอะไรไหม?”
สีหน้าของหยิ่งเปลี่ยนไป รีบไปปิดปากเธอ “คุณหลินซิงหยาน คูณกำลังรบกวนถึงเจ้านายแล้ว ระวังฉันจะไม่ไว้หน้าน่ะ”
ใบหน้าของหลินซิงหยานเต็มไปด้วยความสงสัย แล้วถามอย่างเบา ๆ “น้าไปอยู่ห้องพี่สาวทำอะไรหรือ?”
หลินซิงหยานมองที่ที่หน้าประตูอย่างลึกซึ้ง เหมือนเข้าใจอะไรขึ้นมาถึงหันหลังออกไป
บนถนนเล็กและสงบมีรถจอดอยู่ข้างทางหนึ่งคัน ไม่มีแสงอะไรเลยมีแต่แสงดวงจันทร์ที่ส่องเข้าไปในรถ สามารถเห็นได้ว่ามีสองคนนั่งอยู่บนรถแบบจาง ๆ
“ฉันหาได้แค่นี้ ” เสียงผู้หญิงดังขึ้น แล้วเธอเอาสมุดเล็ก ๆ ยื่นให้กับกู้จุนเฟิง
กู้จุนเฟิงรับสมุดเล็กมาแล้วโยนไปข้าง ๆ พร้อมถามด้วยสายตาที่เย็นชา“หลินเวยมี่เป็นยังไงบ้าง ?”
“เธอยังเป็นห่วงเขาจริง ๆเลยน่ะ หรือว่าเธอก็รักหรือ ”น้ำเสียงผู้หญิงที่ถามเต็มไปด้วยความดูถูก
กู้จุนเฟิงดวงตาขยับนิดหน่อย นิ้วที่จับพวงมาลัยอยู่ขาวซีดไปเลย “ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอสบายดีไหม”
มีฉู่เฉินซีอยู่ข้างเธอ จะไม่สบายได้ยังไง?แต่ว่าฉันอยากรู้จังเลยทำไมเธอถึงเอาเขายื่นให้กับฉู่เฉินซี?” น้ำเสียงผู้หญิงเต็มไปด้วยความสงสัย
มุมปากของกู้จุนเฟิงบ่งบอกว่าเขาไม่อยากคุยต่อและไม่รู้จะทำยังไงดี “คืนนี้เธอพูดมากไปหน่อยล่ะ” ผู้หญิงหัวเราะเยาะขึ้นมา เปิดประตูรถแล้วรีบหายไปกับความมืด
สายตาของกู้จุนเฟิงมองไปที่วิลล่าที่ไม่ไกลจากนี้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหมดหวังในที่สุดเขาก็ขับรถจากไป
กู้จุนเฟิงผลักประตูห้องไป ยังไม่ทันที่จะไปเปิดไฟ ไฟในห้องก็เปิดมาเอง เขาเปิดตาครึ่งหนึ่งแล้วมองไปที่ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนโซฟา สายตาที่มองบอกถึงหมดความอดทน
เอาสูทโยนไปข้าง ๆ แบบไม่ตั้งใจแล้วก้าวเท้าไปที่ห้องนอน
“กู้จุนเฟิง” โจ่วซินใส่ชุดนอนแล้วเรียกเขาด้วยอาการง่วงนอน
กู้จุนเฟิงหยุดเดินแล้วหันไปมองเธอ สายตาที่มองไม่มีความรู้สึกใด ๆ ดวงตาของเขามองมาอย่างลึกซึ้ง
แต่ว่าโจ่วซินไม่รู้ทำไมรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ทั้ง ๆที่กู้จุนเฟิงยังไม่ได้พูดอะไรเลย แต่เธอก็ยังรู้สึกตื่นเต้น
“เธอไปไหนมา?” เธอยืนขึ้นมาพูดอย่างเบา ๆ
กู้จุนเฟิงก้มดูเวลาจะตีสองแล้ว โจ่วซินยังรอเขาอยู่หรือ?