บทที่ 79 เธอไม่ควรได้รับความรัก(1)
ฉู่เฉินซีมองไปที่ผู้หญิงคนที่ยืนพิงร้องไห้เบา ๆ อยู่หน้าประตู รู้สึกเจ็บปวดหัวใจเหมือนโดยมืดแทงอย่างรุนแรง
เจ็บปวดไปถึงกระดูกเลย น้ำตาของเธอเหมือนดาบเข้าไปในใจของเขา
“ใครรังแกคุณ” เขาพูดเสียงต่ำเหมือนเสียงปีศาจที่อยู่ในนรกให้รู้สึกถึงอารมณ์โกรธโมโหอย่างรุนแรง
หลินเวยมี่เงยหน้าขึ้นมามองไปที่คนที่ยืนอยู่หน้าเธออย่างงงและเธอได้หันหน้าไปทางอื่นอย่างดื้อรั้น ดูดจมูกอย่างแรงและส่ายหัวทำเป็นไม่สนใจ“ไม่มี!”
“เธอร้องไห้ทำไมล่ะ?” ฉู่เฉินซีหิ้วเธอขึ้นมา ถามอย่างเย็นชานี่คือครั้งแรกที่เขาเห็นผู้หญิงที่ดื้อรั้นอย่างเธอร้องไห้ขนาดนี้
แม้ว่าเมื่อก่อนจะโดนรังแกหรือโมโหขนาดไหน เขายังไม่เคยเห็นเธอร้องไห้เลย
จนตอนนี้เขาถึงรู้สึกว่าหลินเวยมี่ก็ยังต้องการคนเอาใจใส่เหมือนกัน เธอผอมขนาดนี้ทำให้คนเอ็นดู
ดวงตาของหลินเวยมี่เต็มไปด้วยน้ำตาและเธอมองไปที่ชายคนที่อยู่ตรงข้ามไม่ค่อยชัด เธอยิ้มอย่างเย็นชา ฉู่เฉินซีมีสิทธิ์์อะไรที่ใช้น้ำเสียงที่แหลมคมแบบนี้มาถามเธอ?ยังจะใส่อารมณ์กับเธอ?
แม้ว่าเธอโดนรังแก นั้นเป็นเรื่องของเธอเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับใครเลย
“ปล่อยฉัน!นี่เป็นเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย ครอบครัวพวกเธอไม่มีใครดีเลย ไปให้พ้น!” หลินเวยมี่ผลักเขาไปอย่างคนไม่มีสติ
เธอไม่อยากให้ใครเห็นจุดอ่อนของเธอ
ฉู่เฉินซีถูกเธอผลักลงพื้อไป หลินเวยมี่อึ้งไปเลย เธอคาดไม่ถึงว่าฉู่เฉินซีจะอ่อนแอขนาดนี้ ผลักครั้งเดียวก็ล้มลงกับพื้นเลย?
“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หลินเวยมี่กัดริมฝีปากของเธอแล้วมองไปที่ชายหนุ่มที่หลับตาอยู่บนพื้น
ใช้เวลานานมากยังไม่ได้คำตอบ ใจเธอเริ่มไม่ดีแล้ว รีบก้มหน้ามาตรงหน้าเขาถึงได้สังเกตเห็นว่าหน้าเขาแดงผิดปกติ
เอามือวางบนหน้าผากของเขาจนตกใจเลย เขากำลังเป็นไข้!
“!หยิ่ง” เธอลุกขึ้นยืนอย่างกระวนกระวายและตะโกนออกมา
ทันใดนั้น ประตูห้องเปิดออกมา หยิ่งพุ่งเข้ามาอย่างกังวล เมื่อเขาเห็นฉู่เฉินซีล้มลงกับพื้นใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
“เจ้านาย! เจ้านาย!”
“เขาเหมือนจะเป็นไข้แล้ว!”หลินเวยมี่ขมวดคิ้วและมองไปที่ฉู่เฉินซีที่อยู่กับพื้นอย่างนุ่มนวล
หยิ่งหันหลังไป ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธอย่างแรง เมื่อได้วางฉู่เฉินซีวางลงแล้วมีการโทรออกไม่นานก็มีหมอหลายคนขึ้นมาที่ห้อง
หยิ่งและหลินเวยมี่ถูกห้ามอยู่นอกห้อง หลินเวยมี่มองไปที่หน้าประตูห้องอย่างกังวล และถอนหายใจ ถ้ารู้ว่าฉู่เฉินซีอ่อนแอขนาดนี้ เธอก็ต้องไล่เขาไปตั้งแต่แรก
“คุณหลิน!”
เสียงเรียกที่เต็มไปด้วยความโกรธดังขึ้น หลินเวยมี่หันไปเห็นหยิ่งใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เธอได้ขยับปากเล็กน้อย
“มีอะไร?”
“คุณหลิน ขอให้คุณอยู่หางจากเจ้านาย!” หยิ่งมองหน้าเธอพูดอย่างเด็ดขาด ดวงตาเต็มไปด้วยความโมโห “เจ้านายอยู่กับเธอได้รับบาดเจ็บหลายครั้งแล้ว ฉันไม่อยากให้เขาได้รับบาดเจ็บอีกแล้ว”
ยิ่งกว่านี้ก็คือฉู่เฉินซีให้การเอาใจใส่กับหลินเวยมี่ได้เกินการคาดหวังของเขาแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะไม่ดีต่อฉู่เฉินซี
ทันใดนั้นสีหน้าของหลินเวยมี่เปลี่ยนไปและตอบอย่างถ่อมตนว่า “หยิ่ง ขอให้เธอทำความเข้าใจหน่อย ไม่ใช่ฉันมายุ่งกับฉู่เฉินซี คือเขาต่างหากที่มายุ่งกับฉัน!”
“ยิ่งกว่านั้นก็คือฉันอยากจะให้ฉู่เฉินซีไม่ต้องมาอยู่ในชีวิตฉันอีกต่อไปเลย”
เมื่อหยิ่งได้ยินที่เธอพูด ดวงตาของเขาเริ่มแสดงความโกรธขึ้นมา “คุณหลิน โปรดพูดก่อนคิดน่ะ เจ้านายดีกับเธอขนาดไหน เธอจะไม่รู้หรือ?”
“แค่เรื่องที่เธอทำร้ายเจ้านาย ก็สามารถให้เธอตายมากว่าร้อยครั้งยังไม่พอ! อีกอย่างเมื่อวานเจ้านายตื่นมา มาหาเธอโดยยังไม่ได้กินอะไรเลยและไม่สนใจว่าตัวยังไม่ได้พ้นจากอันตรายเลย เธอยังไม่รู้จักขอบคุณหรือ? ”
“ขอบคุณหรือ?” หลินเวยมี่ยกเสียงขึ้น ดูได้ชัดเจนว่ารู้สึกโกรธเพราะคำพูดของหยิ่ง “ฉันให้เขามาหรือ? ฉันขอร้องเขามาหรือ?”
“เจ้านายเป็นห่วงเธอ!”
“ถ้าเขาเป็นห่วงฉันจริง จะไม่ปล่อยให้บ้านฉันเกิดเรื่องแบบนี้ จะไม่ปล่อยให้พ่อฉันโดดตึกต่อหน้าต่อตา! ความเป็นห่วงของเขาก็แค่ให้ฉันไปขอร้องเขาแล้วมาดูความอ่อนแอของฉัน ! คนแบบนี้ไม่คู่ควรที่จะให้ฉันมาทะนุถนอม” หลินเวยมี่พูดอย่างเย็นชาและสายตามองผ่านประตูห้องแล้วเดินลงชั้นไป
หยิ่งมองไปที่หลังของเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ผู้หญิงอย่างนี้จะคู่ควรที่เจ้านายจะดีด้วยหรือ? หลินเวยมี่รู้สึกอึดอัดใจ เหมือนความกดดันที่มองไม่เห็นทำให้เธอหายใจไม่ออก เธอเดินออกจากบ้าน แต่ได้พบว่าเธอไม่มีที่จะไป แม้แต่เพื่อนที่รู้ใจยังไม่มีเลย
หลังจากนั้นไม่นาน เธอตัดสินใจที่จะไปหาเย่หนิง อย่างน้อยเธอยังมีเย่หนิงเป็นเพื่อนคนเดียวของเธอเท่านั้น มีแค่คนเดียวที่สามารถบอกความในใจ
มาถึงกองถ่าย หลินเวยมี่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ มองดูการแสดงของเย่หนิง เหมือนกับไม่มีตัวตนและไม่มีใครสังเกตเห็นเธอ