บทที่ 82 ฉันเป็นผู้หญิงหรือไม่เธอจะไม่รู้หรือ(2)
หลินเวยมี่รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา รู้สึกได้ว่าเขากำลังโมโหอยู่ หรือว่าเขาโมโหที่เธอออกไปโดยไม่บอกเขา?
ฉู่เฉินซีเดินมาถึงข้างเธอตอนที่เธอกำลังคิดอยู่ มือของเขากดไปที่ไหล่สองข้างของเธอ ทำสีหน้าดุ “ไม่รู้จะพูดยังไงหรือ ? รู้สึกไม่สบายใจ?”
หลินเวยมี่มองไปที่ดวงตาของเขา ทำท่างง ๆ “แผลเธอเป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อฉู่เฉินซีได้ยิน สีหน้าของเขาเหมือนกำลังหัวเราะเยาะคำพูดของเธอยิ่งกว่าเต็ม มือที่กำลังกดไหล่เธออยู่ก็หนักกว่าเต็ม “หลินเวยมี่ เหนื่อยมากเลยใช่ไหม?”
“ไม่เข้าใจเธอสิ่งที่เธอพูด” เธอขมวดคิ้วอยากจะหนีไปจากเขา แต่โดนเขาลากมาที่มุมกำแพง
เขาเอาตัวมาเข้าใกล้ ทำสีหน้าหงุดหงิด “ฉันบอกว่า ทำเป็นห่วงใยฉัน เหนื่อยไหม”
หลินเวยมี่เริ่มรู้สึกตามเขาไม่ทันแล้ว มองเขาแล้วถอนหายใจ “ฉันห่วงเธอแค่เพราะมองเธอเป็นเพื่อน เธอคิดมากไปแล้วน่ะ”
สีหน้าของฉู่เฉินซีหลังจากได้ยินแบบนี้หงุดหงิดยิ่งกว่าเต็ม ใบหน้าที่ไร้สีเลือดเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขาคิดเยอะไปเอง ผู้หญิงที่ใจร้ายอย่างเธอจะมาเป็นห่วงเขาหรือ?
จากเหตุการณ์เมื่อกี้ยังดูไม่ออกหรือ? แม้ว่าเขาจะเป็นลมไป เธอก็สามารถทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเดินออกไป ฉะนั้นตัวเองคาดหวังเยอะเกินไป
“เพื่อนหรือ? ในสายตาของเธอ เพื่อนสามารถนอนด้วยกันหรือ?” เขาเอาตัวทับลงมา ลมหายใจตีมาที่ใบหน้าของเธอ เขาหยิบผมเธอขึ้นมาบีบเล่น
หลินเวยมี่ขมวดคิ้ว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ พูดอย่างโมโห “เมื่อกี้ฉันพูดผิดเอง พวกเราไม่ใช่เพื่อน แค่เป็นคนแปลกหน้า”
“คนแปลกหน้า” เขายิ้มเบา ๆ ดวงตาของเขาดูไม่ออกว่าเขารู้สึกยังไง
“ผู้หญิงอย่างเธอ มีวิธีที่จะทำให้ฉันโมโหทุกครั้งเลย” เขาเข้าใกล้มาแล้วกัดไปที่ติ่งหูของเธอ “แต่ฉันคิดว่าเธอยังไม่ได้ลืมไปว่า ฉันซื้อเธอมาแล้ว”
“แล้วยังไงล่ะ?” หลินเวยมี่ขมวดคิ้วถาม
“ขายให้ฉันแล้ว ฉะนั้นเธอก็ต้องทำตามกติกา” เขายกคางเธอขึ้นมา ให้สายตาของทั้งคู่ได้มองกัน
หลินเวยมี่กัดริมฝีปากแน่น ๆ และดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้า สักพักใหญ่ถึงจะพยักหน้า “ฉู่เฉินซี เธอทำให้ฉันจนไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรแล้ว เธอคิดว่ายังจะทำให้ฉันตื่นเต้นได้หรือ?”
ฉู่เฉินซีมองเธออย่างลึก รู้สึกได้ว่าเธอกำลังควบคุมอารมณ์อยู่ เขายิ้มอย่างเย็นชาแล้วดึงมือเธอเดินไปที่ห้อง
เสียงปิดประตูดังขึ้น ปั้ง ฉู่เฉินซีนอนลงบนเตียง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ทำให้ฉันมีความสุข ถ้าฉันอารมณ์ดีแล้ว ก็จะปล่อยเธอไป”
หลินเวยมี่เดินไปหาเขาอย่างหน้าตาย เสื้อถอดไปทีละชิ้น กัดฟันไว้แน่น ๆ เหมือนกำลังอดทนอยู่
ฉู่เฉินซีมองดูท่าทางของเธอแล้วขมวดคิ้ว พูดว่า “หยาบคาย”
ใบหน้าของหลินเวยมี่ซีดกว่าเต็ม ยิ้มเบา ๆ แล้วก้มตัวลง หยาบคาย? เธอลืมไปหมดแล้วว่าเธอยังมีศักดิ์ศรีอยู่หรือ? หยาบคายแล้วยังไง? ในสายตาของฉู่เฉินซี เธอกับสวิ่งเหินไม่ต่างกันอะไรเลย?
มือเล็กของเธอค่อย ๆ แกะกระดุมของเขา ได้เห็นหน้าอกที่แข็งแรง ส่วนข้างบน ใช้ผ้าพันอยู่ นั้นคือแผลที่เธอแทงเขา มือของเธอเข้าใกล้แผลโดยไม่ต้องใจ ใช้นิ้วรูดผ่านผิวเขาอย่างเบา ๆ
ฉู่เฉินซีมองไปที่เธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความหัวเราะเยาะ “เป็นไง?จำแผลนี้ไม่ได้เลยหรือ? ” ผู้หญิงโหดร้ายอย่างเธอคงจำไม่ได้
หลินเวยมี่เงยหน้ามองไปที่ตาเขา พูดเสียงเบา ๆ “ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ฉู่เฉินซีขมวดคิ้วขึ้น ถามว่า “นี่คือการขอโทษหรือ?”
“ที่จริงแล้วคือเธออยากจะบังคับฉัน” หลินเวยมี่รีบตอบกลับ ยังคงคิดว่าตัวเองไม่ได้ผิด
“นั้นฉันให้เธอทำคืนกลับ” ฉู่เฉินซีดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ที่จริงแล้ว โมโหมาก แต่พอเห็นหลินเวยมี่แล้ว เหมือนหายโกรธเลย
เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่มีจิตใจ ยังไม่รู้จังเป็นห่วงเขาสักหน่อย แม้แต่นิดเดียวก็ยังดี ใบหน้าของหลินเวยมี่เต็มไปด้วยน่ารังเกียจ แต่ยังควบคุมตัวเองได้ และไปแกะเข็มขัดเขาต่อ แต่ในใจด่าเขาไม่รู้กี่ร้อยครั้งแล้ว ผีถึงจะชอบไปบังคับเขา!ผู้ชายคนนี้ชอบคิดไปเอง แม้ว่าชายในโลกนี้ตายไปหมดแล้ว เธอก็ไม่มองเขา
“เธอหน้าแดงทำไม?” ฉู่เฉินซีอยู่ดี ๆ ก็ถามขึ้นมา “ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว จะเขินอีกหรือ?”
หลินเวยมี่เงยหน้ามา มองเขาด้วยความโมโห แต่รู้สึกแก้มหน้าจะร้อนขึ้นมา
“ฉันไม่ได้หน้าแดงหรอก รูปร่างของเธอมีสิทธิ์์อะไรที่ทำให้ฉันหน้าแดงล่ะ?” หลินเวยมี่พูดด้วยน่ารังเกียจ เอากางแกงของเขาถอดมาตรง ๆ ถึงจะรู้ตัวว่าต้องหันหน้าไปทางอื่น
“นี่ก็คือความสุขที่เธอจะทำให้ฉันหรือ?” ฉู่เฉินซีถามต่อ เริ่มที่จะหมดความอดทนและน่าเบื่อแล้ว
“เธอเป็นอย่างนี้แล้วยัง …… ” หลินเวยมี่กัดฟันและหน้าแดงเลย ที่จริงคือเขามีความรู้สึกก่อนหน้านี้แล้ว ทำไมตอนนี้ก็บอกว่าเธอไม่สามารถทำให้เขา?
“ไม่มีขั้นตอนเลย!” ฉู่เฉินซีพูดอย่างไม่พอใจ “หรือว่าจะให้ฉันสอนเธอทำยังไงให้ผู้ชายมีอารมณ์ไหม? เธอเป็นผู้หญิงจริงหรือเปล่า?”
“ฉันเป็นผู้หญิงหรือไม่ เธอจะไม่รู้หรือ?” หลินเวยมี่ตอบอย่างไม่พอใจ พอพูดจบก็รู้สึกอะไรผิดปกติ หน้าแดงถึงคอเลยทันที