บทที่ 81 ฉันเป็นผู้หญิงหรือไม่เธอจะไม่รู้หรือ(1)
หลินเวยมี่เดินออกจากห้อง มองไปที่โจ่วชิงช๋วนซึ่งกำลังยืนพิงทางเดินของโรงพยาบาลอยู่ บนใบหน้าของเธอไม่รู้จะทำยังไงดี “เธอว่างมากหรือ?” พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา แต่เสียงไม่ได้ดุเหมือนเมื่อกี้
โจ่วชินช๋วนยิ้มเบา ๆ ใบหน้าและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและสะท้อนถึงความรู้สึกตื่นเต้น “เวยมี่ ไม่โกรธแล้ว ได้ไหม?”
หลินเวยมี่มองตาบนและเดินผ่านหน้าเขาไป พูดว่า “ยังไม่ตามมาอีก” โจ่วชิงช๋วนเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวและรีบวิ่งไปอยู่ข้างเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เมื่อถึงทางเลี้ยว เธอได้ชนกับผู้หญิงที่ใส่แว่นกันแดดและใส่หมวกอย่างตรง ๆ หลินเวยมี่ตาดีรีบจับผู้หญิงไว้ และยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ถามด้วยความเป็นห่วง “เธอเป็นอะไรไหม?”
ผู้หญิงรีบส่ายหัวและก้มหน้าเดินออกไปแล้วยังไม่ได้พูดสักคำ
หลินเวยมี่หัวเราะเบา ๆ รู้สึกว่าตลก
“เวยมี่ ฉันรู้ว่าใกล้ ๆ นี้มีร้านโจ๊กที่อร่อยร้านหนึ่ง เราไปกินด้วยกันดีไหม?” โจ่วชิงช๋วนจับมือเธอ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยและน้ำเสียงของเขาทำให้รู้สึกเลี่ยนมาก
หลินเวยมี่ขยักมุมปากเล็กน้อย รีบเหวี่ยงมือเขาออก ดวงตามองไปรอบข้าง เธอตาดีเห็นรถออดี้คันสีดำจอดไว้ข้าง ๆ
มุมปากยิ้มอย่างดูถูกมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่จริงแล้วความไว้ใจสามารถถูกทำลายได้ง่ายขนาดนี้ หางตามองที่หลังแบบมองบ้างไม่มองบ้าง รู้สึกได้ว่ามีเงาคนแอบยืนอยู่ด้านหลัง
“เธอรอฉันตรงนี้น่ะ”
พูดจบ หลินเวยมี่เดินตรงไปที่รถออดี้คันสีดำ และได้เห็นใบหน้าของเธอยิ้มด้วยความดีใจ ความรู้สึกเหมือนเห็นแฟน
โจ่วชิงช๋วนขมวดคิ้ว ตาจ้องไปที่หลินเวยมี่ แต่ยังคิดไม่ออกว่าเธอจะทำอะไร แต่เขารู้ว่ารถคันนั้นเป็นของกู้จุนเฟิน
ที่จริงแล้ว กู้จุนเฟินอยู่ที่นี่คือเรื่องบังเอิญ ตอนส่งหลินเวยมี่มาโรงพยาบาลก็ได้บังเอิญเห็นกู้จุนเฟิงอยู่แถวนี้ แต่ไม่คิดว่าเมื่อหลินเวยมี่เห็นกู้จุนเฟินจะมีอาการแบบนี้
อย่างไรก็ตาม แค่ดอกฮว่านเธอทำไมถึงรู้ว่ากู้จุนเฟิงอยู่แถวนี่?เขาถอนหายใจลึก ๆ ดูท่าแล้วยังไงก็ไม่สามารถก้าวก่ายกับพวกเขา เหมือนตอนเด็กไม่มีผิดเลย เขาถูกหลินเวยมี่ลืมตลอด
หลินเวยมี่ยิ้มและเคาะหน้าต่างรถและหน้าต่างรถลงอย่างรวดเร็ว ดวงตาของกู้จุนเฟิงเต็มไปด้วยความสงสัย คาดไม่ถึงว่าเธอจะยิ้มให้เขา
หลินเวยมี่ก้มตัวลงไปเข้าใกล้กู้จุนเฟิง “กู้จุนเฟิง อยากจะลองรสชาติที่คนรักไม่เชื่อใจจะเป็นยังไงไหม?” เธอพูดอยู่ข้างหูเขาโดยไม่มีความรู้สึกใด ๆ และยกหน้ากู้จุนเฟิงขึ้นมาแล้วเอาปากยื่นเข้าไป
หลังจากที่ได้จูบเบา ๆ แล้วเธอยังไม่รู้เลยว่ามือของกู้ กู้จุนเฟิง จับเธอไว้ตอนไหน “เต็มที่หน่อยไม่ได้หรือ?”เขาหัวเราะเบา ๆ กดหัวเธอแล้วจูบเลย
หลินเวยมี่รู้สึกสมองไม่ทำงานเลย เธอกัดริมฝีปากเขาอย่างแรงแม้ได้กลิ่นเลือดก็ยังไม่หยุด จนกู้จุนเฟิงปล่อยเธอไป เธอทำท่าไม่ถูกแล้วถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว มองเขาด้วยสายตาที่ระวัง
กู้จุนเฟิงไม่ได้รู้สึกมีอะไร มองไปทางหลินเวยมี่ด้วยสายตาที่น่าเอ็นดู “เสี่ยวซี กินข้าวให้ตรงเวลาด้วยน่ะ ฉันไม่อยากจะเห็นเธอเข้าโรงพยาบาลอีกแล้ว เธอผอมเกินไปแล้ว”
หลินเวยมี่ถอยหลังอีกหลายก้าว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา สูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินไปหา โจ่วชินช๋วน “ส่งฉันกลับบ้านหน่อย”
โจ่วชินช๋วนทำท่าไม่ถูก มองไปที่หลินเวยมี่อย่างงง สายตาเต็มไปด้วยความเศร้า “ได้เลย”
หลินเวยมี่นั่งอยู่ในรถเงียบ ๆ และก้มหัวลง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด และกำมือไว้แน่นๆ สูดหายใจลึก ๆ ไม่อยากจะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้
โจ่วชินช๋วนยื่นทิชชู่ให้เธอ สีหน้าไม่ปกติ “ริมฝีปากของเธอ……”
หลินเวยมี่มองเขาอย่างงงงวย รีบหยิบทิชชู่มา เช็คปากอย่างแรง เช็คจนทิชชู่ขาดแล้วเลือดแห้งแล้วถึงจะหยุด
“เวยมี่……” โจ่วชินช๋วนเรียกชื่อเธอด้วยเสียงเบา ๆ หันไปมองเธอ“เธอกับพี่เขยตกลงมีความรู้สึกเป็นอะไรกัน”
เมื่อโจ่วชินช๋วนพูดว่าพี่เขยทำให้หลินเวยมี่ตื่นขึ้นมาทันที เธอหัวเราะเยาะแต่ไม่ได้ตอบอะไร ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา
ความรู้สึก? ตอนนี้เธอคงเหลือแค่โกรธ?เธอโกรธผู้ชายคนนี้ที่ทำให้เธอบ้านแตกแยก
“ไปกันเถอะ ฉันเหนื่อยแล้ว อยากจะกลับบ้านไปพักเร็ว ๆ” เธอถอนหายใจแล้วปิดตาพิงที่หน้าต่างรถ
“โง่ ที่จริงเธอสามารถที่จะไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้” โจ่วชินช๋วนถอนหายใจเบา ๆแล้วขับรถออกไป ภายในคฤหาสน์ตระกูลหลินเงียบสงบ ตั้งแต่ไม่มีคนรับใช้แล้วบ้านเงียบจนน่ากลัว
เดินไปสักพักถึงนึกขึ้นได้ เหมือนฉู่เฉินซีจะใช้เตียงเธอไปแล้ว เธอขมวดคิ้วแล้วตัดสินใจว่าไปห้องรับแขกจะดีกว่า
เมื่อได้คิดอย่างนี้ ก็ได้หันหลังจะลงบันได
“เป็นไง? กลับมาแล้วไม่กล้ามาหาฉันหรือ? ” เสียงที่หัวเราะเยาะดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับทำให้ความรู้สึกเย็นชา หันตัวมองไปที่ผู้ชายที่ยืนอยู่บนบันได เขาใส่เสื้ออยู่บ้านชุดสีขาว สีหน้าไม่ค่อยดีน่ะ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความโมโห
เหมือนกับใบมืด กำลังจะขูดเนื้อเธอ