บทที่ 91 ใส่ใจฉันหน่อยไม่ได้หรือ(1)
รู้สึกค้างเจ็บ หน้าเธอเงยขึ้นโดยที่เธอควบคุมไม่ได้ มองไปที่ตาเขารู้สึกน่ากลัว
ไม่เป็นไรจริงหรือ?” เขาพูดทีละคำ รู้สึกได้ว่าเขาเริ่มจะโมโหแล้ว หรือว่าหลินเวยมี่ชอบอยู่กับเฉินเห้าหมิงมากกว่า?เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขารู้สึกหน้าอกอึดอัด
เหมือนของตัวเองโดนคนอื่นจ้องอยู่ รู้สึกไม่สบายเลย
หลินเวยมี่เป็นของเขา ชายคนอื่นไม่มีสิทธิ์์ แล้วส่วนเธอ ยิ่งไม่มีสิทธิ์์ที่จะหนี
“เธอทำฉันเจ็บแล้ว” ดวงตาของหลินเวยมี่มีน้ำตาขึ้นมาพูดอย่างน่าสงสาร
เขารู้สึกอึ้งไปแล้วรีบปล่อยมือ “หลินเวยมี่ ฉันบอกเธอน่ะ อย่าคิดจะหนีจากฉันไปที่อื่น นอกจากว่าฉันเบื่อเธอแล้ว รู้ไหม?”
หลินเวยมี่มองเขาด้วยตาแดง รู้สึกโล่งใจ เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดไม่คิดจะเอาเธอไปให้คนอื่น แต่ทำไมเธอรู้สึกโชคดีน่ะ?
“เธอนั่งอยู่นี่ ฉันไปทำ” พูดจบเขาหันหลังเข้าห้องครัว
หลินเวยมี่มองไปที่หลังของเขาแล้วอึ้งไป สายตามองที่มือตัวเองอีกครั้ง ยาทำให้รู้สึกเย็น ๆ แผลไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่
ไม่นาน ฉู่เฉินซีถือบะหมี่มาสองชามออกมา ยังตั้งใจถือน้ำมันมัสตาร์ดมา
“มากินข้าว” เขาใช้น้ำเสียงที่ออกคำสั่งมาตามที่เคย
หลินเวยมี่นั่งบนเก้าอี้ มองไปอาหารที่อยู่ต่อหน้าเธอ เงยหน้ามองไปที่ดวงตาของฉู่เฉินซี “เธอทำบะหมี่เป็นด้วย”
“แปลกหรือ?” เขายกคิ้วขึ้น เหมือนตอบคำถามของเธอ
“แปลกสิ ผู้ชายอยู่บนยอดอย่างเธอ ทำกับข้าวได้หรือ?ไม่เหมาะเลย” หลินเวยมี่เทน้ำมันมัสตาร์ดลงไป ความอึดอัดเมื่อกี้หายไปหมดแล้ว
“ความสามารถสูงเธอรู้ไหม?” ท่าทางของเขาที่กินบะหมี่ดูแล้วอย่างสง่า ดูแล้วรู้ว่ามาจากชนชั้นสูง
หลินเวยมี่ขมวดคิ้ว ทันใดนั้นรู้สึกว่าใช้ชีวิตเหมือนแบบเขาเหนื่อยมากเลย
“ใส่น้ำมันมัสตาร์ดหน่อย อร่อยมากเลย” พูดจบ เธอเอาน้ำมันไปใส่ที่ชามเขา
ฉู่เฉินซีสีหน้าเปลี่ยนแล้วเงยหน้ามองเธอ “ผู้หญิง เธอใส่ใจฉันบ้างได้ไหม?”
“ฉันกินเผ็ดไม่ได้” เขาลุกขึ้นยืนพูดแล้วก้มตัวลงไปหาเธอ
สายตามองไปที่เธอและดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้า “ไม่รู้จะทำอย่างไรกับเธอดีแล้ว”
เขาถอนหายใจแล้วเดินขึ้นห้องไป ปล่อยให้หลินเวยมี่อยู่คนเดียว
หลินเวยมี่ทำท่างง รู้สึกง่วง ทำท่าไม่เข้าใจแล้วเงยหน้ามองไปที่บันไดที่ว่างเปล่า ทำไมตอนที่ฉู่เฉินซีพูดแบบนั้น เธอรู้สึกเจ็บใจนิด ๆ ?
ขึ้นห้องอย่างเบา ๆ เปิดห้องรับแขกมาห้องหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วนอนอยู่บนเตียงไปอย่างลึก
ในฝัน เสี่ยวจื๋อจับมือเธอแล้ววิ่งทั้งภูเขาที่เต็มไปด้วยดอกไม้ สองคนเหนื่อยแล้วก็ได้นอนอยู่ในสวนดอกไม้ เธอเปิดตาครึ่งหนึ่งมองไปที่พระอาทิตย์ เสี่ยวจื๋อได้ใช้หญ้าที่มีขนมารุดหน้าเธอ
เธอรู้สึกหูคัน ใช้มือผลักเขา “เสี่ยวจื๋อ ไม่เล่นแล้ว”
ฉู่เฉินซีรีบหยุด สายตามองไปที่ผู้หญิง เธอนอนอย่างสงบ ถือคิดว่าอยู่ในฝัน
ถึงกับว่า คิดว่าเขาเป็นคนอื่น
เขายิ้มอย่างเย็นชา ดีมาก ดีมากเลยจริง ๆ ท่าทางแล้วความสำคัญของกู้จุนเฟินอยู่ในใจของเธอมากกว่าที่เขาคิด
แต่ว่า แล้วไงละ?ไม่มีดีขนาดไหน เขาก็จะเอาความรู้สึกนี้ออกให้หมด ไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว เขาลากผู้หญิงที่นอนอยู่ในฝัน มองไปที่ตาของเขา ทิ้งตัวทับลงไปและกัดริมฝีปากเธออย่างหนัก
จนกระทั่งได้กลิ่นเลือด เขาก็เข้าไปอีกครั้ง เหมือนเป็นเจ้าของเข้าไปที่ของเขา เหมือนบอกเธอว่า ใครเป็นราชาของเธอ
เมื่อกลิ่นเลือดกระจายไปทั่ว เขาเหมือนเสือดาวที่กำลังโมโห กัดเหยื่อที่ตัวเองจ้องไว้อย่างแรง ไม่ยอมปล่อยไป
เมื่อหลินเวยมี่รู้สึกเจ็บมาก เธอรู้สึกตื่นเลยทันที จ้องด้วยตาโตดูผู้ชายที่เหมือนบ้าไปแล้ว แต่เธอทำอะไรไม่ได้ ได้แค่ปล่อยให้เขาทำไป
พวกเขาไม่เหมือนกำลังจูบอยู่ แต่เหมือนกำลังต่อสู้กันอยู่
“อือ……” หลินเวยมี่หันหน้าไปทางอื่นอยากจะหนีเขา แต่ก็โดนมือเขาจับหน้าไว้ไม่ให้เธอขยับ
เธอทำใจแข็ง กัดลิ้นเขาอย่างแรง
เขาปล่อยเธออย่างกะทันหัน ใช้มือเช็คที่ปาก เอาเลือดเช็คแห้ง พูดอย่างเย็นชา “เธอกล้าที่จะกัดฉันหรือ?”
หลินเวยมี่ถอยหลัง ผมที่ยุ่งๆ อยู่บนไหล่เธอ ปากซีด ๆ ยังมีเลือดอยู่ ในสายตาของเขาเลือดนั้นเหมือนเป็นยาเสน่ห์สำหรับเขา
รู้สึกหน้าท้องดึงแล้วหายใจแรงขึ้น
ทิ้งตัวลงทับอีกรอบ ทับเธอลง แล้วจับหน้าซีดของเธอเงยหน้ามองเขา
เธอรู้สึกกลัว เหมือนยังตั้งตัวไม่ทันจากเมื่อกี้นี้
“เวยมี่ คนที่อยู่ในใจเธอคือกู้จุนเฟิง?” นิ้วเขาชี้ไปที่หัวใจของเธอ สายตาเต็มไปด้วยข่มขู่
หลินเวยมี่กลั้นหายใจ จ้องเขาด้วยตาโต รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ