บทที่107 สนุกพอหรือยัง(1)
บ้านตระกูลโจ่วสว่างไสว บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเเข็งทื่อขึ้นเรื่อยๆ โจ่วลี่เฉียงสีหน้าครึ้มนั่งบนโซฟา คนที่นั่งตรงข้ามคือฉู่เฉินซี
โจ่วลี่เฉียงเงยหน้าขึ้น กวาดสายตาไปมองบอดี้การ์ดที่ยืนถือปืนอยู่ข้างหลังฉู่เฉินซี ภายในใจโกรธขึ้นเป็นทวีคูณ
“ฉู่เฉินซี ! อย่าคิดว่าเเกเป็นลูกของคุณท่านเเก่ฉู่ เเล้วฉันจะไม่กล้ายุ่งเเกนะ !”
ราวกับว่าฉู่เฉินซีจะทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของเขา เเล้วค่อยๆ หยิบบุหรี่ออกมาอย่างช้าๆ กดเปิดฝาไฟเเช็คหนึ่งเเช็ค จุดบุหรี่ เเละเคลื่อนไหวร่างกายในการสูบบุหรี่อย่างสง่างาม
สายตาเหยี่ยวอันเเหลมคมยกขึ้น จ้องมองไปที่โจ่วลี่เฉียงเเละพูดอย่างไม่เเยเเสว่า “ฉันมารับคนของกลับคืน”
โจ่วลี่เฉียงหัวเราะเยาะครั้งหนึ่ง เอนกายพิงบนโซฟา “ที่นี่ไม่มีคนที่เเกจะมารับ !”
มือของฉู่เฉินซีกำบุหรี่เเน่น ดวงตาของเขาเริ่มเยือกเย็น “หลินเวยมี่”
เมื่อเสียงของฉู่เฉินซีเงียบลง โจ่วลี่เฉียงก็เข้าใจเป้าหมายที่เขามาทันที จริงๆ เเล้วเขามาที่นี่ตอนเที่ยงคืนเพราะผู้หญิงคนนั้น
ชั้นบนมีเสียงผลักประตูดังออกมา โจ่วชิงช๋วนวิ่งกะโผลกกะเผลกออกมา ใช้สายตากวาดมองคนที่อยู่ชั้นล่างลากยาวไปยังประตูหลักของบ้าน ประตูหลักของบ้านเขาห้อยอยู่บนผนังแกว่งไปมา เห็นได้ชัดว่าคนพวกนั้นพังประตูเข้ามา
เเล้วฝ่ายคนของฉู่เฉินซีทั้งหมดก็เอาปืนจ่อโจ่วลี่เฉียง การหายใจของเขาล่าช้าไปสักพัก จากนั้นจึงรีบลงไปอย่างรวดเร็ว
“เเกลงมาทำไม ? ขึ้นไปเดี๋ยวนี้!” โจ่วลี่เฉียงขมวดคิ้วเเละตะโกนใส่เขา
“พ่อ พวกเขามาทำอะไรที่นี่” โจ่วชิงช๋วนเเค่เดินลงบันไดก็ถูกลูกน้องของฉู่เฉินเข้ามาล็อคตัวไว้เเล้วพามา
“เเกจะทำอะไร? ปล่อยลูกฉัน! “โจ่วลี่เฉียงมองเห็นภาพนี้จึงรีบกระโดดจากลงเก้าอี้เเละตะคอกอย่างตื่นตระหนก
ฉู่เฉินซียืนขึ้นและเดินไปฝั่งโจ่วชิงช๋วนอย่างช้าๆ ใบหน้าอันเงียบสงบไร้ซึ่งอารมณ์ และมองดูเขาอย่างเผินๆ
หยิ่งและพวกลูกน้องส่งเสียงอึกทึกขึ้นไปชั้นบน ไปสำรวจเเต่ละห้อง
“เเกจะเเต่งงานกับผู้หญิงของฉันงั้นหรอ ?” เสียงนั้นถามอย่างราบเรียบ สามารถรู้ได้ถึงความโกรธที่ส่งผ่านเสียงของเขาอย่างง่ายดาย
โจ่วชิงช๋วนสูดลมหายใจเฮือกโดยอัตโนมัติ ต้องบอกว่าบารมีของฉู่เฉินซีนั้นยิ่งใหญ่จริงๆ เเค่คำถามหนึ่งประโยคก็ทำให้เขาต้องสั่นสะท้าน
“หลินเวยมี่ตกลงจะเเต่งงานกับฉันเเล้ว” โจ่วชิงช๋วนตอบไม่ตรงคำถาม นี่คือการกระตุกหนวดเสืออย่างไม่ต้องสงสัย
โจ่วลี่เฉียงที่ยืนอยู่ข้างๆ เหงื่อเย็นเเตกพลั่กออกมาเรื่อยๆ ด้วยความเป็นห่วง สบถคำด่าหลินเวยมี่อยู่ในใจที่ทำให้พวกเขาต้องได้รับความเดือดร้อนอย่างสาหัส
“เธอจะแต่งงานกับคนอื่นทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตจากฉันงั้นหรอ ?” ฉู่เฉินซียิ้มเย้ยหยัน เราขยับตัวไปอยู่ข้างๆ โจ่วชิงช๋วน “ไม่เชื่อ เเกก็ลองดู”
โจ่วชิงช๋วนราวกับถูกกระเเทกอย่างเเรง เเววตาของเขาปิดเล็กลง เเละเขารู้สึกว่าอุณหภูมิเย็นเฉียบอัดแน่นเข้ามาเรื่อยๆ
เขาคิดอย่างลังเลว่าถ้าหากเขาแต่งงานกับหลินเวยมี่จริงๆ แล้วละก็ผู้ชายคนนี้คงต้องเอาระเบิดมาปางานแต่งของเขาอย่างแน่นอน ในตอนนี้ก็ไม่ใช่เห็นเขากำลังบ้าคลั่งอยู่แล้วหรอ?
“นายครับ ไม่มี” หยิ่งนำลงมาข้างๆ ตัวเขาและปากพูดขึ้นอย่างเบาๆ
แววตาของฉู่เฉินซีปิดเล็กลง กำหมัดแน่นโดยอัตโนมัติ สีหน้ามืดครึ้มขึ้นได้เรื่อยๆ หลินเวยมี่ไม่ได้อยู่ตรงนี้จริงๆหรอ? ถ้างั้นเธอหายไปที่ไหนกัน?
ความเป็นห่วงผุดขึ้นมาดึงหัวใจเขาอีกครั้ง ความรู้สึกกลัวเเละเป็นห่วงจับอยู่ที่หน้าอกเขาเเน่น
“หาทุกที่หรือยัง?” พยายามกดความตึงเครียดลงไปไว้ในหัวใจของเขาแล้วถามขึ้นอย่างเย็นชา
“ครับ หาหมดเเล้ว เเต่ไม่พบคุณหลินเลย”
โจ่วชิงช๋วนจึงเข้าใจเป้าหมายที่เขามาทันที แท้จริงแล้วเขามาหาหลินเวยมี่ เเล้วหลินเวยมี่ยังไม่ได้กลับบ้านหรอกหรอ? นึกถึงเรื่องนี้ หัวใจของโจ่วชิงช๋วนรัดเเน่นขึ้นทันที
“พวกคุณคือใคร? นี่มันเวลาเที่ยงคืนบุกเข้ามาบ้านคนอื่นโดยพลการแบบนี้ เดี๋ยวฉันจะโทรเรียกตำรวจมาจับพวกคุณ !” คุณหญิงโจ่วเเละโจ่วซินเดินพยุงเข้ามาพร้อมกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“หลินเวยมี่ไม่อยู่ที่นี่จริงๆ เธอออกไปแล้วเมื่อตอนบ่าย” โจ่วชิงช๋วนถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วถามต่อไปว่า “เธอไม่ได้กลับบ้านงั้นหรอ?”
เมื่อฉู่เฉินซีได้ยินแบบนี้สีหน้าก็เย็นมาทันที หลินเวยมี่ไม่ได้อยู่ตรงนี้จริงๆ ด้วย ในตอนบ่ายเธอก็ออกไปแล้ว แล้วดึกขนาดนี้เธอจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ?
มืดขนาดนี้เเล้วอีกอย่างเธอก็ซื่อบื้ออีกด้วย แล้วถูกคนชั่วจับไปจะทำยังไงละเนี่ย ?
ฉู่เฉินซีคิดไปเรื่อยเปื่อยแล้วหันหลังกลับแล้วเดินออกนอกประตูไป
“เดี๋ยวก่อน เขาน่าจะอยู่กับจุนเฟิง” เสียงอันสั่นเครือของโจ่วซินส่งออกมา
ตาของโจ่วชิงช๋วนหรี่เล็กลงและพลางมองไปที่พี่สาวของเขา “พี่ ! พี่พูดซี้ซั้วอะไรเนี่ย?”
ฉู่เฉินซีหยุดก้าวเท้าหันตัวกลับไปมองโจ่วซิน “พี่บอกว่าเขาอยู่กับกู้จุนเฟิงงั้นหรอ ?” แต่ละคำแสดงถึงความโกรธอย่างไม่หยุดยั้ง ห้องรับแขกก็ถูกปกคลุมไปด้วยอากาศที่เย็นอีกชั้นมาเรื่อยๆ
โจ่วซินขมวดคิ้วมองเห็นความโกรธของฉู่เฉินซี ภายในใจรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงที่กู้จุนไม่ได้สนใจเธอแต่กลับไปหาหลินเวยมี่ ทำให้เธอรู้สึกโกรธขึ้น
“หลังจากหลินเวยมี่ถูกไล่ออกไป จุนเฟิงก็ตามไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนได้อยู่ด้วยกันหรือเปล่า”
ฉู่เฉินซียิ้มเย้ยหยัน ในเเววตาเต็มไปด้วยความเฉยชาขึ้นเรื่อยๆ หัวตัวเดินออกไปนอกประตู กลุ่มคนออกไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครม
ผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถหรี่ตาครึ่งหนึ่งและสีหน้าของเขามืดครึ้ม
ดูเหมือนว่าเขาจะสู้กู้จุนเฟิงไม่ได้ หลินเวยมี่สามารถกระโดดตึกโดยไม่ห่วงชีวิตตัวเองเพื่อเขา เเล้วยังเเต่งงานกับโจ่วชิงช๋วนเพื่อขจัดข่าวที่ว่าเธอเป็นมือที่สามของนายกเทศมนตรีกู้
ในความเป็นจริงเเล้วหลินเวยมี่ไม่ใช่คนไร้หัวใจ แต่เป็นเพราะเขาไม่ใช่คนในหัวใจของหลินเวยมี่
เขาหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง ความรู้สึกอัดอั้นตันใจผลักเข้ามาเรื่อยๆ เป็นครั้งแรกที่ฉู่เฉินซีรู้สึกพังย่อยยับขนาดนี้ เขาพ่ายแพ้ให้หลินเวยมี่อย่างสิ้นเนื้อประดาตัว