รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน – ตอนที่ 120

ตอนที่ 120

บทที่ 120 เธอมันไร้ศีลธรรม

โจ่วซินอารมณ์ขึ้น โกรธจนตัวเริ่มสั่น ยกมือง้างท่าจะตบหลินเวยมี่อีกรอบ เธอไม่นึกเลยว่า เธอเป็นเมียน้อยแท้ๆ เธอเอาอะไรมากำเริบอวดดีขนาดนี้?

มื้อที่หวี่ยงไปทางหลินเวยมี่ถูกขวางไว้ เธอมองอย่างประหลาดใจที่มือของหลินเวยมี่นั้นจับกุมข้อมือเอไว้อย่างแน่น สีหน้าเปลี่ยนเป็นบูดเบี้ยว

“คุณโจ่วคะ ฉันไม่ใช่คนที่คุณคิดจะตบก็ตบได้นะคะ ”

หลินเวยมี่มองเธอสายตานิ่ง มุมปากยิ้มหัวเราะเยาะ เดินเข้าไปข้างหน้าเบาๆ

“หลินเวยมี่ ฉันจะบอกเธอให้นะ!ไม่ว่าเธอจะกำเริบอวดดียังไงอีก เธอมันก็ทำเรื่องไร้ศีลธรรมอยู่ดี!”

เธอเดินออกไปจากห้องน้ำ สีหน้าแข็งตึง กำมือ โจ่วซินพูดมันก็ถูกจริงๆนั่นแหละ เธอทำเรื่องผิดศีลธรรมจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ข้างกายใครก็ตาม

ไม่ว่าจะเป็นฉู่เฉินซี หรือว่ากู้จุนเฟิง ที่ลิขิตไว้เธอก็ทำเรื่องผิดศีลธรรม

รู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งตัว ตามที่พนักงานนำทางมา เธอผลักประตูเข้าไปในห้องวีไอพี เดินเข้าไปข้างๆฉู่เฉินซีเบาๆ

ในห้องวีไอพีมีแค่ฉู่เฉินซีกับชายแปลกหน้าคนนั้น ดังนั้นจึงเงียบเหงามาก เมื่อเธอเดินเข้ามา สายตาทั้งคู่ก็หันมามองที่เธอ

แล้วก็สัมผัสได้ว่าหลินเวยมี่อารมณ์แปลกๆ

“คุณฉู่ พวกคุณตามสบายนะครับ ผมมีธุระ เดี๋ยวผมจะไปเยี่ยมเยือนคุณชายฉู่รอบหน้า ”ชายแปลกหน้าทำตามพิธีรีตองแล้วออกจากห้องวีไอพีไป

ให้วีไอพีเหลือเพียงเขาสองคนแล้ว ฉู่เฉินซีเขย่าแก้วเหล้าในมือ มองหลินเวยมี่นิ่งๆ เหมือนรอหลินเวยมี่ขยับเขยื่อน

หลินเวยมี่ก้มหัวอยู่ ไม่ได้สนใจสายตาร้อนเร่าของเขา ในหัวตีกันสับสน ที่จริงกลัวว่าฉู่เฉินซีจะเห็นแผลบนหน้ามากกว่า

“ทำไมออกไปรอบเดียวกลับมาถึงไร้วิญญาณซะล่ะ?”ฉู่เฉินซีถามอย่างจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม

หลินเวยมี่ไม่ตอบ กัดริมฝีปากเบาๆ อยู่ก็เจ็บแสบตรงที่โจ่วซินตบเข้าขึ้นมา

“ไม่เจอคนที่อยากเจอ?”

เขายื่นหน้าเข้ามา กลิ่นกายหอมเตะเข้ามาในจมูก ทำสิ่งที่เขาพูดกลับทำให้หลินเวยมี่ตัวแข็งทื่อ ที่แท้เขาก็รู้ กลัวว่าที่มาที่นี่เพราะเป็นแผนที่เขาวางไว้ดีอยู่แล้ว

มีจุดประสงค์อะไรกัน?ให้เธอกับกู้จุนเฟิงเจอกันเหรอ?จะเป็นไปได้ยังไง?การผูกขาดของเขารุนแรงขนาดนั้น จะเป็นไปได้ยังไงที่จะให้เธอเจอกับกู้จุนเฟิง

“ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?”

คางตึงแน่น หน้าของเธอถูกเขาจับเงยขึ้นมา แววตาของเขามืดเงียบมาก สายตาต่ำลงมองตรงครึ่งซีกของใบหน้าที่ถูกตบ

“ถูกตบมา?แล้วกลัวว่าฉันรู้เหรอ?”ฉู่เฉินซีถามลอยๆ แต่สายตากลับเย็นเฉียบ

“ฉันไม่ทันระวังเลยเดินชน ”หลินเวยมี่หลบสายตาของเขาอยู่ สายตาของเขาราวกับว่ามองเธอกอก

เขายิ้มเบาๆ มองแผลบนหน้าเธออย่างละเอียด “ไม่ทันระวังเลยเดินชนเป็นได้ขนาดนี้เลยเหรอ?เธอนี่ฝีมือสุดยอกเลยนะ?”

หลินเวยมี่ที่โกรธอยู่ในใจ ตอนนี้ถูกเขาพูดแซะแบบนี้ สีหน้าก็ยุ่งขึ้นมากทันที

“ฉู่เฉินซี ไม่ใช่คุณวางแผนเพื่อมาที่นี่หรือไง?คุณรู้อยู่ตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือไง?แล้วจะมาแกล้งเป็นห่วงฉันทำไม?”

“รู้อะไร?รู้ว่าเธอโดนโจ่วซินตบ?”เขายิ้มเย็นชา “อยู่หน้าฉันดุมากไม่ใช่หรือไง?ทำไมตบหญิงคนอื่นไม่ได้?”

หลินเวยมี่หายใจขัด ที่แท้เขาก็รู้อยู่แล้ว ความรู้สึกน้อยใจที่ถูกรังแกก็ค่อยๆเข้ามา ตาทั้งสองข้างอยู่ๆก็มีน้ำเอ่อขึ้นมา เธอรับหันไปอีกฝั่ง ไม่อยากถูกเขาเห็น

“คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?พาฉันมาที่นี่ เพราะดูฉันถูกตบหรอ?ชอบใจใช่ไหม?”

“ไป พวกเราตบกลับ!”ฉู่เฉินซีดึงมือของเธอ ลากไปทางนอกห้องวีไอพี

หลินเวยมี่มึงงง ถูกเขาดึงแบบตัวแข็งทื่อ ตกอยู่ในหัว ฉู่เฉินซีกำลังทำอะไรอยู่?ให้เธอตบกลับ?

“คุณทำอะไร?”เดินถึงหน้าประตู หลินเวยมี่สะบัดออกจากแขนเขาถามอย่างสับสน ถูกท่าทางพูดอย่างทำเขาทำให้ตกใจ

“ไม่ใครที่ตบผู้หญิงฉันได้ ”มือเขาลูบหน้าเธอเบาๆ สายตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

มีความรู้สึกถูกปกป้องขึ้นมา หลินเวยมี่มองจ้องไปที่เขาอย่างอดใจไม่ได้ เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

“เลิกถามได้แล้ว ฉันพูดจริงทำจริง ”เขาหรี่ตามองเธอ “นอกจากบอกว่าจะปล่อยเธอไป ”

หลินเวยมี่ถูกฉู่เฉินซีลากมาถึงโถงใหญ่ จนมองเห็นกู้จุนเฟิงเธอถึงรู้ว่าวิธีแบบนี้มันผิดขนาดไหน

ตอนแรกที่เป็นวันเกิดของโจ่วลี่เฉียง ถ้าพวกเขาตบหน้าลูกสาวเขานั้นไม่ใช่กำลังตบหน้าแก่ๆของเขาเหรอ?อีกอย่างที่นี่ก็ยังมีแขกมีเกียรติมากมายที่กำลังอยู่ที่นี่ โจ่วลี่เฉียงจะยังไงก็เป็นหน่อยกองทหาร เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมรับฉู่เฉินซี

“ฉู่เฉินซี!”เธอรีบดึงมือเขาไว้ มองเขาอย่างตึงเครียด “ไม่ได้ พวกเรากลับบ้าน!”

“แต่เธอถูกตบนะ ”เขาเม้มปากบาง สายตาดุดัน

“ไม่เป็นไร เรากลับบ้าน!เร็ว!”เธอพูดแล้วลากเขาอยากจะเดินไปทางประตู แต่กลับดึงเขาไม่ออก

“ฉู่เฉินซี!ไม่ว่าคุณจะบ้าแค่ไหนก็ไม่สู้กับเขาไม่ได้ใช่ไหม?โง่หรือเปล่าคุณ?”เธอด่าอย่างร้อนใจ แล้วออกแรงรั้งเขาต่อ

ฉู่เฉินซีได้ยินที่เธอพูด แววตาก็เป็นประกาย มุมปากยิ้มขึ้น เดินไปทางเธอ “นี่เธอกำลังเป็นห่วงฉัน?”

“นี่เรื่องจริง!คุณไม่ไว้หน้าเขา เขาต้องหาเรื่องคุณแน่ อย่างทำแบบนี้ พวกเรากลับบ้านกันดีไหม?”หลินเวยมี่พูดอย่างร้อนใจ

“ก็ได้ งั้นพวกเรากลับกัน ”เขายิ้มกว้าง จับเธอมากอด รู้สึกถึงความห่วงใยของเธอครั้งแรกช่างดีใจจัง

หลินเวยมี่โล่งใจ ถูกเขาโอบแล้วเดินไปทางประตู

ทันใดนั้น ชายที่สวมแว่นกันแดดก็ยืนขวางอยู่หน้าประตู เขามองจ้องมาที่ฉู่เฉินซี ใบหน้ายั่วยุ

“โจ่วชิงช๋วน?”หลินเวยมี่ขมวดคิ้วมองไปทางเขา ความรู้สึกผิดในใจก็ชัดขึ้นเรื่อยๆ เขาสร้างความรำคาญให้กับเขา ไม่อยากให้โจ่วชิงช๋วนรู้สึกเจ็บปวดเพราะเธอ

แบบนั้นมันไม่ยุติธรรมกับเขาเกินไป

“มี่มี่ ฉันรู้ว่าเธอถูกบีบบังคับให้อยู่กับเขา ”โจ่วชิงช๋วนมองเธอด้วยสายตาปลอบใจ แล้วก็มองไปที่ฉู่เฉินซี “นายยื่นข้อเสนอมาเลย!ต้องทำยังไงถึงจะปล่อยมี่มี่!”

“มี่มี่ เรียกสนิทสนมกันจัง ”ฉู่เฉินซียิ้มเย็นชา จับมือเธอแน่นขึ้น

“เธอคือผู้หญิงของฉัน ถ้าจะพูดข้อเสนอ……”ฉู่เฉินซีกำลังคิดอย่างถี่ถ้วน เหมือนกับว่าเธอเหมาะสมกับราคาเท่าไหร่

หลินเวยมี่กับโจ่วชิงช๋วนต่าก็รู้สึกประหม่าขึ้นมา รอคำที่เขาจะพูดต่อ แต่ แบบนี้มีหวัง บางทีแค่เขาพูด ก็จะปล่อยหลินเวยมี่จริง

“นายไปตบหน้าโจ่วซินสิบทีแล้วฉันจะปล่อยเธอ ”

หลินเวยมี่ได้ยินแบบนี้ก็ขมวดคิ้วทันที แต่โจ่วชิงช๋วนหน้าสีเปลี่ยน กำมือแน่น

“ฉู่เฉินซี นายก็รู้ว่าฉันทำแบบนั้นไม่ได้!”

“แล้วแต่นาย ไม่รอเวลานะ ”เขายิ้มอ่อน โอบเอวของหลินเวยมี่ไปข้างนอก

โจ่วชิงช๋วนขึ้นมาขวางอีกครั้ง ดึงแขนหลินเวยมี่ “เธอคือภรรยาที่ยังไม่แต่งงานกับฉัน!นายจะเอาเธอไปไม่ได้!”

“เธอคือผู้หญิงของฉัน ”ฉู่เฉินซีมองเขาอย่างดูถูก โอบเอวของหลินเวยมี่แน่น พูดต่อ “นายไม่รู้หรอกว่าเธออร่อยขนาดไหน ทุกคืนฉันไม่อยากห่างจากเธอ เธอคือยาที่ทำให้ฉันบ้าคลั่ง ”

เขาพูดแล้วหันไปโดยที่ไม่สนใจโจ่วชิงช๋วนที่กำลังโกรธอยู่

หลินเวยมี่หน้าซีดแล้วผลักเขาอย่างแรง เขาพูดเรื่องลามกขนาดนี้ต่อหน้าโจ่วชิงช๋วน!เห็นเห็นเธอเป็นอะไร?

“คิดดูสิ ภรรยาที่ยังไม่แต่งงานของนายถูกฉันทับอยู่ด้านล่างแล้วขอร้องให้ฉันยกโทษให้ ”เขายิ้มเย็นชา สายตาเยาะเย้ย ใช้วิธีของตัวเองประกาศอำนาจ

“ฉู่เฉินซี ถึงแม้ว่ามี่มี่จะอยู่กับนาย แต่นายเคยคิดถึงความรู้สึกที่เธอได้รับไหม นายพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าฉัน ตกลงแล้วนายจับเธอไปวางไว้ตำแหน่งไหนกันแน่?เธอเองก็มีศักดิ์ศรี!”โจ่วชิงช๋วนตะคอกเสียงเย็น มองไปที่ใบหน้าของหลินเวยมี่เต็มไปด้วยความน่าสงสาร

ฉู่เฉินซีหันไปมองหลินเวยมี่ เธอเหลือบตาลง กัดปากแน่น เหมือนกำลังข่มอารมณ์อยู่

หัวใจของเขาถูกทุบตีด้วยค้อนที่มองไม่เห็น เขาเกินไปจริงๆใช่ไหม?เขาแค่ต้องการที่จะบอกชายคนอื่นว่าหลินเวยมี่เป็นของเขาแล้ว ไม่อนุญาตให้พวกเขาสอดแนม

วิธีที่เขาทำแบบนี้มันผิดไปแล้วใช่ไหม

“นั่นมันก็เรื่องของพวกเรา!อยากได้เธอ ก็งัดฝีมือของตัวเองมา ”ฉู่เฉินซีร้อนใจแปลกๆ โอบเอวหลินเวยมี่เดินออกไป

บนรถ ทั้งคู่เงียบไร้บทสนทนา หลินเวยมี่เบี่ยงสายตาไปด้านนอก กัดริมฝีปากแรงจนรับรู้รสชาติเค็ม ตอนนี้เธอทำได้แค่อดทน อดทนไม่ให้โมโหออกมา พยายามไม่สนใจ หัวใจจะได้ไม่เจ็บ

เธอรู้ รบกับฉู่เฉินซีคนที่จะเจ็บก็จะมีแต่ตัวเอง

“โกรธเหรอ?”ในที่สุดฉู่เฉินซีก็ถามออกมา

หลินเวยมี่ส่ายหัว ยังคงขี้เกียจจะเผชิญหน้ากับเขา มองดูโลกภายนอกอย่างเงียบๆ พยายามให้จิตใจสงบ

“ไม่ได้โกรธ?”เขาจับคางของเธอแล้วจับเธอหันหน้า มองเธออย่างละเอียด เหมือนกับแค่มองอารมณ์บนหน้าก็ดูออกว่าอย่างมั่นใจเธอโกรธ

แต่เธอนิ่งมากจริงๆ ต่อให้ตัวเองพูดทำร้ายขนาดนั้น เธอก็ไม่โกรธ

สถานการณ์แบบนี้เหมือนจะไม่ดี คิ้วเขาขมวดแน่นเข้าด้วยกัน ดูดบุหรี่อย่างทุกข์ใจ

ถึงคฤหาสน์ ฉู่เฉินซีเดินลงไปก่อน ใบหน้าร่างสูงหมอง สุนัขเหมือนลูกหิมะวิ่งเข้ามา กระดิกหางวิ่งเข้ามาราวกับดีใจ

หลินเวยมี่ตามอยู่ด้านหลังเขา มองเห็นสวิ่นเหินสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดทันที เดินตามเขาอย่างระมัดระวัง กลัวสวิ่นเหินจะสนใจเอา

ฉู่เฉินซีมองแว็บเห็นหน้าขาวซีดขาวของหลินเวยมี่ ก็รู้ว่าเธอกลัวหมา แค่ไม่คิดว่าจะกลัวถึงขั้นนี้

เขาตั้งใจยืนลูบขนสวิ่นเหินเบาอยู่กลางบ้าน หางตากลับมองหลินเวยมี่อยู่ตลอด

เหมือนกังวลอยู่หน่อยๆ ยืนอยู่ข้างหลังเขาไม่รู้ว่าจะเข้าไปก่อนยังไง หรือว่าควรยืนรออยู่ตรงนี้ ถ้าเข้าไปก่อน ก็กลัวจะไม่มีเกราะป้องกันของฉู่เฉินซี สวิ่นเหินอาจจะกัดเธอ

“ฉู่เฉินซี……”ในที่สุดหลินเวยมี่ก็พ่ายแพ้ กระตุกเสื้อเขา “คุณพามันออกไปได้ไหม?”

“เธอหลัวเหรอ?จริงๆแล้วมันน่ารักมากนะ ”ฉู่เฉินซีดึงมือเธอไปลูบที่หัวของสวิ่นเหิน

“โฮ่ง”

สวิ่นเหินสายตาแสดงความตื่นเต้นอย่างรวดเร็ว ตาโตจ้องมองที่หลินเวยมี่

หลินเวยมี่รีบชักมือออกมาอยางไวตอนที่เรียกเธอสวิ่นเหิน ถูกสวิ่นเหินทำให้ตกใจจนชะงักไปทั้งตัว

“เอาลงไป!”ฉู่เฉินซีก็ดูเหมือนจะคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ยื่นมือไปจับเสียงเข้มต่ำพูด รีบมองไปที่หลินเวยมี่ “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสวิ่นเหินจะตอบกลับแรงขนาดนี้ ”

หลินเวยมี่ดวงตาของเธอหมองขึ้นมา มองเขาอย่างตำหนิ เมื่อกี้ถูกสวิ่นเหินทำให้ตกใจ ตอนนี้ใจยังเต้นแรงอยู่เลย

“มัน…..คือตัวเมียใช่ไหม?

รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน

รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน

Status: Ongoing

หลินเวยมี่ดื่มไปหนึ่งแก้วแล้วก็เมามาย เธอผลักประตูเดินเข้าไปในห้องของโรงแรม เมื่อสบตากับดวงตาสีน้ำตาลที่เข้มลึกนั้น ฉู่เฉินซีรู้สึกถึงความผิดปกติของเธอ ก้มหน้าลงแล้วจูบเธอเบาๆ ตั้งแต่นั้นมาเธอกับเขาก็เริ่มเกี่ยวพันกัน……….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท