รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน – ตอนที่ 133

ตอนที่ 133

บทที่ 133 คิดถึงเธอ

สีหน้าของฉู่หรานแข็งทื่อ คิดไม่ถึงว่าหลินเวยมี่นั้นจะกล้าไล่เธอออก สีหน้าดูแย่ขึ้นมาก เอาหลินซินหรานผลักไปอีกด้านนึง แล้วสาวเท้าเดินเข้ามาด้านหน้าของหลินเวยมี่

” นี่แกอยากไล่ฉันออกหรอ แกคิดว่าแกมีสิทธิ์นี้หรอ”

“ไม่ใช่ว่าฉันอยากไล่ แต่เป็นคุณเองที่กระวนกระวาย”ใบหน้าของหลินเวยมี่มองเธออย่างเมินเฉย ตอบอย่างไม่เย่อหยิ่ง

สีหน้าของฉู่หรานซีดเซียว กัดฟัน อยากที่จะบีบคอหลินเวยมี่ที่อยู่ตรงหน้าให้ตาย

” ฉันกระวนกระวาย? แล้วเธอล่ะ ยั่วยวนน้าของเธอ ไม่หน้าด้านกว่าหรอ”ฉู่หรานพูดอย่างเยือกเย็น นัยน์ตานั้นเผยให้เห็นความโกรธ

สีหน้าของหลินเวยมี่แข็งทื่อ ที่แท้ฉู่หรานก็รู้ความสัมพันธ์ของเธอกับฉู่เฉินซี

“หึ เกรงว่าคิดว่าตัวเองนั้นจะยั่วยวนเฉินได้ก็คงไม่มีอะไรให้ต้องกลัว?เฉินเป็นคนแบบไหนคิดว่าฉันที่เป็นพี่สาวไม่รู้หรอกหรอ เฉินก็แค่เล่นๆกับเธอ” ฉู่หรานมองเธออย่างเหยาะเย้ย สายตาดูถูก

หลินเวยมี่จับผ้าปูเตียงแน่น ถลึงตามองฉู่หราน เธอนั้นกลับหาคำพูดโต้ไม่เจอ

ไม่อยากให้คนอื่นพูดถึงเรื่องของพวกเขาเพราะไม่ชอบ

” ถูกฉันพูดแทงใจดำใช่ไหมล่ะ” เธอมองค้อนหลินเวยมี่ แล้วยิ้ม ” เธอคงน่าจะถูกเฉินไล่ออกมา น่าสงสารจริงๆ”

ฉู่หรานส่ายหน้า และเดินออกไปข้างนอกห้องอย่างภาคภูมิ

หลินเวยมี่สีหน้าแข็งทื่อมาก ใบหน้าไม่มีเลือดในตามีความเสียใจ

” พี่อยากฟังที่แม่พูด”หลินเวยมี่พูดปลอบอย่างระมัดระวัง สายตานั้นเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย

หลินเวยมี่ ก้มหน้าอย่างหมดแรง ถ้าหากว่าพวกเขานั้นไม่ได้เคยอยู่ด้วยกันแล้วจะถูกฉู่หรานพูดตรงจุดได้ยังไง?

“ซินหราน อย่าพูดเลยพี่ต้องการพักผ่อนซะหน่อย”

หลินซินหรานมองเธออย่างกังวล แต่สุดท้ายก็เดินออกไป” งั้นพี่ก็พักผ่อนนะ”

หลินเวยมี่ นอนอยู่บนเตียงรู้สึกว่าในใจนั้นว่างเปล่าเหมือนขาดอะไรไป

หายใจเข้าลึกๆแล้วจะหลับตาลง เข้าสู่ห้วงนิทรา

ในห้องรับแขกแสงไฟสลัวในมือของฉู่หรานนั้นคีบบุหรี่ มองผู้ชายแก่อยู่ตรงหน้าอย่างเมินเฉย

” นี่คือเงินของครั้งนี้ถ้าทำสำเร็จแล้วเราก็ฉันก็จะให้อีกครึ่งนึง”

ฉู่หรานมองเงินที่อยู่ตรงชุดชาแล้วยิ้ม”ดี แต่ว่าเธอนั้นรับมือยากซะหน่อย”

” ถ้าไม่รับมือยากก็ไม่ใช่ผู้หญิงนะสิ เพลงแค่ทำสำเร็จแล้ว เดี๋ยวเธอก็ยอมเอง” ชายแก่นั่งหัวเราะแห้งๆ ข้างแก้มอ้วนๆเผยให้เห็นถึงความมัน

ฉู่หรานพยักหน้า สายตาปรากฏความแวววาว มุมปากยิ้มกว้าง

หลินเวยมี่ ไม่ถือว่าหลับลึกมาก ที่ข้างหูก็ได้ส่งเสียงเบาขึ้นมาเธอขมวดคิ้วแต่ว่าไม่ได้ตื่นในทันที

เหงาของคนคนนึงค่อยๆมาที่ข้างเตียง มองดูผู้หญิงที่หลับอย่างสงบมุมปากมันก็ยิ้มแล้วโถมเข้าไป

หลินเวยมี่ รู้สึกว่าทั่วร่างนั้นหนักหน่วงส่งเสียงร้อง ในขณะที่ตาลีตาลานนั้นก็รู้สึกว่าผ้าห่มถูกเปิดออกคนร่างกายอ้วนคนหนึ่งได้โถมเข้ามาที่ส่วนล่างของเธอ

” แกเป็นใครออกไป” ในขณะที่ตะลีตะลานนั้น หลินเวยมี่ตะโกนร้องขึ้น

ผู้ชายที่อยู่ใน ที่มืดนั้นยิ้ม แล้วดึงเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกายของเธอ” พวกเราเจอกันตอนบ่ายจำไม่ได้แล้วหรอ”

” ไสหัวไปฉันไม่รู้จักแก”

ในขณะที่ตาลีตารางเธอผลักเขาออกด้วยความกลัว แต่ว่าแรงของเธอนั้น สู้แรงของเขาไม่ได้เลย

ทันใดก็ให้รู้สึกว่าตรงคอนั้นถูกๆหลายรอบ ความสะอิดสะเอียนก็ได้ทะลักเข้ามา เธอจะไปที่ผมของชายแกอย่างรุนแรง แล้วพยายามหลบเขา

” เชื่อฟังฉันฉันสัญญาว่า เธอจะสุขสบาย” ชายแก่หัวเราะแล้วกัดที่คอของเธอลงไปอีก

” ไสหัวไป”หลินเวยมี่แผดเสียง ในขณะ ที่ลนลานนั้นมือไปจับนาฬิกาปลุกที่เป็นเหล็ก แล้วฟาดไปที่หัวของผู้ชายแก่นั้น 3 ที

ชายแก่นั้นร้องแล้วเอามือกุมหัวล้มลงกับพื้น

หลินเวยมี่ เปิดไฟมองดูผู้ชายที่กุมหัวอยู่ที่พื้น แล้วก็จำได้ทันทีว่าเป็นผู้ชายที่เธอนั้นสลัดออกเมื่อตอนบ่ายจากฉู่หราน

และในเวลานี้ประตูก็ได้ถูกเปิดออกหลินซินหราน มองดูข้าวของระเกะระกะอยู่ในห้อง อาการนั้นก็ค้าง แล้วรีบมาที่ด้านหน้าของหลินเวยมี่

” พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

หลินเวยมี่ แค่หายใจถี่ ของผู้ชายที่ร้องตะโกนอย่างเยือกเย็น มือที่กุมนาฬิกานั้นกำแน่น

“โอ๊ย นี่มันเกิดอะไรขึ้น”ฉู่หรานเข้ามา สีหน้าทำเป็นตกใจแล้วรีบประคองผู้ชายแก่ขึ้นมาจากที่พื้น

“คุณหวัง คุณเป็นอะไรไปคะ”

ชายแก่นั้นร้องเลือดนั้นให้ไหลออกมาจากที่หัว ดูน่ากลัว

ฉู่หราน เห็นเขาไม่พูดอะไรจึงทำได้แค่มองไปที่หลินเวยมี่”หลินเวยมี่ นี่เธอทำอะไรต้องลงไม้ลงมือกันขนาดนี้เลยหรอ เธอตีคุณหวังหรอ”

“ฉู่หราน ทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่ห้องฉัน”มือของหลินเวยมี่ที่ถือนาฬิกานั่นสั่น สายตานั้นเย็นชามากยิ่งขึ้น ผู้ชายคนนี้เห็นได้ชัดว่าถูกฉู่หรานส่งมา

สีหน้าของฉู่หราน งั้นไม่เป็นธรรมชาติและลนลาน” ฉันจะไปรู้ได้ยังไงบางทีคุณหวังอาจจะเดินผิดห้องหรือเปล่า”

” ไสหัวไปไสหัวไปให้หมด”หลินเวยมี่กัดฟันพูดตะคอก

ฉู่หรานมองเธอปราดนึง แล้วรีบพาคุณหวังออกไป

” พี่คืนนี้ฉันนอนเป็นเพื่อนพี่ก็ได้”หลินซินหรานมองเธอ

“ไม่ต้อง”

หลินเวยมี่ให้รู้สึกว่าทั่วร่างไม่มีกำลังเลยสักนิด และให้ส่งถึงความรู้สึก ร้อนขึ้นมาหลังจากที่หลินซินหรานไป ก็ล็อคประตูอย่างดีแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ

ยังคงมีเลือดไหล หลังจากที่ดึงทิชชู่มาก็เปลี่ยน ชุดนอนใหม่แต่กลับไม่ง่วงนอนเลย ตามองค้างอยู่ที่เพดาน ใจรู้สึกอ้างว้าง

ชีวิตของเธอนั้นยุ่งเหยิง อีกครั้งตอนนี้ได้ทำให้ฉู่หรานไม่พอใจเลยใช้ชีวิตอยู่ลำบาก

ถอนหายใจยาวๆแล้วมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ในสมองนั้นกลับคิดไปถึงตอนที่ฉู่เฉินซี ทำผ้ากันเปื้อนทำอาหารอยู่ในครัว

ในอีกบ้านอีกหลังหนึ่งนั้นอ้านเย่มอง ผู้ชายที่ดื่มเหล้าอยู่ข้างข้างโซนชั้นเหล้าก็ให้ถอนหายใจไม่ได้ เดินเข้าไป เก็บขวดเหล้าเปล่ามาวางไว้อีกด้านหนึ่ง

” เจ้านายอย่าลืมเลยครับ”อ้านเย่พูดชักชวน

ฉู่เฉินซี กวาดตามองเขาอย่างเยือกเย็น กินเหล้าให้เต็มไปทั่วร่าง” ไสหัวไป ใส่หัวไปให้หมด จะไปแล้วไม่ใช่หรอไป ไปซะให้หมด”

อ้านเย่มองฉู่เฉินซีที่แผดเสียงตะคอกก็อดที่จะส่ายหน้าไม่ได้ แล้วชักใส่ตาให้กับลูกน้องที่อยู่ด้านข้างลูกน้องที่อยู่ด้านข้างก็พากันออกไป

” เจ้านายแผลของเจ้านายยังไม่ดีดื่มเหล้าไม่ได้”อ้านเย่ พยายามแย่งขวดเหล้าที่อยู่ในมือของเขาออกมา แต่ว่ากลับถูกเขาหลบ

” ออกไปออกไปให้หมด” เขาแผดเสียงอย่างรำคาญ ถือขวดเหล้าแล้วเดินโซซัดโซเซ” บอกว่าจะไปไม่ใช่หรอไปสิอย่ากลับมา”

อ้านเย่ถอนหายใจ แล้วถอยกลับไปออกมาอยู่ที่ในสวน หยิ่ง ยืนอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์อย่าเงียบๆ บนแขนของเขายังคงถูกผ้าก๊อตพันไว้

” แขนของนายเป็นยังไงบ้าง”อ้านเย่เดินเข้ามาพลางถาม

หยิ่ง กวาดสายตาไปมองทางห้องรับแขกอย่างเมินเฉย ไม่นานก็ได้ยินเสียง แปลกของของดังออกมา

“เละเทะ”

อ้านเย่ พยักหน้าแล้วก็ให้มองไปที่ห้องรับแขกตามหยิ่ง” เจ้านายนั้นรักคุณหลินเวยมี่จริงๆ เมื่อวานคุณหลินเวยมี่จากไป เจ้านายกลับมาก็เอาแต่ดื่มอยู่ในห้องรับแขก เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ใช่วิธีแก้ หรือว่าจะเรียกคุณหลินเวยมี่กลับมา”

” ไม่เหมาะ มันไม่ง่ายเลยที่เจ้านายจะปล่อยได้ จะให้หลินเวยมี่มาปรากฏตัวอีกไม่ได้”หยิ่งพูดอย่างเด็ดเดี่ยว หรี่ตามองไปที่ฉู่เฉินซี” ฉันจะให้หลินเวยมี่นั้นกลายเป็นรอยแผลใหญ่ของเจ้านายไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะกระทบกระเทือนต่อเจ้านาย”

อ้านเย่ถอนหายใจ สายตานั้นมองฉู่เฉินซีที่อยู่ในห้องอย่างลึกซึ้งยอมรับในความคิดเห็นของหยิ่ง

ฉู่เฉินซีนอนแผ่อยู่บนเตียง ของที่อยู่ข้างกายอันไหนพังได้ก็พัง เขาเบิกตามองแล้วถอนหายใจ สายตานั้นล่องลอยไหนบอกว่าดื่มเหล้าแล้วจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างได้แต่ทำไมเขากลับยังจำได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

เขาจำได้ชัดเจนว่าหลินเวยมี่จากไป ไปแล้ว ไม่อยู่ที่นี่แล้ว

หัวใจนั้นเหมือนมีความรู้สึกว่างเปล่าแล้วก็ให้ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัว ในสมองนั้นก็คิดถึงท่าทางที่ยืนของเธอมันสวยงามมากแล้วก็มีความรู้สึกดีใจอย่างแปลกๆ

เขาเดินไปรอบๆทุกซอกทุกมุมทั่วบ้าน แค่เป็นแค่ที่เธอนั้นเคยอยู่ราวกับว่า มันมีเงาของเธอ ในตู้เสื้อผ้า เสื้อผ้าของเธอยังคงแขวนก็อยู่ข้างในก็เหมือนว่าเธอนั้นกำลังอยู่

ในห้องนั้นเหมือนยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเธอ เขาแพ้นอนบนเตียง แล้วสูดหายใจเข้าลึกลึกเหมือนกับ รับรู้ การดำรงอยู่ของเธอ และกลิ่นอายของเธอ

แต่มันก็แค่คืนเดียวเท่านั้นความคิดถึงเหมือนจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น และยังคงกระตุ้นสดประสาทของเขาทั้งหมด ทุกๆอณูให้คิดถึงแต่เธอและเธอ

หลินเวยมี่นั้น ได้หล่อๆเป็นเลือดเดียวกันกับของเขาตั้งนานแล้ว วนเวียนอยู่ในร่างกายของเขาและเขานั้นก็ ละเธอไปไม่ได้จากเธอไปไม่ได้

“ปีศาจน้อย…. ทำไมเธอทรมานฉันอย่างนี้”

เสียงทุ้มต่ำนั้นดังไปทั่วห้องนอน จะกลับไม่มีเสียงตอบรับ

เช้าตรู่หลินเวยมี่ ก็ได้ตื่นขึ้นมาแล้วทำอาหารเช้ากินแบบง่ายๆนั่งลงบนเก้าอี้มองหนังสือพิมพ์ แล้วดูบนคอลัมน์สมัครงานอย่างละเอียด

เธอนั้นเรียนการจัดการการเงิน จะว่าไปก็ถือว่า หางานง่ายๆ แต่ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอนั้นเป็นคนใหม่ 100% ไม่มีประสบการณ์การทำงานเลย

” พี่พี่ตื่นเช้ามากเลย”หลินซินหราน ใส่ชุดนอนเดินออกมานั่งข้างเธอ” พี่จะไปทำงานหรอ”

“ใช่ มีแพลนอยู่ตอนบ่ายว่าจะไปหา”หลินเวยมี่ตอบไม่ละตาจากหนังสือพิมพ์

หลินซินหราน มองเธออย่างเงียบๆไม่พูดอะไร นัยน์ตามีความลึกซึ้ง

เสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้น หลินเวยมี่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเป็นเบอร์แปลกเธอลังเลใจอยู่สักพักแล้วจึงกดรับ

“หลินเวยมี่ฉันโจ่วซินนะ มีเวลาคุยได้ไหม”

หลินเวยมี่ชะงัก คิดไม่ถึงว่าคนที่โทรมาจะเป็นโจ่วซิน อีกทั้งยังพูดอย่างสงบสติอารมณ์อย่างนี้ด้วย

” มีเรื่องอะไรเธอก็พูดมาตรงๆเถอะ ฉันคิดว่าพวกเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพบกัน” ตอนนี้พละกำลังในการต่อสู้ของเธอนั้นแทบไม่มีเลยและก็ไม่อยากมีเรื่องกับโจ่วซิน

” เป็นเรื่องเกี่ยวกับกู้จุนเฟิง”โจ่วซินเงียบสักพักแล้วจึงพูดขึ้น

หลินเวยมี่ตะลึงแปปนึงแล้วจึงตอบกลับ จนกระทั่งวางสายไปเธอก็ไม่ได้สติกลับมาหลังจากทีลากู้จุนเฟิงที่สนามบินแล้ว ไม่รู้ว่าสองวันนี้เขาเป็นอย่างไร

และโจ่วซินที่โทรมาหาเธอยังเพราะเรื่องอะไรอีก?

รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน

รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน

Status: Ongoing

หลินเวยมี่ดื่มไปหนึ่งแก้วแล้วก็เมามาย เธอผลักประตูเดินเข้าไปในห้องของโรงแรม เมื่อสบตากับดวงตาสีน้ำตาลที่เข้มลึกนั้น ฉู่เฉินซีรู้สึกถึงความผิดปกติของเธอ ก้มหน้าลงแล้วจูบเธอเบาๆ ตั้งแต่นั้นมาเธอกับเขาก็เริ่มเกี่ยวพันกัน……….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท