บทที่160 งานเลี้ยงบ้าน
จู่ๆ เธอก็รู้สึกเจ็บคาง เธอลืมตามองก็เห็นใบหน้าของฉู่เฟยหยางที่เต็มไปด้วยความสะใจ แล้วเอ่ยถามเธอ “ไม่รู้สึกอะไรหรอ” เขายกยิ้มมุมปาก
หลินเวยมี่จ้องเขาตาไม่กะพริบ กัดฟันแน่น เอ่ยกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย ไม่รู้เป็นเพราะว่ากลัวคนข้างห้องจะได้ยินหรืออะไร
“ฉู่เฟยหยาง คุณปล่อยฉันไปเถอะ เขาไม่ได้รู้สึกไรกับฉันหรอก คุณก็เห็นหนิ คนที่เขาชอบน่าจะเป็นฐาลี่ ไม่ใช่ฉัน”
เขาหัวเราะเยาะ แล้วเอื้อมมือไปจับหน้าเธอ บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้น
“ถ้าเรื่องมันง่ายขนาดนี้ ฉันจะเสียเวลาไปจับเธอมาทำไม”
หลินเวยมี่โมโห หันไปมองทั้งคู่ก็ยังคงจูบกันอย่างร้อนแรง ทั้งคู่ยังคงจูบกันอย่างดูดดื่ม
“พาฉันออกไปจากที่นี่”
ฉู่เฟยหยางยกยิ้มมุมปาก “ทำไม ทนดูไม่ได้แล้วหรอ”
“เบื่อ”
“เบื่องั้นหรอ งั้นเรามาหาอะไรทำกันดีมั้ย”
เขาเลื่อนมือไปจับเอวเธอ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอ แล้วหายใจรดแก้มเธอ
แค่เพียงแตะริมฝีปากเธอ เขาก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา
“กล้ากัดฉันหรอ” เขาเอ่ยถามด้วยสีหน้าแววตาไม่พอใจ
หลินเวยมี่ทำหน้า ท่าทางรังเกียจเขา
“ยายบ้า” เขาเอื้อมมือไปจิกหัวเธอ “ช่างมันเถอะ จะทำให้เธอมีแผลไม่ได้ คืนนี้เธอต้องไปร่วมงานเลี้ยงกับฉันที่บ้าน ทำตัวให้มันดีๆ หน่อย”
เขาผลักเธอออก แล้วเอื้อมมือไปหยิบทิชชูมาเช็ดเลือดที่ปาก
เธอเงยหน้ามองคนตรงหน้า แล้วภาพก็ค่อยๆ มัว แล้วมืดดับไป
“ยายบ้า ฉ้นขอเตือนเธอ…….”
ยังไม่ทันที่ฉู่เฟยหยางจะพูดจบ ก็ได้ยินเสียงคนล้มลง เขารีบหันไปมองก็เห็นเธอนอนหมดสติล้มลงไปที่พื้น
“อ่อนแอจริงๆ”
ข้างห้องจูบกันจบลง เธอเอื้อมมือไปกอดคอเขาไว้ แล้วเอ่ยพูดขึ้น “เฉิน เดี๋ยวไปห้องฉันนะ”
เธอกัดปากแน่น พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน มือก็ค่อยๆ ลูบวนอยู่บนแผ่นหลังของเขา
ฉู่เฉินซีขมวดคิ้ว “คืนนี้ฉันมีธุระ”
“หลังงานจบ คุณก็มาบ้านฉันซิ” เธอยกยิ้ม เอื้อมไปหอมแก้มเขา
จู่ๆ ฉู่เฉินซีก็คิดถึงผู้หญิงตัวเล็กๆ อีกคนขึ้นมา เขาผลักเธอออก
“คืนนี้ที่บ้านมีงานเลี้ยงสำคัญ คงไปหาเธอที่บ้านไม่ได้”
ฐาลี่ขมวดคิ้ว แล้วปล่อยมือจากต้นคอของเขา “ถ้าคุณมีธุระก็ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเชิญชวนเขาขนาดนี้ แต่กลับถูกเขาปฏิเสธ เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา หรือสิ่งที่น้องสาวเขาพูดจะเป็นเรื่องจริง
ฉู่เฉินซีรักผู้หญิงคนอื่นไปแล้วงั้นหรอ เธอไม่มีทางเชื่อ ผู้ชายที่รักเธอมากขนาดนี้ จะไปตกหลุมรักผู้หญิงคนอื่นงั้นหรอ แล้วการทำวันนี้ของเขาล่ะ
เขาปฏิเสธเธอ
พอหลินเวยมี่ตื่นขึ้นมาอีกที ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้อง เธอลืมตามองด้วยความตกใจ รีบลุกเดินเข้าไปข้างหน้าต่าง
ก็เห็นพระอาทิตย์กำลังตกดินพอดี สวยมาก ข้างล่างมีตนมากมายกำลังเดินไปเดินมา การที่เธอคิดจะหนีมันคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ถ้าเกิดเธอจะหนีออกไปทางหน้าประตูก็คงจะลำบาก และที่สำคัญเธอไม่มีเงินติดตัว และอีกอย่างเธอก็ไม่มีญาติหรือคนรู้จักอยู่ที่อังกฤษเลย
เสียงคนเปิดประตู
หลินเวยมี่รีบนอนลงกับเตียง แล้วนอนฟังพวกเขานิ่งๆ
“พี่ชายใหญ่ ผู้หญิงคนนี้ใช่มั้ย” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสะใจ
หลินเวยมี่ตกใจ หรือจริงๆ แล้วเป็นฝีมือของฉู่ชิ่งเจ๋อ พวกเขาต้องการจะทำอะไรกันแน่
เขาเอ่ยพูดขึ้น “คืนนี้พาเธอไปร่วมงานเลี้ยงด้วย”
“ผมเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว” ฉู่เฟยหยางตอบด้วยความภูมิใจ
“อืม” พูดจบฉู่ฉิ่งเจ๋อก็หันไปมองผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง ยกยิ้มมุมปาก แล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องไป
สักพักเธอก็ได้ยินเสียงฉู่เฟยหยางพูดขึ้น “ฉันรู้ว่าเธอตื่นแล้ว”
หลินเวยมี่ลืมตาขึ้น แล้วตะโกนด้วยความไม่พอใจ “คุณปล่อยฉันนะ”
ฉู่เฟยหยางจ้องหน้าเธอ “ทำตัวดีๆ อย่าเล่นไม่ซื่อ”
หลินเวยมี่ขมวดคิ้ว และรู้ว่าเขาคงรำคาญเธอเต็มทนแล้ว ถึงเธอจะเสียงดังไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว
ฉู่เฟยหยางหยิบมือถือโทรหาใครบางคน สักพักก็มีคนมากมายเดินเข้ามา
“ทำตัวดีๆ ไม่งั้นเธอได้เจอดีแน่” เขาเอ่ยทิ้งท้าย แล้วเดินออกจากห้องไป
สักพักหลินเวยมี่ก็ถูกจับแต่งตัว แต่งหน้า เธอสวมชุดราตรีสีม่วงแดง ดูมีเสน่ห์ สวยงาม
เขามองหน้าเธอนิ่ง แล้วเอ่ยพูดด้วยความพอใจ “ก็ดูดีเหมือนกันหนิ”
หลินเวยมี่ทำหน้านิ่งเฉย ไม่สนใจคำพูดของเขา
“ไปกันเถอะ ที่รัก เดี๋ยวฉันพาเธอไปเจอมันเอง” เขาเอื้อมมือดึงบังคับให้เธอเดินตามเขาออกไป
หลินเวยมี่รู้สึกได้ว่าเป็นงานเลี้ยงค่อนข้างใหญ่ ข้างนอกเป็นป่าไม้ การที่เธอจะหนีเป็นเรื่องที่ยากมาก
งานเลี้ยงแนวยุโรป ดูหรู ให้อารมณ์เหมือนกับวัง สวยงามน่าหลงใหล
หลินเวยมี่ดูเกรงๆ ก้มหน้าก้มตา ไม่รู้ว่าพวกเขาพาเธอมาที่นี่ทำไม ต้องการจะทำอะไรกันแน่
การที่ฉู่เฟยหยางควงหลินเวยมี่ออกงานแบบนี้ ทำให้คนมากมายสนใจ สักพักก็มีคนเอ่ยทักขึ้น
“ทำไมเปลี่ยนคู่อีกแล้วล่ะ”
เขายกยิ้ม “คุณลุง ยังไม่ชินอีกหรอครับ”
หลินเวยมี่ไม่สนใจ เธอกำลังมองดูรอบๆ แต่ก็ไม่เจอฉู่เฉินซี หรือว่าเขาจะไม่มางานงั้นหรอ
เธอก็รู้สึกสบายใจที่เขาไม่มา แต่สักพักเธอก็รู้สึกได้ถึงสายตาอาฆาตที่มองมาทางเธอ
เธอหันไปมองก็พบเข้ากับElis เธอกำลังมองเธอด้วยแววตาโกรธแค้น
Elisขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าเธอจะมางานนี้ด้วย มันคงแปลว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวนี้คงจะไม่ธรรมดา
Elisยกยิ้มมุมปาก ด้วยความสะใจ แล้วเดินเข้ามาหาเธอช้าๆ
หลินเวยมี่เผลอบีบต้นแขนของเขา เขารู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ จึงหันมาเอ่ยบอกเธอ “ทำไม เป็นอะไรไป อย่าคิดที่จะสร้างปัญหาให้ฉัน”
หลินเวยมี่ยกยิ้มมุมปาก “ฉันไม่ได้จะสร้างปัญหา แต่ปัญหามันกำลังจะมาหาฉันต่างหาก”
พูดจบ เธอก็เดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
เธอเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เหอะ ไม่คิดว่าจะได้มาเจอเธอที่นี่ หลินเวยมี่” ถูกคำพูดของเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้น อยากจะฉีกหลินเวยมี่เป็นชิ้นๆ
ฉู่เฟยหยางรู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาของทั้งคู่
“ทำไม เธอสองคนรู้จักกันหรอ”
“เฟยหยาง นายพาเธอมาที่นี่ทำไม” เธอเอ่ยถามด้วยความไม่พอใจ
ฉู่เฟยหยางเอื้อมมือไปกอดไหล่หลินเวยมี่ “ก็พาเธอมาร่วมงานเลี้ยงน่ะสิ เธอเป็นผู้หญิงที่ฉันสนใจเลยนะ”
Elisแสยะยิ้ม “ที่แท้นายก็ชอบกินของเหลือนี่เอง”
ฉู่เฟยหยางพูดเตือนเธอ “Elis อย่าลืมว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ”
หลินเวยมี่ยืนเงียบไม่พูดอะไร เพราะเธอรู้ดีว่าตอนนี้เธอไม่ควรทำตัวมีปัญหา หรือสร้างปัญหา
Elisเหล่มองหลินเวยมี่ แล้วเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงประชด “ฉันรู้ดีว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของฉัน ไม่งั้นฉันคงไม่มายืนพูดคุยดีๆ แบบนี้กับคุณหรอก”
หลินเวยมี่คิดมันก็จริง ไม่งั้นเธอคงไม่ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้หรอก ทั้งที่เธอตกอยู่ในกำมือElisขนาดนี้แล้ว
และที่สำคัญอยู่ที่นี่เธอคงทำอะไรเธอไม่ได้
“Elis ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอแค้นอะไรกัน แต่ตอนนี้ที่นี่อย่าสร้างปัญหา รอผ่านวันนี้ไปก่อน พวกเธอจะทำอะไรกันก็เรื่องของพวกเธอ” เขาขู่เธอ แล้วกระชากแขนหลินเวยมี่เดินไปนั่งลงที่โต๊ะ
ฉู่ฉิ่งเจ๋อยกแก้วนั่งมองหลินเวยมี่ไม่วางตา จู่ๆ สายตาของเธอก็นิ่งเฉยไป เขายกเหล้าขึ้นมาจิบ
“พี่ใหญ่” ฉู่เฟยหยางพาเธอมานั่งที่โต๊ะ สายตาของหลินเวยมี่สะดุดเข้ากับชื่อที่ติดอยู่ตรงเก้าอี้ มันเป็นชื่อฉู่เฉินซี ที่แท้พวกเขาก็วางแผนไว้หมดแล้ว พวกเขาตั้งใจจะให้เธอกับเขามาเจอกันงั้นหรอ
หลินเวยมี่ร้อนรน ฟังจากที่ฉู่เฟยหยางพูดแล้ว งานนี้คงเป็นงานสำคัญมาก ถ้าเกิดว่าเขาทะเลาะกับฉู่เฟยหยางเพราะเธอขึ้นมาจริงๆ มันคงไม่ใช่เรื่องดีกับตัวเขาแน่ๆ
“คุณหลินกังวลหรอครับ” ฉู่ฉิ่งเจ๋อ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงพอใจ