บทที่164 ฉันจะออกไปจากโลกของเธอ
ค่ำคืนที่ไร้คำพูด ดวงตาของหลินเวยมี่ที่เผยถึงความกังวลที่ไม่สิ้นสุด มือเล็กวางอยู่บนอกของฉู่เฉินซี ในสมองไม่หยุดคิดถึงคำพูดของเขา สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือการถูกหลอก งั้นการกระทำเมื่อกี้ของเธอนับเป็นการหลอกลวงไหม?
เธอกลัวแล้วจริง ๆ ผู้ชายอย่างฉู่เฉินซีจะจัดการกู้จุนเฟิงยังไงนะ? เธอไม่อยากที่จะเห็นใครคนใดคนหนึ่งต้องได้รับบาดเจ็บจริง ๆ
คิดฟุ้งซ่านมาเกือบครึ่งคืนในที่สุดในเวลารุ่งเช้าก็หลับไป เธอหลับไปอย่างไม่สงบสะดุ้งตื่นมาและหายใจหอบอย่างแรง ฝันนั้นทำให้เธอตกใจจนร่างกายมีเหงื่อไหลเต็มไปหมด
แถมทั้งหมดในความฝัน เธอได้ลืมมันไปหมดสิ้นตั้งแต่แรกแต่ความไม่สบายใจภายในใจกลับไม่ได้หายไปไหน
เวลานี้เธอถึงได้รู้ว่า ฉู่เฉินซีไม่ได้อยู่บนเตียงแล้ว
เธอรีบวิ่งไปยังประตู เปิดประตูออกทันใดนั้นกลับพบอ้านเย่ยื่นอยู่หน้าประตู
เมื่อนึกขึ้นได้ก็ถามด้วยเสียงสั่นเครือ “ฉู่เฉินซีล่ะ?”
อ้านเย่มองมาด้วยสายตาที่เฉยเมย “นายมีธุระออกไปแล้ว”
“ออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“สองชั่วโมงที่แล้ว”
ในสมองของหลินเวยมี่กลับกลายเป็นขาวโพลนถอยไปด้านหลัง อ้านเย่คว้าเธอเอาไว้อย่างเร็วเธอจึงไม่ได้ล้มลงไป
ในสมองไม่หยุดคิดไปถึงคำพูดเมื่อวานที่เขาพูดอยู่ข้างหู “ฉันเกลียดที่สุดคือคนที่หลอกลวงฉัน”
ใบหน้าที่ขาวซีดมองดูแล้วช่างน่าตกใจ มือของเธอจับอ้านเย่ไว้และถามอย่างรีบร้อน “เขาใช่ไปหากู้จุนเฟิงใช่ไหม? ฉันจะไปหาเขา!”
อ้านเย่ขมวดคิ้วจนมันชนกัน ใบหน้าที่ดูงุนงงแต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ “คุณหลินก่อนนายไปได้สั่งผมไว้ไม่ให้คุณออกไปไหน”
ใบหน้าหลินเวยมี่เต็มไปด้วยความกังวลหากฉู่เฉินซีออกไปฆ่ากู้จุนเฟิงจริง ๆ อย่างนั้นข้อความนั้นก็กลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายเขาถึงชีวิต
ในใจคิดฟุ้งซ่าน ใบหน้าขาวซีดแทบจะไม่มีเลือด
“อ้านเย่ ฉู่เฉินซีกำลังมีอันตรายพวกเราต้องรีบไปหาเขา!”
อ้านเย่ไม่ขยับใดใด มองไปยังหลินเวยมี่อย่างนิ่งๆ “นายสั่งไว้แล้วไม่ให้คุณหลินออกไปไหน”
หลินเวยมี่รู้สึกร้อนรน ฉู่เฉินซีหมายความว่าอะไร? ทำไมถึงไม่ให้เธอออกไป? หรือว่าเขาคิดแล้วว่าจะสู้กับกู้จุนเฟิงจนตายกันไปข้างหนึ่ง?
ใจเธอเต้นอย่างแรงมองไปยังอ้านเย่อย่างกังวล ใบหน้าที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้เด็ดขาดของเขา เธอรีบวิ่งกลับเข้าไปข้างในและปิดประตู วิ่งไปหยิบมีดปลอกแอปเปิ้ลและวิ่งออกมายังหน้าประตู
“พาฉันไปหาเขา ไม่งั้นนายก็ไม่มีทางที่จะอธิบายได้!”
อ้านเย่มองหลินเวยมี่ที่กำลังเอามีจ่ออยู่ที่ลำคอของตัวเอง คิ้วขมวดลงเล็กน้อยคิดอยู่ซักพักก่อนที่จะตอบตกลง
ตลอดทางที่รถขับออกไปท้องฟ้าที่ดูมืดครึ้มเหมือนกับว่าฝนกำลังจะตกหนัก
ใบหน้าที่ดูตื่นตระหนก มือที่ถือมีดปลอกแอปเปิ้ลตอนนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ลมเค็มๆจากทะเลที่พัดมา หลินเวยมี่คิดไม่ถึงว่าอ้านเย่จะพาเธอมายังเมืองชายทะเล เปิดประตูรถความเย็นจากทะเลก็กระทบมา เธอสั่นเทาไปชั่วขณะ
มองออกไปยังชายทะเลก็พบคนยื่นอยู่ไม่มาทุกคนต่างถือปืน เธอมองออกเป็นฝีมือของฉู่เฉินซีแถมคนที่ถูกพวกเขาล้อมรอบไว้อยู่ตรงกลางคือฉู่เฉินซีและกู้จุนเฟิง
มือของฉู่เฉินซีถือปืนจ่อไปยังกู้จุนเฟิง แถมใบหน้ากู้จุนเฟิงที่ดูอยากลำบากทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด
ใจเธอเต้นแรงขึ้นในทันที วิ่งไปยังพวกเขาอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ที่กำหนดผู้แพ้ผู้ชนะไว้แล้วแบบนี้ เธอรีบวิ่งไปอยู่ด้านหน้าของกู้จุนเฟิง มองจ้องไปยังฉู่เฉินซีด้วยใบหน้าเย็นชา
“ฉู่เฉินซีจะตีก็ตีฉันให้ตายเถอะ!”
ฉู่เฉินซียิ้มบางๆเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งที่เห็นได้ชัดถึงความหดหู่ขั้นสุด ฟังแล้วสามารถทำให้
คนรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก
“หลินเวยมี่ เธอมาแล้ว” เสียงของเขาช่างเย็นชา เหมือนกับว่าเขาได้เดาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอต้องมาแบบนั้น ไม่อย่างนั้นครั้งนี้เขาคงไม่ร่วมจัดการด้วยตัวเองและส่งอ้านเย่มาร่วมแทน
“เวยมี่ ปล่อย” กู้จุนเฟิงพูดด้วยเสียงแทบไม่มีแรงมาจากทางด้านหลัง
หลินเวยมี่หันกลับไปอย่างเร็วและไปพยุงเขา มองดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดก็รู้สึกกังวล “นายเป็นยังไงบ้าง”
กู้จุนเฟิงส่ายหัว มองไปยังใบหน้าของเธอด้วยใบหน้าที่มีความสุข “เมื่อกี้เพิ่งไปพนันกับเขาไว้”
หลินเวยมี่นิ่งไปชั่วขณะ คิดไม่ถึงว่าสถานการณ์แบบนี้พวกเขาสองคนยังมีใจมาพนันกัน?
“หลินเวยมี่ เธอมานี้เพื่อใคร?” ฉู่เฉินซีพูดเยือกเย็นออกมา ปืนในมือก็ยังคงถืออยู่ไม่ได้วางลง
หลินเวยมี่หันกลับมา ใบหน้านิ่งเรียบมองไปที่ฉู่เฉินซีราวกับว่ากำลังจ้องมองคนแปลกหน้าแบบนั้น ยื่นหน้าตายอยู่หน้ากู้จุนเฟิง “ฉันไม่อนุญาตให้นายทำร้ายเขา!”
“ฉันถามเธอ เธอมาเพื่อใคร” เสียงของเขาไม่เย็นไม่หนาวแต่ก็มาพร้อมกับความเย็นชา สายตาแสดงความโกรธ
“ฉู่เฉินซี ฉันบอกว่าฉันไม่อนุญาตให้นายทำร้ายเขา!”สายตาของเธอที่แสดงออกถึงความเกลียดชัง พูดเน้นย้ำแต่ละคำออกมา
แต่เธอยังคงไม่รู้ว่าใบหน้าของฉู่เฉินซีตอนนี้ไม่ปกติ แถมมือซ้ายของเขายังกุมที่อกอยู่ตลอด
“ดังนั้น เธอมาที่นี่เพื่อเขาใช่ไหม? เธอกลัวว่าฉันจะทำร้ายเขา?” ใบหน้าเยาะเย้ยของฉู่เฉินซี ปากก็ยิ้ม รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความขมขื่น
“มีความหมายหรือไง? หลินเวยมี่? ฉันถามเธอมันมีความหมายหรือไง?” เขาเดินขึ้นมาหนึ่งก้าว จับไปยังไหลของหลินเวยมี่อย่างเอาเป็นเอาตาย
หลินเวยมี่กัดไปที่เขาอย่างแรง มองฉู่เฉินซีด้วยความเย็นชาเหมือนกับคนที่เกลียดกัน ในสมองมีเพียงความคิดเดียวก็คือไม่ให้ฉู่เฉินซีทำร้ายกู้จุนเฟิง
“ฉันในใจของเธอยังไม่สำคัญเท่ากับเขาใช่ไหม? ที่เธอพยายามทำดีกับฉันทุกอย่างก็เพียงเพราะเขา ทำดีกับปีศาจอย่างฉันทุกวันเธอคงจะเบื่อแล้วซินะ?”
“หลินเวยมี่ ฉันคิดว่าเธอนั้นรักฉันจริงซะอีก”
“เธอแสดงออกมาเป็นปกติขนาดนั้น เธอบอกคิดถึงฉัน แคร์ฉัน จูบฉันก่อน ดูแลฉันทุกอย่างเพียงเพราะผู้ชายคนอื่น!” คำพูดเย็นชาของเขาเหมือนดั่งมีดเล่มหนึ่งที่เฉือนมายังใจของเธอทีละครั้ง
แต่สำหรับเขาที่พูดแบบนั้นออกไปยิ่งทำให้รู้สึกเจ็บเหมือนตาย
“หยุดพูดได้แล้ว ฉู่เฉินซี หยุดพูดเถอะ” เธอส่ายหัวไปมาอย่างว่างเปล่าไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงกับเรื่องนี้ ตอนนี้เธอสามารถทำอะไรได้บ้าง? ฉู่เฉินซีต้องการทำร้ายกู้จุนเฟิงเธอจะนิ่งดูฉู่เฉินซีทำร้ายกู้จุนเฟิงได้หรือไง?
“ทำไมล่ะ?รู้สึกละอายใจต่อฉัน?” เขายิ้มเยือกเย็นคำพูดที่มีแต่ความเย็นชา “หลินเวยมี่ สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคือการหลอกลวง แต่เธอกลับหลอกฉันครั้งแล้วครั้งเล่า!”
“หยุดพูดได้แล้ว ต้องให้มันเป็นแบบนี้หรือไงกัน?ฉันไม่อนุญาตให้นายทำร้ายกู้จุนเฟิง!ไม่อนุญาต!”เธอตะโกนออกมาเสียงดัง เข้าไปถึงหูทุกคนที่อยู่ตรงนั้น
ฉู่เฉินซียิ้มเยือกเย็น นิ้วมือที่ขาวซีดจากการถือปืน ร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยลมหายใจที่หนาวเย็น ยกมือจ่อปืนไปยังหลินเวยมี่ด้วยสายตาที่แดงก่ำ
หลินเวยมี่มองไปที่เขารู้สึกเพียงร่างกายเย็นยะเยือก คิดว่าหากทั้งสองคนนี้ยิงกันหลังจากนี้
“ฉู่เฉินซี กล้าจริงก็มาตีฉัน!” เธอพูดเสียงดังในตามีแต่ความเย็นชาที่ตายด้าน “ถ้าคิดจะทำร้ายกู้จุนเฟิงก็ต้องตีฉันให้ตายก่อน!”
คำพูดที่ไม่คิดของเธอยิ่งทำให้ความโกรธของฉู่เฉินซีเพิ่มมากขึ้น หลังมือขึ้นเส้นเลือดปูดกำปืนไว้อย่างแน่นทั้งร่างกายมีแต่ความโกรธถึงขั้นสุด
เพียงเพื่อกู้จุนเฟิงเธอไม่เสียดายชีวิตยอมตายด้วยปืนของเขา
เมื่อเข้าใจแล้ว ใจของเขาเหมือนถูกยึดไว้ด้วยมือใหญ่ที่มองไม่เห็นมันช่างเจ็บปวด
ท้ายที่สุดเขาก็แพ้แล้ว แพ้พนันของกู้จุนเฟิงแล้วเขาเข้าใจว่าหลินเวยมี่มาที่นี่เพื่อเขา เธอเป็นห่วงว่าเขาจะโดนทำร้ายถึงได้รีบมา ไม่อยากจะคิดว่าที่จริงแล้วเป็นเพราะเขาคนที่เธอปรารถนา
“หลินเวยมี่ ในเมื่อเธอเลือกเขาแล้ว ฉันจะทำตามความต้องการของเธอ ฉันจะออกไปจากโลกของเธอ” เขายิ้มขมขื่น มือที่กุมหน้าอกอยู่ก็ปล่อยออก เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ชุ่มไปด้วยเลือด
ตาของเธอโตขึ้น เธอคิดไม่ถึงว่าฉู่เฉินซีก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน!
เท้าก้าวออกไปข้างหน้าใบหน้าเล็กที่เต็มไปด้วยความกังวล
“อย่าทำหน้าเหมือนเป็นห่วงฉันแบบนั้นจะทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง” ภายใต้ดวงตาเขามีแต่ความรังเกียจและปล่อยให้อ้านเย่พยุงเขาไปยังรถ
หลินเวยมี่ก้าวเท้าไปอีกก้าวแต่เมื่อคิดถึงท่าทีก่อนหน้านั้นของเขาเท้าก็หยุดลงและขยับไปไหนไม่ได้อีก
เพียงชั่วพริบตา บนชายหาดก็เหลือเพียงเธอและกู้จุนเฟิง เธอยังมองไปทางที่ฉู่เฉินซีจากไป ใจของเธอถูกบีบรัดจนปวด เธออยากที่จะบอกเขา เธอเป็นห่วงเขาจากใจจริงถึงได้รีบมาขนาดนี้
“นายกเทศมนตรีกู้ นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
เสียงเท้าที่วุ่นวายดังขึ้นมา หลินเวยมี่รีบหันกลับมาก็พบกับคนจำนวนหนึ่งปรากฏตัวบนชายหาด ทันใดนั้นใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวมองไปทางกู้จุนเฟิงอย่างสงสัย
กู้จุนเฟิงมองไปยังหลินเวยมี่ สายตารู้สึกซาบซึ้งและพูดออกมาด้วยเสียงทุ้ม
“เวยมี่ เมื่อวานขอบคุณเธอนะที่ส่งข้อความมาหาฉัน ในใจของเธอก็เริ่มเป็นห่วงฉันบ้างแล้วใช่ไหม?” คิ้วของเขาที่ดูมีความสุข นอกจากรอยแผลเล็กน้อยภายนอกก็ไม่พบบาดแผลที่เจ็บหนัก
ลมหนาวที่พัดผ่านมาเธอรู้สึกถึงความหนาวทั่วร่างกายเย็นเข้าไปถึงกระดูก
“กู้จุนเฟิง นายวางแผนซุ่มโจมตีไว้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม?”
เพราะเสียงที่ดูเย็นชาอย่างมากของเธอ ทำให้กู้จุนเฟิงรู้สึกแปลกไปชั่วขณะ มองไปยังเธอก่อนที่จะพยักหน้า
“พวกเราก็แค่พนันกันเท่านั้น พนันว่าเธอจะมาที่นี่เพราะใคร แคร์ใครมากกว่ากัน”
“ดังนั้นนายเลยสั่งคนของนายให้แอบไว้ แกล้งทำเป็นมาคนเดียวไม่มีทางสู้แบบนั้น?”เสียงของหลินเวยมี่เบาเหมือนล่องลอยไปไกลเสียงที่ยากจะเชื่อ
เธอคิดว่ากู้จุนเฟิงมาคนเดียวไร้ทางสู้ มาเพียงคนเดียว แถมท่าทางของฉู่เฉินซีที่เหมือนเพียงแค่ขยับนิ้วมือก็สามารถจัดการกู้จุนเฟิงได้
ที่แท้เธอคิดผิด คิดผิดอย่างมาก
“ฉันก็เพียงแค่บอกให้พวกเขามาในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นเอง”กู้จุนเฟิงพูดออกมาอย่างไม่คิดอะไร สายตามองอย่างไม่เข้าใจหรือว่าเธอไม่ได้มาที่นี่เพราะเขา?แต่ว่าข้อความเมื่อวานนั้นมันคืออะไรกันแน่?
หลินเวยมี่วิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแต่เพียงแค่สองก้าวทันใดนั้นเท้าของเธอก็ชาขึ้นมาและล้มไปบนหาดทรายอย่างไร้เรี่ยวแรง
“เวยมี่……”กู้จุนเฟิงพยุงเธอขึ้นมาสายตาที่มองอย่างแปลก
“กู้จุนเฟิง ปล่อยฉัน ให้ฉันไปหาเขา!” เธอดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของเขาและพูดอย่างรีบร้อน “กู้จุนเฟิงเมื่อวานที่ฉันส่งข้อความไปหานาย เพียงแค่ไม่อยากให้พวกนายสองคนได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้แล้วไม่มีความหมายอื่น”
เธอพูดจบก็ผลักเขาออก ร่างที่รีบวิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับใบหน้าที่มุ่งมั่น