แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 187 ซื้อของขวัญแต่งงานอะไรให้นายดี
หลินเวยมี่นั่งอยู่ข้างๆเตียงเงียบๆ สายตามีแต่ความว่างเปล่า เธอไม่เคยรู้สึกผิดหวังขนาดนี้มาก่อน ในใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดมาก ถอนหายใจยาวออกมา แล้วก็เช็ดน้ำตาจากมุมตาของเธอ
หลินซินหยานเปิดประตูเข้ามาแล้วก็เห็นท่าทางของเธอที่กำลังเช็ดน้ำตาอยู่พอดี สีหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความเป็นห่วง “พี่ ร้องไห้หรอ?”
เธอส่ายหน้า แต่ว่าก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก ถึงแม้จะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพวกเขาต้องเลิกกัน แต่ว่าในใจก็ยังรู้สึกเจ็บมากๆอยู่ดี
“แต่ว่าเมื่อกี้ฉันได้ยินElisพูดว่าคุณอา……”หลินซินหยานถามหยั่งเชิงออกมาเสียเบา
หลินเวยมี่หน้าแข็งทื่อแล้วก็ส่ายหน้าออกมา “ซินหยาน ฉันรู้ว่าเธออยากพูดอะไร แต่อย่าพูดออกมาได้มั้ย?”
เธอไม่อยากได้ยินเรื่องของเขากับฐาลี่อีกแล้ว เป็นเรื่องที่เศร้าใจ และยากที่จะรับได้
หลินซินหยานนั่งข้างๆอยู่นาน แล้วก็พูดออกมา “พี่ ที่จริงฉันรู้ความลับของพี่ แล้วก็ความลับของคุณอา”
สีหน้าของหลินเวยมี่เต็มไปด้วยความสงสัย เธอไม่รู้เลยว่าหลินซินหยานพูดเรื่องอะไรอยู่ เธอกับฉู่เฉินซีจะมีความลับอะไรได้?
“ซินหยาน พูดอะไรน่ะ?”
“ฉันแอบเข้าไปในห้องอ่านหนังสือของคุณอา แล้วก็เห็นอะไรบางอย่างในคอมพ์ของเขา” หลินซินหยานมีสีหน้าทำอะไรไม่ถูก แล้วก็แอบมองหน้าหลินเวยมี่ “พี่ อย่าเสียใจไปเลยนะ บางทีคุณอาอาจจะไม่ใช่เพราะว่าเรื่องนั้น……”
“เรื่องไหน?” หลินเวยมี่ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกสับสน ไม่รู้เลยว่าเธอกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่
“ที่จริงแล้วก่อนหน้าที่ทั้งสองคนจะรู้จักกันคุณอาก็ตามหาพี่โดยตลอด เป้าหมายคือเอาไปให้คุณท่านแก่ฉู่ ให้คุณท่านแก่ฉู่ยกบริษัทให้เขา” หลินซินหยานเหลือบมองสีหน้าที่ซีดเผือกของหลินเวยมี่ แล้วก็กัดริมฝีปากแน่น “พี่ อย่าเสียใจไปเลยนะ บางทีคุณอาอาจจะชอบพี่จริงๆก็ได้ ไม่ได้หลอกใช้พี่”
สีหน้าของหลินเวยมี่ซีดเผือก โดยเฉพาะตอนที่หลินซินหยานพูดคำว่า ‘หลอกใช้’ออกมา ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา หลอกใช้เธองั้นหรอ? ที่ฉู่เฉินซีคบกับเธอก็เพื่อหลอกใช้หรอ?
“ซินหยาน เธอพูดมั่วอะไรกัน ฉันมีอะไรให้เขาหลอกใช้ได้ด้วยหรอ?” หลินเวยมี่ทำท่าทางเหมือนไม่แคร์ หายใจเข้าลึกๆ สีหน้าแสดงออกถึงความไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
หลินซินหยานกัดริมฝีปากแน่น สายตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า คิดอยู่นานถึงจะพูดออกมา “พี่ ถ้าฉันพูดออกไปอย่าเสียใจนะ”
“มีอะไรก็พูดออกมาเถอะ ฉันไม่เสียใจหรอก” หลินเวยมี่เอื้อมมือออกมาลูบผมที่หน้าผากของเธอ ใช้การกระทำนี้มาเพื่อบังคับให้ตัวเองไม่คิดมาก ไม่ปล่อยอารมณ์ของตัวเองออกมา
พยักหน้า แล้วก็มองหน้าเธอพร้อมกับพูดออกมา “พี่ ที่จริงพี่คือลูกสาวของคุณท่านแก่ฉู่ คุณอารู้ดีว่าคุณท่านแก่ฉู่แคร์รั่วหรานมาก เพราะฉะนั้นก็เลยเอาพี่มาข่มขู่เขา”
“แต่ว่าคุณท่านแก่ฉู่ยังจะฆ่าฉันอยู่เลยนะ” เธอส่ายหน้า ไม่เชื่อในสิ่งที่หลินซินหยานพูด ฉู่เฉินซีจะหลอกใช้เธอได้ยังไง?
หลินซินหยานถอนหายใจอย่างไม่มีทางเลือก แล้วก็คาดเดา “บางทีคุณท่านแก่ฉู่อาจจะแค่อยากไล่พี่ไป ก็เลยทำแบบนี้ พี่ทถ้าเกิดว่าพี่ไม่เชื่อฉัน พี่ไปดูคอมพ์ในห้องของคุณอาก็ได้นะ”
หลินเวยมี่เม้มปากแน่น พยักหน้า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
หลินซินหยานมองใบหน้าที่ผิดหวังของหลินเวยมี่ ริมฝีปากของเธอก็คลี่ยิ้มอย่างแปลกประหลาดออกมา
หลินเวยมี่เดินวนไปวนมาในห้องไม่หยุด แต่ว่าในสมองกลับชัดเจน ชัดเจนจนจำคำพูดของหลินซินหยานได้ทุกคำ
ฉู่เฉินซีมาคบกับเธอเพื่อข่มขู่คุณท่านแก่ฉู่งั้นหรอ? ยังไงเธอก็ไม่มีวันเชื่อ ทั้งสองคนรักกันมากมายขนาดนั้น คำพูดแค่ประโยคสองประโยคจะมาทำลายมันได้หรอ?
บางทีหลินซินหยานอาจจะพูดมั่วไป หรือไม่เธอก็อาจจะดูผิด
หลังจากคิดแบบนี้แล้ว เธอก็ค่อยๆย่องออกจากห้อง สายตาไปหยุดที่ห้องอ่านหนังสือ ความอยากรู้อยากเห็นผลักเธอออกไปด้านหน้า
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ค่อยๆเดินเข้าไปในห้องอ่านหนังสือ
เธอยังคงจำได้ว่าฉู่เฉินซีไม่อนุญาตให้เธอเข้าไปในห้องอ่านหนังสือ หรือว่าแท้จริงแล้วมันเพราะเรื่องนี้? กลัวว่าเธอจะรู้เรื่องอะไรงั้นหรอ?
เธอสับสนใจหัวใจ สุดท้ายก็เปิดประตูห้องออก แล้วก็ค่อยๆเดินเข้าไป
ตรงมุมของทางเดินนั้น หลินซินหยานยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ สายตามีแต่รอยยิ้มอย่างพึ่งพอใจ
ฉู่เฉินซีพาดเสื้อไว้บนบ่าของเขา เดินเข้าไปในห้องนอน แล้วก็เห็นหลินเวยมี่ที่ดูขวัญหายอยู่พอดี เขาหยุดเดินกระทันหัน แล้วก็มองหน้าเธอเงียบๆแล้วถามว่า “เวยมี่ อารมณ์ไม่ดีหรอ?”
หลินเวยมี่รีบเอามือขึ้นเช็ดน้ำตาของตัวเอง แล้วก็หันหน้ากลับมามองหน้าฉู่เฉินซีแล้วก็ยิ้มให้เขา “กลับมาแล้วหรอ”
ฉู่เฉินซีโยนเสื้อไปบนเตียง แล้วนั่งตรงข้ามเธอ “ใครทำให้เธอร้องไห้?”
หลินเวยมี่รีบส่ายหน้า แล้วก็ผลักเขาออ “นายรีบไปอาบน้ำเถอะ เหงื่อออกจนเหม็นหมดแล้ว”
“ได้”ฉู่เฉินซีมองหน้าเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำไป
น้ำตาแห่งความเจ็บปวดยังอยู่ที่หลังมือของเธอ เธอรีบเช็ดให้แห้ง ในหัวของเธอมีแต่เรื่องที่เธอเห็นในคอมพ์เมื่อกี้นี้
ในนั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับวันเกิดของเธอ สถานที่เกิด แล้วก็มีการวางแผนอย่างครอบคลุม เป็นแผนการอย่างละเอียดที่จะให้คุณท่านแก่ฉู่มอบบริษัทให้เขา
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็พยายามกดอารมณ์ไว้ สายตามองตามผู้ชายที่เดินเข้าห้องอาบน้ำไป เธอยังไม่อยากจะเชื่อว่า มันเป็นเพราะเหตุผลนี้งั้นหรอ? เป็นเพราะเหตุผลนี้จริงๆ ฉู่เฉินซีก็เลยเข้าใกล้เธออย่างเจ็บปวด เพื่อหลอกใช้เธองั้นหรอ?
แต่ว่าเขามีความรู้สึกให้เธอมากมายขนาดนั้น เธอสามารถสัมผัสมันได้ มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน?
เสียงน้ำในห้องน้ำหยุดลง ฉู่เฉินซีพันผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกมา สายตาของเขาสบกับสายตาของเธอ แล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
“พูดความจริงมา ใครแกล้งเธองั้นหรอ?ไ
ดวงตาของเขาเหมือนสามารถอ่านเข้าไปในใจของเธอได้ ทำให้เธอไม่สามารถหลบหนีได้ เธอเลยหันหน้าไปทางอื่น เม้มปากแน่นแล้วส่ายหน้า “ไม่มีอะไรหรอก”
“โกหก!” เขาจับคางเธอไว้ ทั้งสองคนสบตากัน เขาจูบลงไปเบาๆที่ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้ของเธอ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความปวดใจ “ยังจะพูดว่าไม่มีอะไรอีก? เธอดูสิว่าเธอร้องไห้จนเป็นแบบนี้แล้ว?”
หลินเวยมี่สายตาเต็มไปด้วยความสับสน แล้วก็กอดเอวเขานิ่งๆ แล้วก็ซุกหน้าเข้าไปกับหน้าอกของเขา แล้วก็ถามด้วยเสียงเบา “ฉู่เฉินซี นายไม่รู้เลยหรอว่าทำไมฉันถึงเสียใจ?”
ฉู่เฉินซีอึ้งไป สายตาเต็มไปด้วยความทำอะไรไม่ถูก แล้วก็ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “หรือว่ามีใครพูดอะไรกับเธอ?”
“นายจะแต่งงานกับฐาลี่แล้วไม่ใช่หรอ?ไ เธอเงยหน้าขึ้น ยิ้มอย่างเศร้าใจ
ฉู่เฉินซีสามารถมองเห็นความเจ็บปวดได้จากสายตาของเธอ มันมากมาย มากมายจนลึกเข้าไปในหัวใจของเธอได้ ทำให้เขารู้สึกละอายใจ รู้สึกอยากขอโทษเธอ
“Elisบอกงั้นหรอ?” เขาหันไปมองทางอื่น สายตาเต็มไปด้วยความจำใจ “เธอพูดไม่ผิดหรอก งานแต่งงานของเราจะจัดขึ้นต้นเดือนหน้”
“อีกไม่ถึงสิบห้าวัน”น้ำเสียงของหลินเวยมี่นิ่งเรียบ ไม่สามารถเห็นความเคลื่อนไหวในสายตาของเธอได้ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆและยิ้มออกมา “ฉันควรมอบอะไรเป็นของขวัญให้พวกเธอดี? ไม่รู้เหมือนกันว่าฐาลี่ชอบอะไร? เดี๋ยววันสองวันถ้าเกิดว่าฉันได้ไปชอปปิ้ง ฉันจะไปเลือกดูซักหน่อย”
“หลินเวยมี่!”เขาเรียกเธอออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แล้วก็เห็นน้ำตาบนใบหน้าของเธอ สายตาเต็มไปด้วยความลึกซึ้ง “อย่าเป็นแบบนี้”
“แต่ว่านายจะแต่งงานแล้วไม่ใช่หรอ”ทันใดนั้นน้ำเสียงของเธอก็สั่น น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลลงมา “ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะเร็วขนาดนี้ ที่เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว”
ฉู่เฉินซีกอดเธอแน่น ความเจ็บปวดมันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนทำให้เขาหายใจไม่ออก
“พวกเธอจะมีความสุขกันแล้ว แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ?” มือของเธอกำเสื้อผ้าของเขานั้น ร้องไห้จนตาแดงไปหมด
“เวยมี่ ขอโทษนะ” เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้จริงๆ เขาไม่สามารถให้น้าหรานได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจอะไรอีก ได้แต่ต้องยอมปล่อยหลินเวยมี่ไป นอกจากนั้นก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
“ขอโทษ? ฉู่เฉินซี นายไม่ต้องขอโทษฉันหรอก จริงๆนะ” เธอเช็ดน้ำตา แล้วก็ยิ้มพลางพูดว่า “ฉันรู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วว่านายไม่ใช่ของฉัน ไม่เคยใช่ เพราะฉะนั้นฉันก็ไม่มีสิทธิ์เสียใจ แล้วนายก็ไม่เคยให้สัญญาฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะฉะนั้นไม่ต้องขอโทษฉันหรอก”
ยิ่งเธอพูดแบบนี้ หัวใจของฉู่เฉินซียิ่งรู้สึกเจ็บปวด ได้แต่กอดเธอแน่น แต่ก็พูดอะไรไม่ออก
ทั้งสองคนกอดกันอยู่แบบนั้น ทั้งคืนไม่ได้พูดอะไรกัน จนวันที่สองทั้งสองคนก็ตื่นขึ้นมาด้วยขอบตาดำเหมือนหมีแพนด้า
หลินเวยมี่พยายามฝืนยิ้มออกมา จับคอของเขาไว้ “ตาดำเป็นหมีแพนด้าเลย แต่ว่ายังน่ารักอยู่นะ”
“เธอเองก็ดำเหมือนกันแหละ พวกเราทั้งคู่” เขาหัวเราะออกมา แล้วก็กอดผู้หญิงตัวเล็กๆตรงหน้าแน่น
เธอหาวนอนออกมา แล้วก็กัดไหล่เขาเบาๆ แต่ว่าไม่ได้ออกแรง
“ฉันอยากกัดนายให้นายจริงๆเลย” เธอได้ยินเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจเขาอย่างควบคุมไม่ได้
“แต่ว่าคุณชายมีแค่คนเดียวเท่านั้นเองนะ ไม่มีคนอื่น ถ้าเกิดว่าเธอกัดฉันตายไปแล้ว ก็จะไม่มีคุณชายอีกแล้วนะ” เธอหยิบแก้มเธอแล้วยิ้มพลางพูดออกมา
หลินเวยมี่กลอกตาใส่เขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความหดหู่ แต่ว่ารู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างจากทางด้านใต้แตะเธออยู่ เธอก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
“คนเลว”
“ก็ไม่ได้ทำอะไรให้เธอซักหน่อย” เขาล้วงมือเข้าไปในเสื้อผ้าของเธอ
หลินเวยมี่สะบัดมือของเขาออก
แต่ว่าเขาก็ไม่ยอมหยุด เอามือล้วงเข้าไปอีกครั้ง แล้วก็จับหนึ่งในนั้นแน่น “ผู้หญิงใจร้าย”