ตอนที่ 1914
“อะไรนะ? เจ้านี่คือเจ้ามนุษย์ชั่วร้ายอู่ต่อย่างนั้นรี?!”
เมื่อได้ยินคําเหล่านี้ ราชันปีศาจจํานวนมากที่อยู่รอบๆก็หวาดกลัวจนฉ่ราดทันที ไม่หลงเหลีอความกล้าหาญอีกต่อไป ส่วนลึกของม่านตาเผยให้เห็นความแตกตื่นที่ไร้ที่สิ้นสุด
อู่ที่ บุคคลชั่วร้ายที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ผู้นั้น!
หากเป็นเมื่อหลายปีก่อน ก็คงจะไม่มีใครรู้จักเจ้าเด็กนี่ เป็นเพียงคนไร้ชื่อเท่านั้น
ทว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ชายคนนี้ได้สร้างความตื่นอกตกใจให้กับผู้คนทั่วทั้งจักรวาล สร้างบัญหาขึ้นมาในทุกหนแห่ง ผลงานแต่ละอย่างของเขาล้วนเป็นสิ่งที่สะเทือนแผ่นดินสะท้านสวรรค์ ท้าทายกลุ่มอิทธิพลเป็นจํานวนมาก ไม่ว่าจะเป็นนิกายสวรรค์เบื้องบน นิกายหมื่นพิษ นิกายบัญชาสวรรค์ กลุ่มพระพุทธศาสนา เผ่าพันธุ์เทวดา ตระกูลหมาป่า ตระกูลช้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์และกลุ่มอิทธิพลที่น่าสะพรึงกลัวอื่นๆอีกมาก
เมื่อไม่นานมานี้ชายคนนี้ก็ยโสโอหังอย่างถึงที่สุด แม้แต่วิหารแห่งความมืด ตระกูลปีศาจสายฟ้าและกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่อื่นๆก็ไม่เว้น บ้าระห่ําอย่างยิ่ง ยโสโอหังอย่างที่ไม่มีขอบเขตในตอนนี้ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักเจ้าอู่ที่บุคคลที่ชั่วร้ายผู้นี้
ตอนนี้ แม้แต่กลุ่มอิทธิพลจํานวนมากในศูนย์กลางของจักรวาลก็ยังรู้จักเจ้าตัวอันตรายนี้
แต่ปัญหาก็คือต่อให้เจ้าเด็กนี่จะยโสโอหังเพียงใด ก่อกรรมทําชั่วมามากแค่ไหน สังหารผู้มีพรสวรรค์ของกลุ่มอิทธิพลใหญ่ๆในทุกหนแห่ง ทว่าตอนนี้ก็ยังคงมีชีวิตอยู่อย่างอิสระไม่มีใครที่สามารถแตะต้องเขาได้
ชื่อเสียงของเจ้านี่ก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่ามีราชันปีศาจจํานวนมากแค่ไหนที่ตาย ไปด้วยเงื้อมมือของเขาหากบอกว่าเบื้องหลังของเขาเป็นทะเลเลือดนั้นก็ไม่มีใครที่จะกล้าเอ่ยคัดค้าน
“เวรเอ๊ย เขาคือเจ้าอู่ที่อาชญากรที่ฉาวโฉ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เหตุใดจึงมาเจอกับบุคคลชั่วร้ายเช่นนี้ได้ นี่มันช่างเป็นการโชคร้ายไปแปดชาติจริงๆ ไม่ประหลาดใจว่าทําไมเมื่อครู่นี้เขาถึงสังหารราชันปีศาจในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าไปอย่างง่ายดายราวกับเป็นการเชือดไก่เช่นนั้น”
ราชันปีศาจตัวหนึ่งที่เอ่ยขึ้นมาอย่างหวาดกลัว มีสีหน้าที่ซีดเซียว เมื่อมันรู้ว่าบุคคลตรงหน้านี้คืออู่ที่ มันก็เข้าใจได้ในทันที ต่อให้มองผิวเผินเจ้าเด็กนี่จะเป็นเพียงผู้บ่มเพาะในระดับกฎเทวรูปขั้นกลางเท่านั้น ทว่าพลังการต่อสู้ของเขาก็น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่ายอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าไหนๆ
ในอดีตที่ผ่านๆมานี้มีราชันปีศาจในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าที่ตายไปด้วยเงื้อมมือของเจ้าเด็กนี่มากเท่าไหร่กัน? คงจะเรียกได้ว่าเป็นกองภูเขา
“หลบหนี หลบหนีโดยเร็ว เจ้าเด็กนี่ไม่ใช่บุคคลที่จะท้าทายได้ เจ้าบัดซบนี้ไม่ใช่แค่สังหารพวกเราเผ่าพันธุ์ปีศาจเท่านั้น ทว่าแม้กระทั่งยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์มนุษย์เจ้านี่ก็สังหารเป็นว่าเล่นซากกระดูกของยอดฝีมือที่ตายไปด้วยเงื้อมมือของเขานั้น เพียงพอที่จะกองกันเป็นภูเขาได้”
ราชันปีศาจจํานวนมากก็หวาดกลัว ยอมจํานนอยู่ในใจลึกๆ ไม่ต้องการที่จะแย่งชิงเม็ดยาเหล่านี้อีกต่อไป เพราะว่าชื่อเสียงของเจ้ามนุษย์อู่ตื่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ ทําให้พวกมันขี้ขลาดจนไม่กล้าต่อสู้
นี่คือข้อดีอย่างหนึ่งของการมีชื่อเสียง บางครั้งเพียงแค่ชื่อสียงก็เพียงพอที่จะทําให้สิ่งมีชีวิตทั้งปวงหวาดกลัวได้
“เจ้าพวกไร้น้ํายา พวกเจ้าพวกขยะขี้ขลาด เพียงแค่มนุษย์ตัวเล็กๆคนเดียว มดปลวกในระดับกฎเทวรูปนั้น พวกเจ้าจะต้องเกรงกลัวอะไรกัน ไม่คาดคิดว่าไม่ทันได้ต่อสู้ก็จะหวาดกลัวจนหัวหดกันเช่นนี้ นี่พวกเจ้ายังกล้าเรียกตนเองว่าราชันปีศาจอีกรึ? ไม่ได้แตกต่างไปจากสุนัขข้างถนนเลย ช่างน่าหัวเราะเยาะสิ้นดี”
ราชันปีศาจของตระกูลช้างตัวหนึ่งก็ได้ตะโกนออกมาอย่างโมโห ต่อว่ากลุ่มของปีศาจขี้ขลาดเหล่านี้ไม่ทันได้เริ่มต่อสู้ก็ล่าถอยไปก่อนแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะหวาดกลัวเจ้ามนุษย์นี้จนถึงขั้นนี้ช่างเป็นการทําให้เผ่าพันธุ์ปีศาจเสียหน้าจริงๆ
ถึงแม้ว่ามันจะเคยได้ยินชื่อเสียงกิตติศัพท์ของอู่ตี๋มาก่อน ทว่าเดิมที่มันก็ไม่เคยเห็นเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ในสายตาอยู่แล้ว เพียงแค่มนุษย์ที่ต่ําต้อยคนหนึ่ง เป็นไปได้อย่างไรที่จะทําให้มันหวาดกลัว
ยิ่งไปกว่านั้นมันก็คิดว่าเรื่องราวต่างๆที่ได้ยินมานั้นก็ไม่ใช่ความจริง เป็นเพียงแค่เรื่องกูแต่งขึ้นมาเป็นเพียงการคุยโวโอ้อวดเกินจริงของเจ้าอู่ที่ เดิมที่เจ้านี่เป็นเพียงแค่สิ่งของที่มีขนาดเท่ากับเมล็ดข้าวเท่านั้น ทว่ากลับโอ้อวดคุยโวว่าตนเองมีขนาดใหญ่เท่ากับดาวเคราะห์
“เป็นไปอะไรไป? กลุ่มขยะขี้ขลาดอย่างพวกเจ้าสํานึกในสิ่งที่ข้าพูดขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงไม่กล้าโต้เถียงอะไรออกมาและมีสีหน้าที่นิ่งอึ้งไปอย่างนั้นรึ? รู้ว่าตนเองเป็นเพียงแค่กระต่ายขี้ขลาด เป็นตัวตนที่ไร้ประโยชน์ อันที่จริงข้าก็ไม่รู้ว่าพวกเจ้าพัฒนากันมาถึงระดับนี้ได้อย่างไร”
เมื่อเห็นว่าราชันปีศาจจํานวนมากไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา เจ้าราชันปีศาจของตระกูลช้างนั่นก็พึงพอใจอย่างมาก รู้สึกว่าตนเองกดขี่ข่มเหงราชันปีศาจตัวอื่นๆได้ มีความรู้สึกของการเป็นราชันในหมู่ราชัน เป็นตัวตนที่ยืนอยู่เหนือผู้อื่น
“คือว่า..ราชันช้างมะ…มองไปข้างหลังเจ้า”
ราชันเหยี่ยวตัวหนึ่งก็กลืนน้ําลายของตนเอง พูดอย่างตะกุกตะกักโดยที่มีสีหน้าที่ตื่นต ระหนกอย่างมาก
“มองไปข้างหลัง? มองไปข้างหลังทําไมกัน นี่พวกเจ้ากําลังเล่นอะไรกันอยู่?”
ราชันปีศาจของตระกูลช้างก็ไม่ได้คิดอะไร มันหันหลังไปมอง ทันใดนั้นม่านตาของมันก็ต้องขยายขึ้นมา เพราะว่าเจ้ามนุษย์อู่ที่ได้ปรากฏขึ้นมาข้างหลังมันโดยที่มันไม่รู้ตัวด้วยซ้ําอีกทั้งยังส่งยิ้มให้กับมันซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ทําให้มันรู้สึกสันหลังวาบขึ้นมาทันที
“เจ้าคือราชันช้างหรือ? อืม มีร่างกายที่แข็งแรงจริงๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นทาสที่ดีได้”
เชียปิงก็เอามือเท้าคาง จากนั้นมือขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมาและตบออกไป
“ทาสมารดาเจ้าสิ เจ้ามนุษย์บัดซบ เจ้ารนหาที่ตายเสียแล้ว!”
ราชันช้างก็คํารามออกมา รู้สึกได้ถึงวิกฤติที่ยิ่งใหญ่ ดูเหมือนกับเป็นเทพเจ้าแห่งความตายที่มาเยือนพลังอํานาจปีศาจทั่วทั้งร่างกายปะทุออกมา แทบที่จะทะลวงห้วงอวกาศออกไป
อย่างไม่ต้องสงสัย นี่คือพลังอํานาจที่แข็งแกร่งที่สุดในทั้งชีวิตนี้ของมัน พลังเวทมนตร์ทั่วทั้งร่างกายปะทุออกมาภายในระยะเวลาอันสั้น พลังอํานาจนี้เพียงพอที่จะกวาดทําลายราชันปีศาจตัวอื่นๆได้
ทว่ามือขนาดใหญ่นั่นก็เพียงแค่คว้าตัวของราชันช้างไว้ ราวกับเป็นเหยี่ยวที่ตะครุบไก่
ตีบ!
จากนั้นมือขนาดใหญ่นั้นบีบอย่างรุนแรง การป้องกันพลังฉีของราชันช้างก็ถูกทําลายไปอย่างกะทันหันพลังเวทมนตร์ทั่วทั้งร่างกายก็สูญสลายกลายเป็นความว่างเปล่า พลังอํานาจที่น่าสะพรึงกลัวลุกลามเข้าไปในร่างของมัน ทําให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่ออวัยวะภายใน
ปาช่า! กระดูกทั่วทั้งร่างแตกหัก ส่งผลให้มันทรุดตัวลงทันที ร่างกายขนาดใหญ่ร่วงลงไปสู่พื้น
“ม่ายยย ขะ..ข้าคือราชั้นปีศาจของตระกูลช้าง เป็นราชันปีศาจของตระกูลช้าง หากเจ้ากล้าสังหารข้าล่ะก็ บรรพบุรุษเก่าแก่ของตระกูลช้างจะไม่มีทางให้อภัยเจ้าแน่ ไม่มีทางอย่างแน่นอน!”
ราชันช้างก็ตะโกนออกมาอย่างแตกตื่น ในที่สุดมันก็ล่วงรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวที่แท้จริงล่วงรู้ว่าทําไมเจ้าอู่ที่ถึงได้มีชื่อเสียงโด่งดังเช่นนี้ ทําให้ราชันปีศาจจํานวนมากรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเพียงแค่ได้ยินชื่อ
ในฐานะที่มันมีต้นกําเนิดมาจากตระกูลช้าง มันย่อมมีพลังอํานาจและพลังเวทมนตร์ที่ยิ่งใหญ่มหาศาลทว่าต่อหน้าเจ้ามนุษย์นี่ พลังอํานาจของมันกลับเป็นสิ่งที่น่าหัวเราะสิ้นดีเปราะบางราวกับเด็กสามขวบก็ว่าได้ไม่มีพลังอํานาจที่จะต้านทานแม้แต่น้อย
ทว่าตอนนี้การที่มันเข้าใจถึงจุดๆนี้ก็สายเกินไปแล้ว
“โอ้ บอกให้บรรพบุรุษเก่าแก่ของเจ้าเข้ามากัดข้า”
เซี่ยปิงก็โบกมือออกไปทันใดนั้นก็จับราชันช้างตัวนี้ไปไว้ในพื้นที่ของลูกปัดพิภพอย่างกะทันหันกําราบไว้อย่างสมบูรณ์ ในอนาคตจะต้องใช้งานมันอย่างหนักทั้งเช้าทั้งเย็น
“แม่เจ้า!”
ราชันปีศาจจํานวนมากที่เห็นเช่นนี้ พวกมันก็ตกตะลึงจนตาค้าง นั่นคือราชันปีศาจของตระกูลช้างที่เลื่องลือ มีพลังอํานาจที่แทบจะยืนอยู่ในจุดสูงสุดในหมู่ของราชันปีศาจ มีพลังอํานาจที่เหนือธรรมชาติ
ทว่าตอนนี้กลับถูกจับไปอย่างง่ายดาย ราวกับเป็นเหยี่ยวที่ตะครุบไก่ จับตัวราชันช้างไปอย่างไม่มีอุปสรรคใดๆ กักขังไว้โดยตรง ตกกลายเป็นทาส
นี่คืออํานาจบารมีที่ยิ่งใหญ่โดยแท้
“ล่าถอย ล่าถอยโดยเร็ว พวกเราไม่ใช่คู่มือของเจ้ามนุษย์ชั่วร้ายนี้”
“หลบหนีไปโดยเร็ว หากไม่หลบหนีล่ะก็ จะต้องตาย!”
ราชันปีศาจจํานวนมากก็ตะโกนเสียงดังออกมา แตกกระเจิงกันออกไป หลบหนีออกไปสู่ทุกทิศทางหวังว่าจะสามารถหลบหนีไปจากเงื้อมมืออันชั่วร้ายของเจ้าอู่ที่ได้
“อย่าหลบหนี กลับมาหาข้า พระพันกร”
ร่างกายของเซี่ยปิงก็สั่นเทา จากนั้นพระพันกรที่มีความสูงกว่าสามพันเมตรก็ปรากฏขึ้นมาทันที แสงสีทองส่องสว่างไปทั่วทั้งบริเวณ เจาะทะลวงผ่านโลก จากนั้นก็เห็นเพียงแค่ฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่ที่กวาดผ่านท้องฟ้าออกไป
ตีบ ตบ ตีบ!!
ภายในระยะ500กิโลเมตร กลุ่มของราชันปีศาจก็ไม่สามารถหลบหนีได้เลย มือขนาดใหญ่นี้ตบออกไป กําราบทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า ต่อให้พลังเวทมนตร์ของฝ่ายตรงข้ามจะปะทุออกมาก็ยังคงเอาชนะได้อย่างง่ายดาย พลังอํานาจทุกอย่างแหลกสลายจนกลายเป็นกลุ่มพลังฉี
“อ้ากกก!!”
กลุ่มของราชันปีศาจก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช ทั่วทั้งร่างกายได้รับความเสียหายอย่างหนัก กระดูกแตก กระอักเลือดคําโตออกมา ถูกตบจนเจียนตาย ไม่มีพลังอํานาจที่จะต้านทานอีกต่อไป
กลุ่มของราชันปีศาจเหล่านี้ก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงทันที ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีก
“จับมา!”
เชี่ยปิงก็คว้ามือออกไป อากาศสั่นสะท้าน จากนั้นราชันปีศาจเหล่านี้ก็ถูกจับมาเหมือนไก่ อย่างน้อยก็มีมากกว่าหนึ่งร้อยตัว พวกมันทั้งหมดถูกนําตัวไปไว้ในพื้นที่ของลูกปัดพิภพอย่างกะทันหัน