ตอนที่ 1911
หนึ่งเดือนต่อมา ข้างในพื้นที่ของลูกปัดพิภพ
ในที่สุดเชี่ยปิงก็บ่มเพาะจนแกนพลังในระดับกฎเทวรูปขั้นกลางเสถียรและมั่นคง ปรับตัวเข้ากับพลังเวทมนตร์ จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์และความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่พัฒนาขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ควบคุมได้อย่างอิสระ ราวกับเป็นนิ้วมือของร่างกาย
ในช่วงเวลานี้เขาก็ทรงอํานาจยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ถึงหลายเท่า ไม่ใช่พลังเวทมนตร์และจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่ได้รับการพัฒนาอย่างใหญ่หลวง ทว่าสายเลือดภายในร่างกายก็เข้มข้นขึ้นมาก
เขารู้สึกได้ว่าอีกไม่นาน เซลล์อีกานรกทองคําในร่างกายของตนเองจะตื่นขึ้นมาจนถึงหนึ่งร้อยล้านเซลล์ ซึ่งในตอนนั้นมันจะนําพาการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวมาอย่างแน่นอนมีพลังอํานาจที่เหนือจินตนาการ
ปัง!
เห็นเพียงแค่ว่าเซียปิงเคลื่อนไหวความคิด ไหลเวียนพลังเวทมนตร์ภายในร่างกาย จากนั้นขุยหนิว อีกานรกทองคํา มังกรสวรรค์ ช้างศักดิ์สิทธิ์ ดวงดารา พระพันกร เดวิลพันเนตร เทาเที่ยและต้นไม้โลก เทวรูปฟ้าดินทั้งเก้าของเขาก็ปรากฏขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
เทวรูปฟ้าดินทั้งเก้านี้ก็ทรงอํานาจมากขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน ควบแน่นกลายเป็นสสาร เกือบที่จะกลายเป็นรูปธรรมอย่างสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก สูงถึงหนึ่งหมื่นฟุต ราวกับเป็นยักษ์ก็ว่าได้ แผ่แรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
คาดการณ์ได้ว่าต่อให้จะไม่ใช้สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ ในตอนนี้เขาก็ยังสามารถเอาชนะแม้กระทั่งยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าขั้นสูงสุดได้
ดั้ง ดั้ง!!
ในตอนนี้เสียงของระบบดังขึ้นมา “ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น การที่ยั่วยุวิหารแห่งความมืดตระกูลปีศาจสายฟ้า เผ่าพันธุ์เทวดา กลุ่มพระพุทธศาสนาและกลุ่มอิทธิพลอื่นๆจนดึงดูดความ เกลียดชังมาได้อย่างมหาศาลนั้น ครั้งนี้ผู้เล่นได้รับคริสตัลความเกลียดชังไปทั้งหมด120หน่วย หวัง ว่าผู้เล่นจะพยายามต่อไป”
คริสตัลความเกลียดชัง120หน่วย?!
เมื่อเซี่ยงได้ยินตัวเลขนี้ เขาก็เผยรอยยิ้มออกมาทันที ดูเหมือนว่าแผนการในครั้งนี้จะประสบผลสําเร็จอย่างมาก ดึงดูดความเกลียดชังมาได้มากมาย หากรวมกับคริสตัลความเกลียดชังที่เขามีอยู่แล้วนั้น เขาก็จะมีคริสตัลความเกลียดชังอยู่ทั้งหมด440หน่วย
การที่เขาจะได้ครอบครองคริสตัลความเกลียดชังจํานวนหนึ่งพันหน่วยก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
“จริงสิ ตอนนี้สถานการณ์ของกลุ่มสายพันธุ์โบราณเหล่านั้นเป็นอย่างไรกัน?”
เชี่ยปิงก็เดินออกมาจากสถานที่ที่เขาทําการบ่มเพาะ เขาก็นึกได้อย่างกะทันหันว่าก่อนหน้านี้ตนเองได้จับพวกสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญมาเป็นจํานวนหนึ่ง แต่เพราะในตอนนั้นวางแผนที่จะเลื่อนขั้นไปสู่ระดับกฏเทวรูปขั้นกลาง ดังนั้นจึงไม่มีเวลาจัดการอะไรกับพวกมัน
ด้วยเหตุนั้น เขาจึงมอบหน้าที่จัดการดูแลสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญเหล่านั้นให้กับกระทิงสีคราม ไม่รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์จะเป็นอย่างไร
เขาก็เคลื่อนไหวความคิด ทันใดนั้นก็ได้เรียกกระทิงสีครามมาทันที
วิช!
ร่างของกระทิงสีครามก็กระพริบขึ้นมา ทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเชียปิง มันคือวิญญาณสิ่งประดิษฐ์ของลูกปัดพิภพ สามารถที่จะเคลื่อนย้ายตนเองไปในพื้นที่แห่งนี้ได้อย่างอิสระ ตราบใดที่ใช้เพียงความคิดก็สามารถปรากฏตัวขึ้นมาในทุกซอกทุกมุมได้
มันก็รับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเซียปิงต้องการจะสอบถามอะไร
“เจ้านาย สบายใจได้ กลุ่มของสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญเหล่านั้นไม่สามารถสร้างความเสียหายอะไรได้ นอกจากนี้พวกมันก็เชื่อฟังอย่างมาก ยอมรับสถานะทาสของตนเองทํางานอย่างหนักเพื่อพวกเรา”
กระทิงสีครามก็ยิ้มเล็กน้อย
“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยรึ?!”
เชี่ยปิงก็มีสีหน้าที่แปลกประหลาด เขาก็ล่วงรู้ว่าสายพันธุ์ที่หายสาบสูญเหล่านี้ภาคภู มิใจในตนเองและหยิ่งทะนงแค่ไหนเป็นตัวตนในระดับสูง การที่ต้องการทําให้พวกมันเชื่อฟังคําสั่งและทํางานอย่างหนักนั้น บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นซึ่งเทียบได้กับการทะยานขึ้นสวรรค์ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่คาดคิดว่ากระทิงสีครามจะทําให้พวกมันเรื่องขึ้นมาได้?!
เขาก็โบกมือออกไป ควบคุมพลังอํานาจของลูกปัดพิภพ ทันใดนั้นก็มีภาพเสมือนจริงหลายภาพที่ฉายขึ้นมาทันที มันคือภาพที่สายพันธุ์โบราณเหล่านี้กําลังตั้งหน้าตั้งตาทํางานกันอยู่นั่นเอง
เห็นเพียงแค่ว่าหญิงสาวของตระกูลปีกกําลังขอยู่บนหลังของพยัคฆ์หินเขี้ยว ทําหน้าที่เหมือนกับควายขุดนา ทําการขุดไถพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขุดจนกลายเป็นร่องลึก จากนั้นก็ปลูกสมุนไพรวิญญาณลงไป
ภายในไม่กี่ลมหายใจ พื้นที่หลายร้อยกิโลเมตรก็กลายเป็นพื้นที่การเกษตรอย่างรวดเร็วปลูกสมุนไพรวิญญาณเป็นจํานวนมาก
กล่าวได้เพียงแค่ว่าสมกับที่พยัคฆ์หินเขี้ยวเป็นสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญจริงๆ เพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ก็ยังมีมดทองคํา สิ่งโตเก้าเศียร วานรอสูรสามตาและสายพันธุ์ที่หายสาบสูญตัวอื่นๆที่กําลังทํางานกันอยู่ พวกมันต่างก็ขยันขันแข็งกันอย่างมาก ไม่ได้มีท่าทีของการอุดอู่แม้แต่น้อย
“หืม? แล้วเจ้าเฝยอี้และนกอสูรทมิฬนั่นล่ะ?”
เชี่ยปิงก็ค้นพบว่าสายพันธุ์โบราณสองตัวได้หายไป ไม่ได้กําลังทํางานเหมือนกับตัวอื่นๆ
“เป็นเพราะว่าไม่มีใครต้องการพวกมัน อีกทั้งยังชอบการอุดกู้ เกียจคร้านในการทํางาน จึ ถูกข้ากักขังไว้ชั่วคราว ข้าก็กําลังคิดที่จะใช้ประโยชน์จากพวกมัน ทําให้พวกมันกลายเป็นพ่อพันธุ์ผลิตสายพันธุ์ที่หายสาบสูญตัวน้อยๆออกมาเป็นจํานวนมาก นี่ก็เป็นโครงการที่เข้าท่าอยู่เหมือนกัน”
กระทิงสีครามก็มีสีหน้าที่ตื่นเต้นออกมา มันโบกมือออกไป ทันใดนั้นภาพเสมือนจริงก็ฉายขึ้นมาเฝยอี้และนกอสูรทมิฬทั้งสองตัวก็ปรากฏอยู่ในภาพนี้
ทว่าสายพันธุ์ที่หายสาบสูญทั้งสองกลับมีท่าทางที่น่าสมเพชอย่างมาก ถูกกักขังไว้ในถ้ํา เหมือนว่าจะหิวโหยเป็นระยะเวลานาน ตอนนี้ก็ดูเหมือนคนที่เป็นโรคซึมเศร้า มีสีหน้าที่ท้อแท้สิ้นหวังอย่างมาก
“เยี่ยม
เชี่ยปิงก็พยักหน้า เมื่อรู้ว่าสายพันธุ์ที่หายสาบสูญเหล่านี้ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรขึ้นมา เขาก็รู้สึกผ่อนคลายลง การที่มอบหน้าที่จัดการดูแลสายพันธุ์ที่หายสาบสูญเหล่านี้ให้กับกระทิงสีครามนับว่าเป็นความคิดที่ถูกต้องแล้ว
“จริงสิ ต้นทารกน้อยทั้งเก้านั่นเป็นอย่างไรบ้าง?”
เขาก็นึกถึงต้นทารกน้อยที่ตนเองได้ครอบครองมาก่อนหน้านี้
“อยู่ในสภาวะที่ดี”
เมื่อได้ยินเสี่ยวิ่งยกประเด็นนี้ขึ้นมา กระทิงสีครามก็ดูตื่นเต้นอย่างมาก “ดินแดนที่ควบแน่นขึ้นมาจากผืนดินอําพันนั่นร้ายกาจอย่างมาก ข้างในมีพลังชีวิตและแร่ธาตุอื่นๆอย่างมหาศาล เหมาะสําหรับการปลูกสมุนไพรวิญญาณ”
“ต้นทารกน้อยทั้งเก้าก็เติบโตขึ้นมาด้วยดี เต็มไปด้วยพลังชีวิต คาดการณ์ได้ว่าภายในระยะเวลาสามหมื่นปี จะมีผลทารกน้อยออกมามากมาย ในอนาคตพวกเราจะสามารถครอบครองผลไม้วิญญาณได้นี้อย่างสม่ําเสมอและต่อเนื่อง”
“ทว่าสิ่งที่สําคัญยิ่งกว่าก็คือข้าค้นพบว่าลึกลงไปใต้ดินของดินแดนผืนนั้น ไม่คาดคิดว่าจะมีเมล็ดของต้นทารกน้อยซ่อนอยู่ อีกทั้งยังมีพลังชีวิตที่แกร่งกล้ามาก”
“เมล็ดของต้นทารกน้อย?”
เซียปิงก็ขมวดคิ้วเป็นปม
“ใช่ เป็นเมล็ดของมัน”
กระทิงสีครามก็กระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ “ในอดีต เจ้านายเก่าของข้าเคยได้กล่าวไว้ว่าเมี่อต้นทารกน้อยเข้าใกล้ความตาย สัญชาตญาณการดํารงอยู่ของพวกมันจะกระตุ้นให้พวกมันสีบทอดทายาท ทิ้งเมล็ดไว้เป็นจํานวนมาก”
“ระยะเวลาเนิ่นนานที่ผ่านมานี้ พวกมันก็ได้ให้กําเนิดผลทารกน้อยออกมาเป็นจํานวนมหาศาล แต่เป็นเพราะไม่มีใครเข้าไปในดินแดนแห่งนั้นได้ ผลทารกน้อยเหล่านี้จึงเน่าเสียและร่วงตกลงพื้น จากนั้นผลของมันก็จะละลายและหลอมรวมเข้ากับผืนดิน”
“ถึงแม้ว่าผลไม้เหล่านั้นจะเน่าเสียไปแล้ว ทว่าเมล็ดข้างในก็ยังไม่ได้น่าเสียไป หนําซ้ํายังฝังลึกลงไปใต้ดิน รอวันที่จะได้เจริญเติบโต ทะลวงเปลือกออกมา รอโอกาสของการเกิดใหม่”
มันก็บ่งบอกว่าเมล็ดของต้นทารกน้อยเหล่านี้กําลังอยู่ในสภาวะหลับใหล เพราะว่าไม่มีใครกระตุ้นมันขึ้นมา พวกมันจึงอยู่ในสภาวะดั้งเดิม
ทว่าตราบใดที่ดูแลพวกมันอย่างพิถีพิถัน เมล็ดเหล่านี้จะสามารถฟื้นขึ้นมาได้อย่างแน่นอนอีกทั้งหากให้เวลาพวกมัน พวกมันก็จะสามารถเติบโตขึ้นมากลายเป็นต้นทารกน้อยที่โตเต็มวัยได้เช่นกัน
“มีเมล็ดเหล่านี้อยู่มากแค่ไหน?”
เซี่ยปิงก็เอ่ยถาม
“ข้าได้นับอย่างละเอียดรอบคอบและค้นพบว่ามีเมล็ดอยู่ทั้งหมด18,793เมล็ด หากเติบโตขึ้นมาได้ทั้งหมด อย่างน้อยพวกเราก็จะมีต้นทารกน้อยอยู่ถึง18,000ต้น การที่จะประสบความสําเร็จยิ่งกว่าเซนต์เทวลิขิตก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป”
กระทิงสีครามก็พูดออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจ ถึงแม้ว่าเซนต์เทวลิขิตจะร้ายกาจอย่างแท้จริงทว่าหากเป็นเรื่องของเกษตรกรรมและเรื่องของการปลูกพืชนั้น มันก็มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
ทว่าสิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือเจ้านายคนปัจจุบันของมันมีต้นไม้โลกอยู่ นี่คือแหล่งพลังงานที่บริสุทธิ์ที่สุดสําหรับพืชเหล่านี้ ไม่ว่าจะเลี้ยงดูอย่างไร ต้นทารกน้อยเหล่านี้ก็จะไม่ตายไปอย่างแน่นอน
ในความเป็นจริง การเพาะปลูกต้นทารกน้อยเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ หากเพาะปลูกผิดวิธีและได้รับพลังงานหล่อเลี้ยงที่ไม่เพียงพอ พวกมันก็จะตายไปในทันที ดังนั้นระยะเวลาเนิ่นนานที่ผ่านมานี้เซนต์เทวลิขิตจึงปลูกต้นทารกน้อยได้เพียงแค่เก้าต้นเท่านั้น
แน่นอนว่านี่ก็เป็นเพราะเซนต์เทวลิขิตไม่ได้ให้ความสําคัญกับต้นทารกน้อยเหล่านี้มากนัก เพราะว่าถึงอย่างไรสําหรับเซนต์นั้น ผลทารกน้อยเหล่านี้ก็เป็นเพียงแค่ผลไม้ธรรมดาๆไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนัก