ตอนที่ 1936
ณ ผืนป่าในพื้นที่ของลูกปัดพิภพ
ในเวลานี้นกทมิฬขนาดเท่ากับฝ่ามือรวมถึงงูสีแดงที่มีความยาว20เซนติเมตรกําลังบินอยู่ในผืนป่าแห่งนี้ พวกมันก็คือนกอสูรทมิฬและเฝยอี๋ซึ่งได้ย่อขนาดลงนั่นเอง
พวกมันได้แอบหลบหนีออกมาจากช่องทางที่ได้ขุดไว้ ยังไม่มีใครที่สามารถตรวจจับการเคลี่อนไหวของพวกมันได้
เป็นเพราะในช่วงเวลานี้กระทิงสีครามกําลังยุ่งอยู่กับสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์หลายชนิดที่เซี่ยปังครอบครองมาได้ มันกําลังมองหาสถานที่เหมาะสมในการปลูกสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดชนิดนี้
– สําหรับนกอสูรทมิฬและเฝยอี๋นักโทษทั้งสอง มันก็ลืมไปเสียสนิท มันก็คิดว่าต่อให้สายพันธุ์โบราณทั้งสองตัวจะหลบหนีไป ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายวุ่นวายใดๆให้กับพื้นที่ของลูกปัดพิภพ
“สหายอสูรทมิฬ พวกเราจะทําอย่างไรต่อไป หรือว่าจะจับตัวเจ้าพวกหญิงสาวสารเลวเหล่านั้น ก่อนหน้านี้เจ้าพวกผู้หญิงบัดซบนั่นเพิกเฉยต่อพวกเราอย่างสมบูรณ์ ไม่คิดที่จะประมูลพวกเรา นี่คือความอัปยศอดสูที่ยิ่งใหญ่”
เฝยอี๋ก็ตะโกนออกมา มันต้องการที่จะจับตัวทาสหญิงสาวเหล่านั้น
“เจ้าโง่ การจับตัวพวกผู้หญิงเหล่านั้นจะได้ประโยชน์อะไร เข้าใจได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็นแล้วว่าพวกเธอเป็นเพียงแค่ลูกน้องระดับต่ํา เป็นทาสของเจ้าเผด็จการชั่วร้ายอู๋ตี้นั่นมีระดับสูงกว่าพวกเราเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นทาสระดับสูง”
นกอสูรทมิฬก็เอ่ยออกมา
“ทาสระดับสูง? มีการแบ่งระดับของทาสด้วยรึ?”
เฝยอี๋ก็เอ่ยถามอย่างสงสัยใคร่รู้
“แน่นอนว่ามี ทว่านี้ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องสนใจ สิ่งที่ควรสนใจก็คือการจับตัวหญิงสาวเหล่านั้นไม่ได้ทําประโยชน์ใดๆให้กับพวกเรา ยิ่งไปกว่านั้นข้างกายของหญิงสาวเหล่านั้นก็ยังมีสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญเป็นจํานวนมาก พวกมันกลายเป็นลูกน้องของหญิงสาวเหล่านั้นไปโดยปริยาย กลายเป็นคนทรยศของพวกเราสายพันธุ์โบราณ พวกเราจะไว้ใจพวกมันไม่ได้”
นกอสูรทมิฬก็พูดออกมาอย่างต่อเนื่อง “หากพวกเราเข้าไปติดต่อกับพวกมัน บางทีอาจจะถูกเจ้าพวกสายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญเหล่านั้นจับตัวได้ อีกทั้งก็ยังเป็นการเปิดเผยตําแหน่งของพวกเรา ทําให้พวกเราเผชิญกับบทลงโทษที่หนักหนาสาหัส”
“อะไรนะ? มีเรื่องเช่นนี้ด้วยรี ไม่คาดคิดว่าสายพันธุ์โบราณเหล่านั้นจะทรยศพวกเราได้ ช่างไร้ยางอายและน่ารังเกียจยิ่งนัก”
เฝยอี๋ก็ตะโกนออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
“เหอะ ใจคนหนังท้องกั้น เห็นนอกไม่เห็นใน ใครจะไปรู้กันว่าพวกมันคิดอะไรอยู่ สําหรับพวกมัน การจับตัวพวกเรานักโทษที่หลบหนี อาจจะทําให้พวกมันได้รับคุณความงามดีไป อาจจะแสวงหาผลประโยชน์เข้าตัวเองได้”
นกอสูรทมิฬก็พูดออกมา “สรุปสั้นๆก็คือพวกเราจะต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคนทรยศเหล่านั้น เพียงแค่ตามหาลูกน้องระดับสูงของสถานที่แห่งนี้โดยตรงและจับตัวลูกน้องระดับสูงผู้นั้นมา จากนั้นก็เจรจาต่อรองกับเจ้าบัดซบอู๋ตี้”
มันกระพือปีกอย่างต่อเนื่อง
“ทว่าบรรดาลูกน้องระดับสูงของสถานที่แห่งนี้อยู่ที่ใดกัน?”
เฝยอี๋ก็บ่งบอกว่าตนเองไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้
“ข้าก็รู้ว่าเจ้าคงจะไม่สังเกตดูอะไรรอบตัว ก่อนหน้านี้ที่พวกเราถูกจับไปประมูล ข้าก็บังเอิญสังเกตเห็นสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งจะต้องมีลูกน้องระดับสูงอาศัยอยู่เป็นแน่”
นกอสูรทมิฬก็พูดอย่างมีความสุข “สถานที่แห่งนั้นเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ มีหญิงสาวมากมายผ่านเข้าออกสถานที่แห่งนั้นอยู่ตลอดเวลา ราวกับเป็นสาวรับใช้ที่เข้าไปทําความสะอาด หากไม่ใช่ลูกน้องระดับสูง เป็นไปได้อย่างไรที่จะได้รับการปรนนิบัติเช่นนั้น”
“สถานที่แห่งนั้นอยู่ที่ใด?”
เฝยอี๋เอ่ยถาม
“ตามข้ามาก็พอ มันอยู่ไม่ไกลไปจากที่นี่”
นกอสูรทมิฬก็กระพือปีกเร็วขึ้น มุ่งหน้าออกไปอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะมีขนาดเท่ากับฝ่ามือเท่านั้น ทว่าความเร็วของมันก็ยังคงรวดเร็วอย่างสุดขีด ราวกับเป็นสายฟ้าสีทมิฬก็ว่าได้
ความเร็วของเฝยอี๋ก็ไม่ได้ด้อยกว่าเลย ร่างกายของมันเลื้อยไปตามอากาศ ติดตามไปอย่างรวดเร็ว
อย่างรวดเร็ว เฝยอี๋และนกอสูรทมิฬก็มาถึงที่คฤหาสน์หลังหนึ่ง
“ฮ่าฮ่า สถานที่แห่งนี้ไร้การป้องกันสิ้นดี ไม่คาดคิดว่าจะไม่มีแม้กระทั่งยามเฝ้า นี่เป็นการที่สวรรค์ช่วยเหลือข้าจริงๆ” เมื่อนกอสูรทมิฬมองเห็นสถานการณ์รอบๆของคฤหาสน์หลังนี้ มันก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที อิ่มอกอิ่มใจอย่างมาก
เพราะมันค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีผู้คุ้มกันแม้แต่คนเดียว ไม่มีใครที่จะขัดขวางมันได้ มันไม่คาดคิดว่าแผนการของตนเองจะดําเนินไปอย่างราบรื่นเช่นนี้
“เจ้ามนุษย์นั่นช่างโง่เขลาเกินไป แม้แต่ป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุดก็มักจะถูกทะลวงผ่านจากข้างใน
เฝยอี๋ก็กล่าวออกมาอย่างอวดดี
“ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะเข้าใจความจริงข้อนี้เช่นกัน”
นกอสูรทมิฬก็ตกใจเล็กน้อย หากเจ้าเฝยอี๋ไม่ได้อยู่ข้างกายของมันตลอดเวลา มันก็คงจะคิดว่ามีใครบางคนที่แอบปลอมตัวเป็นมัน
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร? นี่เป็นการเหยียดหยามข้าเฝยอี๋ ใครกันที่จะไม่รู้ว่าตระกูลเฝย ของข้ามีสติปัญญาที่หลักแหลม เพียงแค่บางครั้งคนฉลาดก็ต้องเสแสร้งแกล้งโง่เช่นกัน”
เฝยอี๋ก็พูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
“เอาล่ะ อย่ามัวแต่ไร้สาระ พวกเรารีบเข้าไปและลักตาตัวลูกน้องระดับสูงกันเถอะ” นกอสูรทมิฬก็กางปีกออกมา มันไม่ต้องการที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าเฝยอี๋
ซู่ ซู่ ซู่!!
สายพันธุ์โบราณที่หายสาบสูญทั้งสองก็แอบลักลอบเข้าไปอย่างง่ายดาย ไร้ร่องรอยและไร้เสียง ด้วยพลังอํานาจในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าของพวกมัน ต่อให้ตอนนี้พลังเวทมนตร์ส่วนใหญ่จะถูกปิดผนึกไว้ พวกมันก็ยังคงแสดงพลังอํานาจได้ในระดับหนึ่ง แม้แต่ยอดฝีมือในระดับกฏเทวรูปก็ไม่สามารถค้นพบพวกมันได้
หลังจากไม่กี่ลมหายใจ เฝยอี๋และนกอสูรทมิฬก็เข้าไปภายในส่วนลึกของคฤหาสน์หลังนี้
เห็นเพียงแค่ว่าในช่วงเวลานี้มีเด็กสาวตัวน้อยที่สวมใส่ชุดกระโปรงยาวสีดําคนหนึ่งที่กําลังรดน้ําดอกไม้อยู่ ดูมีความสุขอย่างมาก อีกทั้งก็ยังฮัมเพลงไปพร้อมๆกัน
เด็กสาวตัวน้อยนี้ก็คือลูน่านั่นเอง
“ฮ่าฮ่า เด็กสาวคนนี้แหละ ตราบใดที่จับเธอไปได้ พวกเราจะสามารถใช้เธอเป็นตัวประกัน เพื่อข่มขู่เจ้าอู๋ตี้” นกอสูรทมิฬก็ตื่นเต้นอย่างมาก
“ปล่อยให้ข้าจัดการเอง เด็กสาวตัวน้อยเช่นนี้ ไม่คณามือข้าสักนิด”
เฝยอี๋ก็ขออาสา ต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการมีส่วนร่วมกับแผนการ
“ใครกัน?!”
ทันใดนั้นลูน่าที่สวมใส่ชุดกระโปรงยาวสีดําก็หันหน้ามาอย่างรวดเร็ว เธอสัมผัสได้ว่ามีออร่าที่แปลกประหลาดสองออร่าเข้ามาในคฤหาสน์ของตนเอง ทันใดนั้นเธอก็รับรู้ได้อย่างกะทันหันว่าเฝยอี๋และนกอสูรทมิฬได้แอบลักลอบเข้ามาในสถานที่แห่งนี้
อะไรกัน?!
เดิมที่เฝยอี๋และนกอสูรทมิฬที่ยังคงรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจนั้น ทว่าทันใดนั้นพวกมันก็รู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันที รู้สึกได้ถึงออร่าแห่งความตายและการสังหารจากเด็กสาวคนนี้ เป็นออร่าที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ราวกับเป็นปีศาจร้าย
เหมือนว่าภายในร่างกายเล็กๆนั้นแอบแฝงไปด้วยออร่าความชั่วร้ายที่ไร้ที่สิ้นสุด นี่คือสิ่งมีชีวิตที่กระหายการฆ่าฟันคลุ้มคลั่งอย่างถึงที่สุด เพียงพอที่จะทําให้สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่หวาดกลัวได้
เพียงแค่ยืนอยู่ที่จุดๆเดิม สายพันธุ์โบราณทั้งสองนี้ก็รู้สึกหวาดกลัวจนสั่นเทิ้ม เหมือนว่านี่คือสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือกว่าพวกมัน ไม่อาจที่จะต้านทานได้
พวกมันก็สังเกตเห็นดวงสีดําของลูน่า ทันใดนั้นก็หวาดกลัวจนแทบจะเสียสติ นั่นไม่ใช่ดวงตา ทว่าเป็นขุมนรกที่มีดมีดที่สุด ดูเหมือนว่าจะกักขังภูตผีปีศาจและวิญญาณอาฆาตไว้นับไม่ถ้วน
เหมือนกับว่ามีวิญญาณอาฆาตจํานวนนับไม่ถ้วนที่ถูกกักขังไว้ในส่วนลึกของม่านตา กําลังร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แผ่ออร่าที่คลุ้มคลั่งออกมา ราวกับร่างกายขนาดเล็กนี้เป็นแหล่งรวมความชั่วร้ายทั้งหมดก็ว่าได้
ออร่าความมืดมิดที่ปกคลุมรอบๆฝ่ายตรงข้าม ราวกับเป็นบาปที่ลึกซึ้งที่สุดของอบิส สามารถที่จะทําให้พื้นที่บริเวณนี้กลายเป็นมลพิษได้
“หลบหนี หลบหนีเร็วเข้า นี่คือปีศาจ ปีศาจที่แท้จริง แม้แต่พวกสัตว์ร้ายบรรพกาลก็ยังไม่น่า สะพรึงกลัวเท่านี้!” นกอสูรทมิฬก็หวาดกลัวจนนี่ราด มันก็เป็นสายพันธุ์โบราณที่ดุร้าย สังหารผู้ คนมานับไม่ถ้วน ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตนี้ มันก็รู้สึกว่าตนเองต่ําต้อย มีขนาดเล็กเพียงนิด เดียว ราวกับว่าจะถูกกลืนกินเข้าไปได้ทุกเมื่อ
ในตอนนี้มันรู้สึกผิดอย่างถึงที่สุด เหตุใดจึงโง่เขลาเข้ามาลักพาตัวผู้อื่นที่นี่ นี่มีที่ไหนที่เป็นการลักพาตัว เห็นได้ชัดว่าเป็นการรนหาที่ตาย
ทว่ามันก็ไม่มีทางที่จะคิดได้ว่าเจ้าอู่ที่กําลังเลี้ยงดูสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ไว้ในคฤหาสน์
วิซ!
เฝยอี๋หันหลังกลับและพุ่งออกไปราวกับเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ ปลดปล่อยพลังอํานาจทั้งหมดออกมา หลบหนีออกไปสู่ระยะไกล
“เวรเอ๊ย เจ้าบัดซบนี้ไม่มีการห่วงใยพวกพ้องแม้แต่น้อย!”
นกอสูรทมิฬที่เห็นเช่นนี้ก็มีสีหน้าที่ซีดเผือด มันไม่ทันได้หลบหนีออกไปด้วยซ้ํา เจ้าอ้วนนี้กลับหลบหนีออกไปก่อนมันเสียอีก
เวรเอ๊ย เหตุใดมันถึงไม่รู้กัน ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ ในช่วงเวลาที่ต้องหลบหนี ไอคิวของเจ้างูนี้จะพุ่งสูงขึ้นมาในทันที มีไอคิวที่สูงกว่าใครหน้าไหน